รอยเตอร์/ASTVผู้จัดการออนไลน์ – สภาพการขาดแคลนสินค้าในเวเนซุเอลาอย่างหนักทำให้ร้านค้าปลีกทั่วประเทศ เช่น ซุปเปอร์มาร์เกตตกเป็นเป้าหมายการบุกปล้นสะดม การก่อจลาจลที่มีการเข้ามาขโมยสินค้า หลังจากประชาชนต้องรับสภาพยืนรอต่อคิวเข้าแถวเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมงเพียงเพื่อซื้อน้ำมันพืช 1 ขวด โดยพบว่าสถิติใน 6 เดือนแรกของปีนี้ พบว่ามีการก่อเหตุบุกปล้นร้านค้าเหล่านี้ถึง 56 ครั้ง และยังพบว่าในช่วงเวลาเดียวกันมีเหตุพยายามเข้าปล้นสะดมถึง 76 ครั้งเช่นเดียวกัน
รอยเตอร์รายงานถึงสภาพการขาดแคลนสินค้าหนักในประเทศเวเนซุเอลาที่มีแหล่งน้ำมันดิบมากที่สุดในโลก จากการที่ประชาชนต่างต้องทนเข้าแถวรอคิวเพื่อซื้อสินค้าในชีวิตประจำวันที่จำเป็นนับตั้งแต่แป้งสาลีไปจนถึงน้ำมันพืชและสบู่ต่างเริ่มต้นกับกลายเป็นขโมยที่บุกเข้าไปฉกสินค้าพื้นฐานเหล่านั้นตามซุปเปอร์มาร์เกตที่เปิดจำหน่ายในเวเนซุเอลา
ทั้งนี้ตัวเลขจากการรายงานของ Venezuelan Observatory of Social Conflict องค์กรเอ็นจีโอระบุว่าเฉพาะแค่ในครึ่งปีแรกของปีนี้ สถิติการเข้าปล้นสะดมร้านค้าในเวเนซุเอลามีมากถึง 56 ครั้ง และยังพบว่าในช่วงเวลาเดียวกันมีเหตุพยายามเข้าปล้นสะดมถึง 76 ครั้งเช่นเดียวกัน
โดยตัวเลขเหล่านี้อ้างอิงจากการรายงานของสื่อสาธารณะและการให้ข้อมูลของพยานจากทั่วประเทศ
เป็นต้นว่า ในวันอาทิตย์(2)ล่าสุด ฝูงชนกลุ่มย่อยๆต่างเบียดเสียดยัดเยียดเข้าไปในร้านไบเซนเทนาริโอ (Bicentenario )ซุปเปอร์มาร์เกตที่อยู่ในการดูแลของรัฐในเมืองซานคริสโตบาล ( San Cristobal) ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของประเทศ และต่างชุลมุนหยิบข้าวของภายในร้านค้าแห่งนี้หลังจากที่ร้านปิดแล้ว ทิ้งให้พนักงานของร้านที่มีร่องรอยฟกช้ำดำเขียวจากการถูกทำร้ายไว้เบื้องหลัง รายงานจากการให้ข้อมูลของผู้จัดการร้านเอ็ดเวิร์ด เปเรซ (Edward Perez)
“ในขณะที่เรากำลังจะปิดร้าน มีกลุ่มคนจำนวนราว 20 คนเริ่มต้นก่อกวนโดยการตะโกนด่าท่อรัฐบาลและพนักงาน” เปเรซให้สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์
และหลังจากนั้นคนที่อยู่ในกลุ่มปล้นสะดมถูกจับ ซึ่งเปเรซได้กล่าวโทษว่าเหตุการณ์ปั่นป่วนที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของกลุ่มขวาจัดซึ่งเป็นกลุ่มการเมืองฝ่ายตรงกันข้ามกับประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโรแห่งเวเนซุเอลา
และในวันศุกร์(31 กค.)ก่อนหน้านั้น มีชายหนึ่งคนถูกสังหารและอีก 60 คนถูกจับใน Ciudad Guayana ทางใต้ของเวเนซุเอลาหลังจากที่ร้านซุปเปอร์มาร์เกตถูกปล้นสะดม
รอยเตอร์รายงานเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมาดูโรไม่ตอบข้อสงสัยในเหตุการณ์ปล้นสะดมร้านค้าต่างๆนี้ แต่ทว่ามาดูโรกลับเบี่ยงเบนให้เป็นประเด็นการเมืองด้วยการเรียก การขาดแคลนสินค้าขั้นพื้นฐานและความไม่สงบในประเทศเป็นผลมาจาก “สงครามทางเศรษฐกิจ”ที่เกิดขึ้นด้วยฝีมือของกลุ่มการเมืองฝ่ายตรงกันข้าม
นอกจากนี้รอยเตอร์ยังรายงานต่ออีกว่า และดูเหมือนว่านับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ความยาวของแถวของผู้บริโภคชาวเวเนซุเอลาที่รอต่อคิวเพื่อซื้อสินค้าจะยาวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และมีความตรึงเครียดมากยิ่งขึ้นนับตั้งแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน Ciudad Guayana
หนึ่งในลูกค้า คาร์เมน เนสโกว์ (Carmen Neskow) วัย 49 ปี ที่ระบุอาชีพว่า “นักรอต่อคิวซื้อของ” ได้ให้สัมภาษณ์ขณะรอคิวซื้ออยู่ที่ร้านซุปเปอร์มาร์เกตในกรุงคาราคัสว่า “ไม่มีการจัดการที่ดี คนพวกนั้นหยาบคายกับผู้ซื้ออย่างเรามาก พวกเขาปฎิบัติต่อเราเหมือนพวกเราเป็นสัตว์ นี่เป็นการดูถูกกันชัดๆ ไม่มีการให้เกียรติอะไรทั้งสิ้น”