xs
xsm
sm
md
lg

“เวเนซุเอลา” สั่งปรับราคาน้ำมันในรอบ 20 ปี จาก 3 บาทต่อลิตรเป็น 21 บาท ลดค่าเงินโบลิวาร์ ท่ามกลางเงินเฟ้อทุบสถิติ 720%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ประธานาธิบดี นิโคลัส มาดูโร สั่งเพิ่มราคาน้ำมันเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี จาก 3 บาท 60 สตางค์ต่อลิตร เป็น 21 บาท 35 สตางค์ต่อลิตร พร้อมยังลดค่าเงินโบลิวาร์ลงอีก ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจดิ่งเหว ด้วยตัวเลขเงินเฟ้อในปี 2016 ที่สถาบันการเงินระหว่างประเทศ IMF ทำนายว่าจะสูงถึง 720%

เป็นอีกครั้งที่สถานการณ์ทางเศรษฐกิจทำให้ผู้นำเวเนซุเอลา นิโคลัส มาดูโร ต้องตกอยู่ในความคับขัน ล่าสุดเอเอฟพีรายงานว่า เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปีที่เวเนซุเอลาประกาศขึ้นราคาน้ำมันจาก 1 เซ็นต์ต่อลิตร หรือ 3 บาท 60 สตางค์ เป็น 60 เซ็นต์ต่อลิตร หรือ 21 บาท 35 สตางค์ ตามราคาในวันนี้ (18 ก.พ) ในขณะที่ราคาน้ำมันประเทศอื่น เป็นต้นว่า ไทยมีราคาเบนซิน 91 ที่ 21.73 บาท ในขณะที่ในอีสต์เบย์ ทางแคลิฟอร์เนียเหนือ ราคาน้ำมันต่อแกลลอน 2.11 ดอลลาร์ในราคาเมื่อวานนี้ (17 ก.พ.)

เอเอฟพีรายงานว่า ในแถลงการณ์ของมาดูโรระบุว่า ราคาน้ำมันปรับขึ้นจาก 0.1 โบลิวาร์ (3 บาท 60 สตางค์) เป็น 6 โบลิวาร์ (21 บาท 35 สตางค์) ซึ่งเป็นการปรับขึ้นถึง 6,000% เอเอฟพีชี้

ที่ผ่านมาเวเนซุเอลา ประเทศที่มีแหล่งน้ำมันดิบที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นสมาชิกขององค์การโอเปกประสบปัญหากับราคาน้ำมันโลกที่ตกต่ำ และทำให้มีความเป็นไปได้ว่ามาตรการประกาศขึ้นราคาน้ำมันนี้อาจทำให้ประชาชนในประเทศที่ยากจน และต้องประสบปัญหาจากสภาพวิกกฤตเศรษฐกิจ จากการที่เวเนซุเอลามีปัญหาสินค้าพื้นฐานขาดแคลนอย่างหนัก ต้องออกมาประท้วงครั้งใหญ่

โดยในปี 1989 คาราคัสได้ปรับขึ้นราคาน้ำมันครั้งใหญ่ ทำให้ประชาชนชาวเวเนซุเอลาต่างออกมารวมตัวประท้วงอย่างหนักทั่วประเทศ

เอเอฟพีรายงานต่อว่า ในแถลงการณ์ของนิโคลัส มาดูโร ผ่านทางโทรทัศน์ชี้ว่า “เป็นมาตรการที่จำเป็นต้องเกิดขึ้น ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของผม” มาดูโรแถลง
และในแถลงการณ์ มาดูโรยังกล่าวต่อว่า “เราจะสร้างระบบใหม่ที่มีการประกันการเข้าถึงน้ำมันในราคายุติธรรม แต่ยังสามารถสร้างหลักประกันว่าจะสามารถมีทุนพอในด้านการลงทุนการผลิตน้ำมัน”

ทั้งนี้ ในแถลงการณ์ของประธานาธิบดีเวเนซุเอลา มาดูโรยังประกาศจะลดค่าเงินโบลิวาร์ลงอีก โดยระบบแลกเปลี่ยนเงินตราใหม่จะเริ่มต้นใช้ตั้งแต่ในพฤหัสบดี (18 ก.พ) ซึ่งจะมี 2 อัตราแลกเปลี่ยน

A: อัตราแลกเปลี่ยนตายตัวที่กำหนดโดยรัฐบาลเวเนซุเอลาสำหรับสินค้าอาหารและยานำเข้าเท่านั้น ซึ่งจะทำให้ค่าเงินโบลิวาร์อ่อนตัวลงราว 37% หรือจากอัตราแลกเปลี่ยน 6.3 โบลิวาร์ต่อ 1 ดอลลาร์ในระบบเก่า อ่อนตัวไปถึง 10 โบลิวาร์ต่อ 1 ดอลลาร์ในระบบใหม่

