รอยเตอร์ - ฝ่ายค้านเวเนซุเอลายืนยันวันนี้ (23 มิ.ย.) ว่า สามารถรวบรวมรายชื่อบุคคลที่มีสิทธิออกเสียงได้มากพอที่จะขอจัดทำประชามติถอดถอนประธานาธิบดี นิโคลัส มาดูโร ออกจากตำแหน่งแล้ว หลังจากกระบวนการตรวจสอบรายชื่อได้เริ่มขึ้นในสัปดาห์นี้
สภาเลือกตั้งแห่งชาติเวเนซุเอลา (CNE) มีคำสั่งให้ประชาชนกว่า 1 ล้านคนที่เข้าชื่อเรียกร้องให้มีการจัดทำประชามติปลด มาดูโร วัย 53 ปี ออกจากตำแหน่ง ต้องเดินทางไปแสดงตัวที่สำนักงานการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นเพื่อยืนยันตัวตน
“เรารวบรวมรายชื่อได้ตามเป้าแล้ว... ขณะนี้มีอยู่มากกว่า 236,000 รายชื่อ” การ์โลส โอคาริซ ผู้อำนวยการเขตคนหนึ่งในกรุงการากัสซึ่งเข้าร่วมกับฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์
CNE ได้คัดรายชื่อ “ผู้ไม่มีสิทธิ์โหวต” ออกไปกว่า 1 ใน 4 จากทั้งหมดเกือบ 2 ล้านรายชื่อที่ฝ่ายค้านรวบรวมมาได้
การพิจารณาจัดทำประชามติในเวเนซุเอลาจะต้องมีพลเมืองเข้าชื่อสนับสนุนเกินกว่า 200,000 คนขึ้นไป และหากพบว่ารายชื่อมีความถูกต้อง ฝ่ายค้านก็จะต้องเชิญชวนประชาชนให้มาเข้าชื่ออีกครั้งถึง 3.9 ล้านคน ภายในเวลา 3 วัน
หลังจากนั้น หาก CNE พิจารณาว่ารายชื่อมีความถูกต้อง การทำประชามติก็จะมีขึ้นภายใน 90 วัน
การจะปลดมาดูโรออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีนั้นต้องได้รับคะแนนโหวตเกิน 7.5 ล้านเสียงขึ้นไป ซึ่งพอๆ กับคะแนนที่เขาเคยได้รับในการเลือกตั้งเมื่อปี 2013 หลังอดีตผู้นำหัวซ้าย อูโก ชาเบซ ถึงแก่กรรม
นักวิจารณ์ส่วนใหญ่กล่าวหาว่ารัฐบาลเวเนซุเอลาพยายามเตะถ่วงการทำประชามติ และมาดูโรเองก็ออกมาประกาศแล้วว่าจะไม่มีการทำประชามติเกิดขึ้นภายในปีนี้แน่นอน
ช่วงเวลาในการทำประชามตินับว่ามีความสำคัญ เพราะหากมาดูโรถูกลงประชามติถอดถอนในปีนี้ CNE ก็จะต้องประกาศจัดการเลือกตั้งทั่วไปใหม่ ซึ่งผลโพลชี้ว่ามาดูโรมีแนวโน้มสูงมากที่จะแพ้
อย่างไรก็ตาม หากการลงประชามติถอดถอนเกิดขึ้นหลังเดือน ม.ค. ปีหน้า รองประธานาธิบดีจะก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทนมาดูโร ซึ่งหมายความว่าพรรคสังคมนิยมจะยังยื้ออำนาจต่อไปได้อีก
เวเนซุเอลาซึ่งอยู่ในกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) กำลังเผชิญวิกฤตรุมเร้าหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นภาวะขาดแคลนอาหารและยารักษาโรค ปัญหาไฟฟ้าดับบ่อยๆ การปล้นชิงทรัพย์สิน และภาวะเงินเฟ้อรุนแรง