เอเจนซีส์/MGR ออนไลน์ - วิกฤตอาหารขาดแคลนทั้งประเทศของเวเนซุเอลา กลายเป็นสภาพความเลวร้ายที่ประจานไปทั่วโลก เมื่อล่าสุดหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานเมื่อวานนี้ (28 มิ.ย.) ว่าตู้เย็นของประชาชนชาวเวเนซุเอลาทุกวันนี้แทบไม่มีอาหารเก็บอยู่ภายใน นอกจากน้ำและแตงครึ่งลูก หรือนมเกือบติดก้นเหยือก และมะม่วงอีกไม่กี่ลูกสำหรับคนทั้งครอบครัว ท่ามกลางเหตุจลาจลปล้นสะดมร้านค้าอย่างหนักทั่วประเทศ และการรอต่อแถวเข้าคิวซื้อสินค้าเป็นเวลานานโดยที่ยังไม่ทราบเลยว่าในวันนั้นร้านจะนำสินค้าชนิดใดออกมาจำหน่ายบ้าง และสภาพความขาดแคลนลามเข้าสู่ตัวโรงพยาบาลของประเทศ
หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานเมื่อวานนี้ว่า (28 มิ.ย.) เวเนซุเอลาได้กลายเป็นประเทศที่ผู้คนออกมาทำสงครามเพื่อแย่งอาหารเกิดขึ้นในแต่ละวันไปแล้ว หลังจากชาติร่ำรวยบ่อน้ำมันแห่งนี้ประสบปัญหาการขาดแคลนอาหารอย่างหนักต่อเนื่องมานาน
ในโกดังสินค้าแห่งหนึ่งในกรุงคาราคัส พนักงานต้องเร่งรีบขนถ่ายสินค้าจากตัวรถบรรทุกที่เข้ามาจอดในจุดซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารถือปืนคุ้มกันอย่างหนาแน่น โดยคนขับรถบรรทุกชาวเวเนฯ ฮวน อูร์เรีย (Juan Urrea) วัย 29 ปี ให้สัมภาษณ์กับนักข่าววอชิงตันโพสต์ว่า “สินค้านี้เป็นเพียงชีสเนยแข็งเท่านั้น” ในขณะที่พนักงานคนอื่นๆกำลังขนถ่ายกองภูเขาไวท์ชีสเวเนซุเอลา queso จำนวนมากออกมาจากรถบรรทุก ซึ่ง อูร์เรียกล่าวต่อว่า “ผมไม่เคยเห็นอะไรเช่นนี้มาก่อน”
การต่อสู้เพื่อแย่งอาหารในเวเนซุเอลาเกิดขึ้นในร้านค้าที่มีประชาชนกรูเข้าไปเพื่อฉกชิงสินค้าจากภายในร้าน หรือการประท้วงลงบนถนนประกาศความต้องการต่อรัฐบาลของประธานาธิบดีเวเนซุเอลา นิโคลัส มาดูโร ถึงปัญหาสินค้าราคาแพงถีบตัวกว่าหลายเท่า และการไม่มีสินค้าจำหน่าย แต่ในกรณีสำหรับผู้ที่ยังคงมีอันจะกินในดินแดนอเมริกาใต้แห่งนี้จะยังคงสามารถเลือกช็อปกับร้านค้าออนไลน์ที่ถูกสั่งตรงมาจากรัฐไมอามี สหรัฐฯ ส่วนคนชนชั้นกลางในเวเนซุเอลายอมที่จะดื่มกาแฟโดยไม่ใส่นม เลือกทานโปรตีนจากปลากระป๋องมากกว่าสเต๊กเนื้อโคขุน รวมไปถึงลดมื้ออาหารลงเหลือแค่ 2 มื้อจากปกติ 3 มื้อต่อวัน แต่สำหรับประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศที่ยากไร้สามารถกระทำได้แค่เก็บมะม่วงจากข้างทางกินประทังชีวิต
วอชิงตันโพสต์รายงานต่อว่า ความยากจนข้นแค้นของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศพิสูจน์ได้จากตู้เย็นที่ว่างเปล่า เป็นต้นว่า ในตู้เย็นของจอฟเฟรน โปแลนโก (Joffren Polanco) เด็กชายชาวเวเนฯ มีเพียงนมติดก้นเหยือก และแตงครึ่งผลอยู่ในนั้น ในขณะที่ตู้เย็นของอันเดรีย ซีรา (Andrea Sira) เด็กหญิงชาวเวเนฯ วัย 11 ปี พบว่าภายในตู้เย็นของครอบครัวเธอมีแค่น้ำและมะม่วงไม่กี่ผลอยู่ภายใน และภาพของก้นครัวเด็กผู้หญิงชาวเวเนฯ อีกคนหนึ่งที่มีหม้อต้มแยม มันฝรั่งประเภทหนึ่งซึ่งเป็นอาหารอย่างเดียวที่ครอบครัวหนูน้อยใช้รับประทานในช่วงกลางวัน และหากต้องหามาจากตลาดมืดสินค้าจะมีราคาสูงเกิน 1,000 เท่าเมื่อเทียบกับราคาสินค้าในร้านของรัฐบาลเวเนซุเอลา
