เอเจนซีส์ – รัฐมนตรีต่างประเทศโคลอมเบีย มาเรีย อังเคลา โอลกิน กูเอยาร์ (Maria Angela Holguin Cuéllar) ออกแถลงการณ์ การตัดสินใจสั่งปิดพรมแดนโคลอมเบียฝั่งเมืองเมืองกูกูตา (Cúcuta) ที่ข้ามเข้าไปยังรัฐตาชีรา(Tachira)ของเวเนซุเอลา เพื่อบังคับให้คาราคัสออกคำสั่งเปิดด่านถาวร หลังจากทั้ง 2 ชาติยอมเปิดด่านชั่วคราวเพื่อบรรเทาทุกข์ประชาชนเวเนซุเอลาจากปัญหาขาดแคลนอาหาร ซึ่งสื่อ CNN รายงานสภาพวิกฤตเด็กนักเรียนเวเนฯหิวจนเป็นลม สารภาพไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เมื่อวาน พร้อมวาดพาสต้าและไก่ต่างอาหารที่อยากกิน
สื่อยูพีไอรายงานเมื่อวานนี้(20 ก.ค)ว่า หลังจากที่โคลอมเบียและเวเนซุเอลาตัดสินใจเปิดด่านร่วมกันเป็นเวลา 2 ครั้งในเดือนนี้เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนชาวเวเนซุเอลาสามารถข้ามแดนเข้าไปยังเมืองกูกูตา (Cúcuta)จากรัฐตาชีรา(Tachira)เพื่อซื้ออาหารและยา หลังจากประเทศแดนบ่อน้ำมันประสบปัญหาขาดแคลนสินค้าขั้นพื้นฐานขั้นวิกฤตจนทำให้เด็กนักเรียนเวเนฯจำนวนมากต้องเป็นลมเพราะความหิวมาแล้ว แต่กระนั้นมาเรีย อังเคลา โอลกิน กูเอยาร์ (Maria Angela Holguin Cuéllar) ออกแถลงการณ์ว่า รัฐบาลโคลอมเบียตัดสินใจปิดด่านต่อไปเพื่อเป็นการบังคับให้ทางรัฐบาลเวเนซุเอลาของประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโรตัดสินใจสั่งเปิดด่านถาวรในที่สุด
ทั้งนี้ในการรายงานของ CNN สื่อสหรัฐฯในจันทร์(18 ก.ค)พบว่า วิกฤตการขาดแคลนอาหารได้เข้าสู่รั้วโรงเรียนแดนเศรษฐีน้ำมันเรียบร้อยแล้ว มีเด็กนักเรียนจำนวนมากสารภาพว่า ไม่ได้รับประทานอะไรเลย และมีปัญหาด้านภาวะขาดโภชนาอย่างรุนแรง โดยในวิดีโอการให้สัมภาษณ์ของเด็กหญิงเวเนฯรายหนึ่ง เธอเปิดเผยว่า เธอไม่ได้รับประทานอะไรเลย และรู้สึกมึนศรีษะ รวมไปถึงมีอาการคลื่นไส้อย่างแรง และหลังจากนั้นเธอได้เป็นลมหมดสติไป
ซึ่งในการรายงานของสื่อสหรัฐฯพบว่า โรงเรียนแห่งหนึ่งในกรุงคาราคัสได้ทำการสำรวจนักเรียนของตัวเองเพื่อต้องการทราบสาเหตุว่า เหตุใดจึงมีนักเรียนจำนวนมากเป็นลมสลบ โดยได้ออกแบบสอบถามไปยังเด็กนักเรียนเหล่านี้ และในแบบสอบถาม ได้มีคำถามเป็นต้นว่า “คุณทานอะไรเป็นอาหารเช้าวันนี้” “คุณทานอะไรเป็นอาหารกลางวันในวันนี้” และหลังจากตรวจสอบ โรงเรียนคาราคัสพบว่า เกือบ 25% ของนักเรียนทั้งหมดของโรงเรียนแห่งนี้ ประสบปัญหาป่วยด้วยโรคขาดสารอาหาร ตัวเลขภาวะการขาดโภชนาการในเด็กนักเรียนเวเนฯ ช่วงระหว่างเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคมนั้นพบว่าเพิ่มถึง 3 เท่า โดยพบว่าเด็กเหล่านั้นมีอาการปวดหัวและปวดท้อง
และในการให้สัมภาษณ์ของเด็กชายเวเนฯอีกราย ผู้สื่อข่าว CNN ได้ตั้งคำถามกับเด็กชายผู้นี้ว่า หากมีคนมาขอให้วาดภาพอาหารที่เด็กชายผู้นี้รับประทานเมื่อวานนี้ เด็กชายผู้นี้จะวาดภาพอะไร และคำตอบของเด็กผู้นี้ ทำให้ผู้สื่อข่าวสาวต้องถึงกับอึ้งเมื่อพบว่า เด็กน้อยตอบกลับมาว่า “ไม่มี” และกล่าวต่อว่า “ผมไม่ได้รับประทานอะไรเลยเมื่อวานนี้เช่นกัน” และเมื่อถามต่อว่า และหากขอให้วาดถึงอาหารที่ต้องการรับประทานให้ชม เด็กน้อยคนนี้ได้ลงมือวาดภาพ “พาสต้าและไก่” มื้อโอชะที่เขาเฝ้ารอ
นอกจากนี้ในรายงานพิเศษชิ้นนี้ของ CNN ยังพบว่า มีเด็กนักเรียนชาวเวเนฯจำนวนหนึ่งต้องยอมขาดเรียนเพื่อช่วยผู้ปกครองยืนรอต่อแถวเข้าคิวซื้ออาหารที่มีเวลาการรอยาวนานไม่ต่ำ 5 ชม.
