รอยเตอร์ - ระลอกคลื่นแห่งการปล้นสะดมและจลาจลทางอาหารในเวเนซุเอลา ชาติที่กำลังตกอยู่ท่ามกลางวิกฤต ได้คร่าชีวิตผู้คนไป 3 รายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่และกลุ่มสิทธิมนุษยชนในวันจันทร์ (13 มิ.ย.)
สำนักงานอัยการเวเนซุเอลากำลังสืบสวนการตายของชายวัย 21 ปีรายหนึ่งในรัฐซูเกรเมื่อวันเสาร์ (11 มิ.ย.) และชายวัย 21 ปีอีกคนในเขตชุมชนแออัดเปตาเร ในกรุงการากัสเมื่อวันพฤหัสบดี (9 มิ.ย.) เช่นเดียวกับผู้หญิงวัย 42 ปี ในรัฐตาชีราในวันจันทร์ที่แล้ว (6 มิ.ย.) ทั้งนี้มีการจับกุมตำรวจนายหนึ่งในความเกี่ยวข้องกับเหตุเสียชีวิตในตาชีรา
กลุ่มสิทธิมนุษยชนโปรเวียเผยว่า ทั้ง 3 รายมีบาดแผลถูกยิงระหว่างสถานการณ์ความยุ่งเหยิงด้านนอกซูเปอร์มาร์เกตต่างๆ ซึ่งกลายเป็นจุดล่อแหลมของเหตุรุนแรงและการปล้นสะดมท่ามกลางภาวะขาดแคลนปัจจัยพื้นฐานทั่วเวเนซุเอลา ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกโอเปก
ด้วยปัจจัยพื้นฐานอย่างเช่นแป้งและข้าวกำลังขาดแคลนอย่างหนัก ฝูงชนที่ร้องตะโกนว่า “เราต้องการอาหาร” ต่างพากันมาออตามซูเปอร์มาร์เกตต่างๆ ในทุกๆ วัน กลายเป็นปัญหาใหญ่ของรัฐบาลฝ่ายซ้ายของประธานาธิบดี นิโคลัส มาดูโร ขณะที่กลุ่มสังเกตการณ์ความรุนแรงเวเนซุเอลาเผยว่ามีเหตุปล้นสะดมเกิดขึ้นอย่างน้อยๆ 10 เหตุการณ์ต่อวัน
ฝ่ายค้านทางการเมืองในเวเนซุเอลากำลังเดินหน้าเรียกร้องให้จัดทำประชามติในความพยายามถอดถอนนายมาดูโรพ้นจากตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม นายมาดูโร วัย 53 ปี ซึ่งชนะเลือกตั้งเข้ามาสานอำนาจต่อจากนายฮูโก ชาเบซ ในปี 2013 และรัฐบาล กล่าวหาฝ่ายค้านว่าจงใจกระพือปัญหาและหวังก่อรัฐประหาร