เอพี – ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา นิโคลัส มาดูโร ออกแถลงการณ์ประกาศโครงการสู้ภัยอาหารขาดแคลนในวันจันทร์(11 ก.ค)และออกคำสั่งให้รัฐมนตรีกลาโหมเวเนฯ วลาดิมีร์ ปาดริโน(Vladimir Padrino)เป็นพ่องานจัดการเพิ่มการผลิตอาหารและการันตีการกระจายสินค้าทั่วประเทศโดยให้กองทัพเวเนฯเข้าควบคุมการดำเนินงานท่าเรือสำคัญ 5 แห่งทั่วประเทศ
เอพีรายงานเมื่อวานนี้(12 ก.ค)ว่า ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา นิโคลัส มาดูโร ออกแถลงการณ์ในวันจันทร์(11 ก.ค)ถึงการสู้ภัยการขาดคลนอาหารที่เขาอ้างว่าเกิดจากการวางแผนของฝ่ายตรงกันข้าม โดยในวันอังคาร(12 ก.ค) เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงกลาโหมเวเนซุเอลาจะได้รับมอบหน้าที่ใหม่ที่สำคัญ
ทั้งนี้ในแถลงการณ์มาดูโรเปิดเผยว่า ได้แต่งตั้งให้พลเอก เอเฟรน เวลาสโก(Efrain Velasco)แห่งกองทัพเวเนซุเอลาดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการควบคุม 5 ท่าเรือหลักของประเทศ
ซึ่งในการส่งกองทัพเข้าควบคุมครั้งนี้ มาดูโรมีจุดประสงค์เพื่อต้องการให้ถอนรากถอนโคนการคอรัปชัน และรวมไปถึงการกำจัดการจัดการผิดพลาดในด่านการนำเข้าอาหารสู่เวเนซุเอลา ซึ่งก่อนหน้านี้ท่าเรือเหล่านี้อยู่ภายใต้การบริหารของฝ่ายพลเรือน
และในการประกาศ ประธานาธิบดีเวเนฯกล่าวว่า เขาใช้อำนาจตามคำสั่งฉุกเฉินวิกฤตเศรษฐกิจที่ได้เคยปร่ะกาศไว้เมื่อต้นปีนี้
เอพีรายงานว่า หลังจากเวเนซุเอลาต้องประสบปัญหาการขาดแคลนอาหารและสินค้าอย่างหนักหน่วงมากขึ้นในปี 2016 ดูเหมือนว่ามาดูโรจะต้องใช้บริการจากกองทัพเวเนฯและกลุ่มชุมชนที่สนับสนุนรัฐบาลของเขามากขึ้นในการช่วยกระจายสินค้าหลัก และแก้ปัญหาการต้องใช้เวลานานในระหว่างการรอเพื่อซื้อของจับจ่าย ซึ่งเป็นเหตุทำให้เกิดการปล้นสะดมร้านค้า รวมไปถึงการจลาจลตามมาเพราะประชาชนเหล่านี้ทนหิวไม่ไหว และนอกจากนี้ยังพบว่าที่ผ่านมามาดูโรได้เพิ่มมาตรการความเข้มงวดของระบบปันส่วนที่อนุญาตให้ประชาชนชาวเวเนฯสามารถเข้าซื้ออาหารและปัจจัยพื้นฐานได้ในบางวันเท่านั้น
แต่อย่างไรก็ตาม เอพีชี้ว่า ยังไม่แน่ชัดในเบื้องต้นว่า มาตรการแก้ไขที่ออกมานี้จะได้ผล
ทั้งนี้ปาดริโน พลเอกประจำกองทัพเวเนฯ ที่ได้รับการฝึกในสหรัฐฯซึ่งดำรงอยู่ในตำแหน่งสูงในขณะนี้ถือเป็นคนที่มาดูโรไว้ใจมากที่สุด ซึ่งในวันแรกของการทำหน้าที่ใหม่ ปาดริโนประกาศที่จะจัดการและควบคุมการกระจายอาหารอย่างเป็นระบบ
โดยในการให้สัมภาษณ์ในวันอังคาร(12 ก.ค)ปาดริโนแถลงว่า “นี่ไม่ใช่การทหาร ผมไม่ชอบการแทรกแซงจากกองทัพในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้อง แต่นี่เป็นส่วนหนึ่งของความมั่นคงของชาติและการปกป้องประเทศบ้านเกิด”
เอพีรายงานว่า ในช่วงเดือนที่ผ่านมา มีคนอย่างน้อย 5 รายต้องเสียชีวิตในการปะทะกับเจ้าหน้าที่ หลังเกิดจลาจลขึ้น
