เอเจนซีส์ - ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นครั้งที่ 2 ที่คาราคัสสั่งเปิดพรมแดนอนุญาตให้ประชาชนชาวเวเนซุเอลา สามารถเดินทางข้ามเข้าไปในโคลอมเบียเพื่อเลือกซื้ออาหารและยารักษาโรคได้ พบประชาชนร่วม 100,000 คนใช้โอกาสงามเดินทางข้ามพรมแดนต่อคิวซื้อของอย่างมีความสุข
บีบีซีรายงานวันนี้(18 ก.ค)ว่า พรมแดนระหว่างเวเนซุเอลาและดคลอมเบียได้เปิดขึ้นอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 2 ในเดือนนี้ที่รัฐบาลเวเนซุเอลาเปิดโอกาสให้ประชาชนที่ประสบปัญหาขาดแคลนสินค้าขั้นพื้นฐานอย่างยาวนาน สามารถเดินทางข้ามแดนจากรัฐตาชิรา (Tachira) เข้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้ โดยทางเจ้าหน้าที่เวเนฯเผยว่า ตัวเลขประชาชนเวเนฯที่ได้ขออนุญาตข้ามพรมแดนมีไม่ต่ำกว่า 100,000 คนล่าสุด เมื่อเทียบกับจำนวน 35,000 คนที่ข้ามพรมแดนเข้าโคลอมเบียในการเปิดพรมแดนครั้งแรกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
สื่ออังกฤษรายงานว่าในวันเสาร์(16 ก.ค) สะพานทางเท้าเชื่อมระหว่างรัฐตาชิราและเมืองกูกูตาในโคลอมเบีย ถือเป็นการเปิดเร็ว 1 วันจากกำหนดที่เจ้าหน้าที่ของทั้งสองชาติได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ แต่อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงว่า เพื่อป้องกันจำนวนคนที่มีมากเกินไป และอาจเป็นอุปสรรคต่อความคล่องตัวในการข้ามพรมแดนของทั้งสองประเทศ แต่กระนั้นจุดข้ามแดนยังคงเปิดอยู่จนถึงวันอาทิตย์(17 ก.ค)
ซึ่งประเทศลาตินอเมริกา เศรษฐีบ่อน้ำมันแต่กลับมีปัญหาการขาดแคลนสินค้าขั้นพื้นฐานอย่างหนัก ซึ่งที่ผ่านมากลุ่มการเมืองฝ่ายตรงกันข้าประธานาธิบดีเวเนซุเอลา นิดคลัส มาดูดรได้ออกมาตำหนิ โดยชี้ว่าเป็นเพราะนโยบายของรัฐที่ล้มเหลว ทำให้บริษัทและร้านค้าไม่สามารถนำเข้าวัตถุดิบที่สำคัญ รวมไปถึงส่วนประกอบที่จำเป็นสำหรับการผลิต
โดยประธานรัฐสภาเวเนฯ เฮนรี รามอส อัลลัพ(Henry Ramos Allup) ได้ออกมาให้ความเห็นว่า มาดูโรเพิกเฉยต่อทะเลมนุษย์ที่ได้ไหลข้ามแดนเพื่อซื้อหาอาหารเลี้ยงชีพ ส่วนสมาชิกรัฐสภาเวเนฯอาดรินา ปิชาโด( Adriana Pichardo)ได้ให้ความเห็นในเรื่องนี้เพิ่มเติมว่า “ประชาชนชาวเวเนซุเอลาพยายามหาซื้อสินค้าขั้นพื้นฐานที่รัฐบาลของตัวเองไม่สามารถจัดหาให้ได้” แต่มาดูโรได้กล่าวโต้ต่อเสียงคัดค้านเหล่านั้น โดยชี้ว่า รัฐบาลโซเชียลลิสต์ของเขาตกเป็นเหยื่อสงครามทางเศรษฐกิจ
บีบีซีรายงานว่า พรมแดนระหว่างเวเนซุเอลาและโคลอมเบียได้ถูกปิดลงในเดือนสิงหาคม 2015 หลังจากกลุ่มติดอาวุธโคลอมเบียได้โจมตีหน่วยทหารเวเนฯในระหว่างการลาดตระเวณบริเวณพรมแดน