เอเอฟพี - ชาวเวเนซุเอลายืนต่อแถวมอบลายนิ้วมือแก่เจ้าหน้าที่ในวันจันทร์ (20 มิ.ย.) ขั้นตอนสำคัญในความพยายามบีบประธานาธิบดี นิโคลัส มาดูโร พ้นจากอำนาจ หลังภาวะขาดแคลนอาหารโหมกระพือวิกฤตประท้วงและปล้นสะดมนองเลือดภายในประเทศแห่งนี้
ฝูงชนฝ่ายต่อต้านนายมาดูโรต่อแถวมอบลายนิ้วมือเพื่อเจ้าหน้าที่ด้านการเลือกตั้งจะได้ลงนามรับรองว่าเป็นตัวจริงในคำร้องเรียกร้องจัดลงประชามติเกี่ยวกับการปกครองของเขา
ขั้นตอนดำเนินการในสัปดาห์นี้ถือเป็นการชี้เป็นชี้ตายความพยายามเพิกถอนนายมาดูโร โดยทางฝ่ายค้านบอกว่าจำเป็นต้องถอดเขาพ้นจากเก้าอี้เพื่อกอบกู้ชาติในอเมริกาใต้แห่งนี้ให้พ้นจากหายนะทางเศรษฐกิจ
ฝูงชนจำนวนมากถือบัตรประชาชนต่อแถวมามอบลายนิ้วมือ ณ สภาเลือกตั้งแห่งชาติในกรุงการากัสและที่อื่นๆ ซึ่งโดยรวมแล้วมีการจัดตั้งจุดรวบรวมลายนิ้วมือ พร้อมเครื่องสแกนลายนิ้วมือ 128 แห่งทั่วประเทศ
ฝ่ายค้านจัดเตรียมรถบัสพาผู้สนับสนุนมายังจุดรวบรวมลายนิ้วมือ และร้องขอผู้มีรถพาเพื่อนบ้านโดยสารมายังจุดที่ขึ้นรถบัสด้วย
กระบวนการยืนยันตัวตนมีเวลาจนถึงวันศุกร์นี้ (24 มิ.ย.) ขณะที่จากทั้งหมด 1.3 ล้านคนในคำร้องเบื้องต้นที่ส่งถึงคณะกรรมการเลือกตั้ง จำเป็นต้องผ่านการพิสูจน์ตัวตนว่าเป็นจริงอย่างน้อย 200,000 รายชื่อ ในการเดินหน้าสู่ขั้นตอนต่อไป
โดยในขั้นตอนต่อไปคือจำเป็นต้องรวบรวมรายชื่อให้ได้อย่างน้อย 4 ล้านรายชื่อเพื่อเรียกร้องจัดทำประชามติอย่างสมบูรณ์
เวเนซุเอลา ชาติที่พึ่งพาการส่งออกน้ำมัน ต้องประสบกับวิกฤตทางเศรษฐกิจ อันมีต้นตอจากราคาน้ำมันที่ตกต่ำ โดยพลเรือนประสบกับปัญหาขาดแคลนสินค้าพื้นฐานและอาหาร เช่นเดียวกับภาวะไฟดับ ขณะที่ฝ่ายค้านบอกว่าการบริหารจัดการเศรษฐกิจที่ผิดพลาดของนายมาดูโรก็ควรถูกกล่าวโทษเช่นกัน
วิกฤตได้คุกคามนายมาดูโรและโมเดลเศรษฐกิจที่นำโดยรัฐซึ่งเขาสืบทอดมาจากอดีตประธานาธิบดี ฮูโก ชาเบซ อย่างไรก็ตาม นายมาดูโรกล่าวโทษว่ามันมีต้นตอจากการทำสงครามเศรษฐกิจโดยประเทศทุนนิยมคู่ปรับของเขา ด้วยกล่าวหาเป็นฝีมือศัตรูเก่าอย่างสหรัฐฯ ที่กำลังแทรกแซงกิจการภายในของเวเนซุเอลา
นายมาดูโรคัดค้านความพยายามจัดทำประชามติ ด้วยกล่าวหาว่ามีความผิดปกติในขั้นตอนรวบรวมรายชื่อ โดยระบุว่ารายชื่อที่รวบรวมมานั้นมีพวกนักโทษที่ขาดคุณสมบัติในการโหวตรวมอยู่ด้วย
วิกฤตอาหารของเวเนซุเอลาเลี้ยวเข้าสู่การปล้นสะดมนองเลือดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ด้วยเจ้าหน้าที่เผยว่ามีประชาชนอย่างน้อย 5 รายเสียชีวิตและมีผู้ถูกจับกุมมากกว่า 400 คน
ประธานาธิบดีเตือนว่าเขาอาจประกาศมาตรการฉุกเฉินหากต้องเผชิญสถานการณ์ความรุนแรงมากกว่านี้ ซึ่งมาตรการเหล่านั้นจะเป็นตัวขัดขวางการทำประชามติถอดถอนเขา
ทางฝ่ายค้านจำเป็นต้องเร่งมือให้กระบวนการถอดถอนนายมาดูโรเสร็จสิ้นภายในวันที่ 10 มกราคม ปีหน้า ซึ่งเป็นเส้นตายสำหรับการจัดเลือกตั้งใหม่ โดยหลังจากวันนั้น หากการลงมติถอดถอนประสบความสำเร็จ อำนาจก็จะถูกส่งผ่านจากนายมาดูโรไปยังรองประธานาธิบดี
เดลซา โซลอร์ซานา ส.ส.ฝ่ายค้าน บอกว่าประชามติน่าจะมีขึ้นราวๆ ต้นเดือนพฤศจิกายน เพื่อโอกาสถอดถอนนายมาดูโรประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งเตือนว่าความรุนแรงใดๆ ระหว่างรวบรวมรายชื่อในสัปดาห์นี้ อาจทำให้กระบวนการนี้ถูกระงับ