B: อัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัวที่จะถูกใช้ในตลาดเปิดเสรีกับทุกธุรกรรมการเงิน เว้นแต่ธุรกรรมที่ถูกระบุในด้านอาหารและยารักษาโรค


โดยเอเอฟพีชี้ว่า ทั้ง 2 ระบบจะถูกใช้คู่ขนานกันไป แต่อย่างไรก็ตามยังสร้างความกังขาให้กับนักวิเคราะห์บางส่วน ซึ่ง มิเกล แองเจล ซานโตส (Miguel Angel Santos) นักเศรษฐศาสตร์ได้ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า “ต้องดูว่าในความเป็นจริงแล้วคนจะสามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐได้มากเท่าใดในระบบใหม่”

และซานโตสยังเสริมต่อว่า “รัฐบาลเวเนซุเอลาไม่มีจำนวนเงินดอลลาร์มากพอที่จะขายในจำนวน 200 โบลิวาร์ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนที่จะทำให้พบกับดีมานด์ที่ต้องการได้”

เอเอฟพีชี้ว่า ในอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศอีกระบบที่ใช้ในกรุงคาราคัสขณะนี้อยู่ที่ 200 โบลิวาร์ต่อ 1 ดอลลาร์ แต่ทว่าในตลาดมืดกลับพบว่าชาวเวเนซุเอลาต้องใช้เงินถึง 1,000 โบลิวาร์ต่อ 1 ดอลลาร์

ซึ่งในแถลงการณ์ทางโทรทัศน์ มาดูโรยอมรับว่าระบบอัตราแลกเปลี่ยนของเวเนซุเอลาที่อดีตประธานาธิบดีเวเนซุเอลา ฮูโก ชาเวซ เป็นผู้นำมาใช้นั้น “ใช้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว”

และนอกจากนี้ จากการที่มีการปรับระบบแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศใหม่ ประธานาธิบดีเวเนซุเอลาหวังว่าการลดค่าเงินโบลิวาร์ลงอีกจะสามารถกระตุ้นการส่งออกของประเทศได้ ซึ่งจะทำให้สินค้าของเวเนซุเอลาถูกลง

โดยมาดูโรอ้างว่าจะเป็นการกระตุ้นภาคการผลิตเพื่อสู้กับสภาพเศรษฐกิจถดถอยอย่างหนัก

และนอกจากนี้ นิโคลัส มาดูโร ยังตั้งความหวังว่า สมาชิกผู้นำการผลิตน้ำมันดิบของโลกจะหยุดการผลิตชั่วคราว เพื่อให้ราคากลับมาดีดตัวขึ้น

ทั้งนี้ ในเดือนมกราคม 2016 สถาบันการเงินระหว่างประเทศ IMF ได้คาดการณ์ตัวเลขเงินเฟ้อของเวเนซุเอลาประจำปีนี้ว่าจะสูงถึง 720% พุ่งสูงกว่าตัวเลขในปี 2015 ที่อยู่ราว 275%

โดยบลูมเบิร์ก บิสิเนส สื่อธุรกิจรายงานในวันที่ 22 มกราคมล่าสุดว่า ตัวเลขเงินเฟ้อเวเนซุเอลาในปี 2016 นั้นสูงเกือบ 4 เท่าของค่ามัธยฐานที่ 184%

นอกจากนี้ IMF ยังคาดการณ์ต่อว่า ในปี 2016 เศรษฐกิจเวเนซุเอลาจะหดตัวลง 8% หลังจากในปีที่ผ่านมามีการชะลอตัวทางเศรษฐกิจถึง 10%

ทั้งนี้ ในวันที่ 15 มกราคมล่าสุดเป็นครั้งแรกในรอบปีที่ธนาคารกลางเวเนซุเอลาได้ออกรายงานเปิดเผยตัวเลขทางเศรษฐกิจของประเทศ ยอมรับว่าอัตราเงินเฟ้อของเวเนซุเอลาอยู่ในระดับตัวเลข 3 จุดแล้ว และปิดในไตรมาสทางบัญชีสุดท้ายที่ 141.5% ต่อปี เมื่อเปรียบเทียบกับตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ถูกเปิดเผยก่อนหน้านั้นในเดือนธันวาคม 2014 ทางธนาคารกลางเวเนซุเอลาประกาศว่ามีอัตราเงินเฟ้อ 68.5%




กำลังโหลดความคิดเห็น