เอเอฟพี - ตำรวจเวเนซุเอลายิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ประท้วงนับพันคนที่ละเมิดประกาศ “ภาวะฉุกเฉิน” ออกมาเดินขบวนเรียกร้องให้มีการทำประชามติถอดถอนประธานาธิบดี นิโคลัส มาดูโร ออกจากตำแหน่ง เมื่อวานนี้ (18 พ.ค.)
มาดูโร ขู่จะออกคำสั่งใช้มาตรการพิเศษ “อย่างไม่ลังเล” เพื่อ “ปกป้องสันติภาพและความมั่นคงของประเทศ” หากการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลครั้งนี้ลุกลามจนเกิดเหตุรุนแรง
ฝ่ายค้านเวเนซุเอลาได้จัดการชุมนุมใหญ่ทั้งที่กรุงการากัส และในอีกหลายสิบเมืองทั่วประเทศ เพื่อกดดันให้มีการจัดหยั่งเสียงประชาชนว่าด้วยการถอดถอนมาดูโรภายในปีนี้
เอกสารคำร้องขอจัดทำประชามติซึ่งมีชาวเวเนซุเอลาร่วมเข้าชื่อกว่า 1.8 ล้านคน ได้ถูกส่งไปยังสภาการเลือกตั้งแห่งชาติ (CNE) เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน
ผู้สื่อข่าวและผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า ตำรวจและทหารใช้แก๊สน้ำตาและสเปรย์พริกไทยเข้าสกัดกั้นกลุ่มผู้ประท้วงราว 1,000 คนที่พยายามจะเดินฝ่าเข้าไปในสำนักงานใหญ่ของ CNE แต่ก็ถูกผู้ชุมนุมตอบโต้ด้วยการขว้างปาก้อนหินและขวดน้ำ
ฝ่ายค้านและกลุ่มเอ็นจีโอระบุว่า ได้เกิดการปะทะขึ้นระหว่างการชุมนุมประท้วงใน 5 รัฐของเวเนซุเอลา และมีผู้ถูกจับกุมประมาณ 30 คน
เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (13) รัฐบาลมาดูโรได้ออกกฤษฎีกาประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศเป็นเวลา 60 วัน และให้อำนาจอย่างกว้างขวางแก่ตำรวจและทหารในการรักษาความสงบเรียบร้อย รวมถึง “ระงับ” การรับรองสิทธิและเสรีภาพของพลเมืองตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว เพื่อปราบปรามสิ่งที่ประธานาธิบดีเรียกว่าเป็น “ภัยคุกคามความมั่นคง ทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ”
สภาคองเกรสซึ่งฝ่ายค้านกุมเสียงข้างมากปฏิเสธที่จะรับรองการประกาศภาวะฉุกเฉินของ มาดูโร ซึ่งพวกเขาอ้างว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ แต่ถึงกระนั้น ศาลสูงสุดซึ่งผู้พิพากษาส่วนใหญ่ได้รับการแต่งตั้งโดยอดีตประธานาธิบดีหัวซ้าย อูโก ชาเบซ ก็อาจจะมีคำตัดสินลบล้างได้
ฝ่ายค้านได้เรียกร้องให้ประชาชนชาวเวเนซุเอลาออกมาแสดงพลังท้าทายประกาศภาวะฉุกเฉิน และยังขอให้กองทัพตัดสินใจว่าจะหยัดยืนปกป้องรัฐธรรมนูญ หรือมาดูโร
มาดูโร ผู้ซึ่ง ชาเบซ ได้คัดเลือกเองกับมือให้เป็นทายาททางการเมือง อ้างว่ารัฐบาลของเขากำลังถูกแทรกแซงโดยสหรัฐฯ ซึ่งร่วมมือกับพวก “ฟาสซิสต์” ฝ่ายขวาเพื่อที่จะโค่นรัฐบาลพรรคสังคมนิยม
เขายังอ้างหลักฐานยืนยันเรื่องนี้ โดยระบุว่า เครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนภัยทางอากาศ (AWACS) ของสหรัฐฯ ได้รุกล้ำน่านฟ้าเวเนซุเอลาถึง 2 ครั้งเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งทางกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้ออกมาปฏิเสธวานนี้ (18) ว่าไม่เป็นความจริง
เมื่อไม่นานมานี้ เจ้าหน้าที่ข่าวกรองสหรัฐฯ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า พวกเขาเป็นกังวลและเห็นแนวโน้มว่าเวเนซุเอลากำลังจะเข้าสู่ภาวะ “ล้มละลาย” ทั้งในด้านสังคมและเศรษฐกิจ ส่วนประธานาธิบดี มาดูโร ก็อาจหลุดเก้าอี้ผู้นำประเทศก่อนครบวาระ
รองประธานาธิบดีอริสโตบูโล อิสตูริซ ประณามข้อเรียกร้องขอทำประชามติถอดถอน มาดูโร ว่าเป็นแค่ “กลลวง” และท้าให้ฝ่ายค้านออกมาสู้กันอย่างเป็นธรรมในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีซึ่งจะมีขึ้นอีกครั้งในเดือน ธ.ค. ปี 2019
“ถ้าพวกคุณชนะ มาดูโรก็จะต้องสละอำนาจ ง่ายๆ แค่นี้เอง พวกคุณมีปัญหาอะไรหรือ” เขาตั้งคำถาม