และยูพีไอยังชี้ต่อว่า ในการให้สัมภาษณ์ของรัฐมนตรีต่างประเทศโคลอมเบีย อังเคลา โอลกินได้ยืนยันว่า จะต้องมีแผนงานออกมาเพื่อเป็นหลักประกันให้บริเวณพรมแดนระหว่างโคลอมเบียและเวเนซุเอลามีความปลอดภัย และป้องกันไม่ให้เกิดอาชญากรรมเกิดขึ้นในพื้นที่นี้ ซึ่งเธอชี้ว่า เจ้าหน้าที่ของทั้งสองชาติกำลังอยู่ในระหว่างการทำงานร่วมกันเพื่อทำให้ด่านบริเวณพรมแดนสามารถกลับมาเปิดได้อีกครั้ง โดยอังเคลา โอลกิน มีกำหนดพบปะหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศเวเนซุเอลา เดลซี โรดริเกวซ (Delcy Rodríguez)ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ยูพีไอรายงานว่า โคลอมเบียมีพื้นที่ติดกับเวเนซุเอลาเป็นระยะทางร่วม 1,400 ไมล์ ซึ่งที่ผ่านมาถือเป็นพื้นที่สีเทา โดยพบว่ามีปัญหาอาชญากรรมการลักลอบขนสินค้าเถื่อนมาโดยตลอด และในปีที่ผ่านมามาดูโรได้ลงนามในคำสั่งปิดพรมแดนระหว่างทั้งสองชาติ หลังกองกำลังทหารลาดตระเวนเวเนฯถูกกลุ่มติดอาวุธซุ่มโจมตีในระหว่างลาดตระเวนป้องกันการลักลอบขนสินค้าราคาถูกจากเวเนฯออกไปขายในโคลอมเบีย
และในวันจันทร์(18 ก.ค)มีรายงานว่าผู้ว่าการรัฐตาชีรา โฮเซ วีลมา โมรา(José Vielma Mora)ได้เข้าพบกับอังเคลา โอลกิน ซึ่งในการหารือของทั้งสองฝ่าย ได้มีมติร่วมกันว่าในสุดสัปดาห์ที่จะมาถึงนี้ จะไม่การเปิดด่านข้ามพรมแดน ทั้งนี้จากการรายงานของเอล ยูนิเวอร์แซล(El Universal )วีลมา โมราได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวในวันจันทร์(18 ก.ค) โดยกล่าวว่า เชื่อว่าการเปิดด่านชั่วคราวนั้นให้การเจรจาเปิดด่านถาวรและช่องทางกฎหมายที่มีระหว่างโคลอมเบียและเวเนซุเอลาต้องถูกเลื่อนออกไป
ทั้งนี้ในการเปิดด่านครั้งที่ 2 วันสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงต่างประเทศโคลอมเบียได้ประเมินตัวเลขประชาชนชาวเวเนฯที่เดินทางข้ามฝั่งเข้ามาเพื่อซื้ออาหารและยาในวันเสาร์(16 ก.ค)มีจำนวนราว 35,000 คน และในวันอาทิตย์(17 ก.ค)มีสูงถึง 88,000 คน โดยข้ามแดนด้วยสะพานนานาชาติไซมอน โบลิวาร์ (Simon Bolivar international bridge) เพื่อไปหาซื้ออาหารและสิ่งของจำเป็นในเมืองกูกูตา (Cúcuta) เมืองเอกของ จ.นอร์เตเดซันตันเดร์ (Norte de Santander) ในโคลอมเบีย
ซึ่งในการรายงานของยูพีไอในวันจันทร์(18 ก.ค)พบว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติโคลอมเบียต้องอารักขารถบรรทุกอาหารถึง 46 คันส่งเข้าไปยังเมืองกูกูตาที่เป็นเมืองชายแดนติดเวเนซุเอลา หลังมีการเกรงว่าอาหารจะขาดแคลน และราคาพุ่งสูงขึ้นเนื่องมาจากประชาชนชาวเวเนฯกว่า 123,000 ทะลักเข้ามากว้านซื้อสินค้ากลับประเทศ
และในช่วงความโกลาหลของกองทัพประชาชนชาวเวเนฯเดินเท้าเข้าเมืองกูกูตา มีเด็กชายชาวเวเนฯคนหนึ่งเกิดพลัดหลงกับครอบครัว แต่ทว่าโชคดีที่ทางตำรวจโคลอมเบียในพื้นที่สามารถช่วยตามหาพ่อแม่ของหนูน้อยจนสามารถกลับคืนสู่อ้อมอกได้สำเร็จ