นอกจากนี้ยังพบว่า ในตู้เย็นที่เสียแล้วของ ไลดี คอร์โดวา (Leidy Cordova) คุณแม่ชาวเวเนฯ ลูก 5 คนวัย 37 ปี มีเพียงแป้งข้าวโพด 1 ถุงเล็ก และน้ำส้มสายชู 1 ขวดเก็บไว้อยู่ภายในบ้านที่ตั้งอยู่ในคูมานา (Cumaná) จากการรายงานของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ในวันที่ 20 มิ.ย.ล่าสุด ซึ่งภาพหดหู่ของความหิวโหยของชาวเวเนซุเอลายังถูกตีแผ่ไปทั่วโลกจากการรายงานของสื่ออังกฤษ เมโทร ซึ่งรายงานในปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาว่า ประชาชนชาวเวเนซุเอลาต่างทวีตภาพตู้เย็นในบ้านของตัวเอง เพื่อประจานถึงปัญหาวิกฤตขาดอาหารไปทั่วประเทศ ด้วย #neverasvaciasenvenezuela
วอชิงตันโพสต์รายงานต่อว่า เป็นเพราะเกิดความหิวโหยอย่างหนักในหมู่ประชาชนจึงทำให้เกิดวิกฤตการปล้นสะดมร้านค้าทั่วประเทศ โดยพบว่าแค่ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2016 มีการพบคดีการปล้นสะดมร้านค้าอย่างอุกอาจ เกิดขึ้นไม่ต่ำกว่า 254 ครั้ง รายงานจากข้อมูลของกลุ่มสังเกตการณ์วิกฤตสังคมเวเนซุเอลา (Venezuelan Observatory of Social Conflict) นอกจากนี้ทางกลุ่มวอตช์ด็อกยังชี้ว่า พบว่ามีตัวเลขการประท้วงต่ออาหารเพิ่มขึ้นในแต่ละเดือนตั้งแต่ต้นปี 2016 โดยพบว่าในเดือนพฤษภาคม มีการประท้วงถึง 172 ครั้ง และทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่ง และมีผู้ถูกจับกุมอีกนับร้อยทั่วประเทศ
แต่กระนั้น วอชิงตันโพสต์เปิดเผยว่า แถวการเข้าซื้อสินค้าขั้นพื้นฐานของประชาชนชาวเวเนซุเอลายังคงยาวขึ้น และใช้เวลานานมากขึ้น โดยหนึ่งในผู้ต่อแถวรอ โยริเล รามอส (Yorilei Ramos)วัย 51 ปีที่ยืนรอต่อคิวซื้อสินค้ากับบุตรสาววัย 9 ปีได้ให้ความเห็นกับสื่อสหรัฐฯ ว่า “พวกเราเข้าคิวต่อแถวเพื่อรอซื้อสินค้า โดยที่ไม่สามารถจะรู้เลยว่าในวันนี้จะมีสินค้าประเภทใดให้เลือกซื้อบ้าง หรือมีอะไรให้ซื้อได้บ้างหากเขายังมีสินค้านำออกมาวาง” และเธอกล่าวต่อไปว่า “เด็กๆ กำลังร้องโยเย และตัวเองก็หิวอย่างหนัก แต่ทว่าดิฉันต้องหันกลับไปบอกกับพวกเขาว่า วันนี้แม่ไม่มีอะไรให้กินนะ” รามอสกล่าวด้วยเสียงเศร้า
ปัญหาการขาดแคลนสินค้ากับร้านค้าจำหน่ายเกิดขึ้นเสมอ โดยวอชิงตันโพสต์ได้รายงานถึงสภาพการณ์ของร้านแห่งหนึ่งในบาร์โลเวนโต (Barlovento) ที่ทางร้านไม่ได้รับสินค้าอาหารส่งเข้ามาเลยนับตั้งแต่เดือนมกราคมปีนี้ และทำให้ทางร้านแทบไม่มีสินค้าจะจำหน่าย มีเพียงน้ำดื่ม สินค้าอีก 2-3 ชนิด รวมไปถึงน้ำอัดลมจำนวนหนึ่งเท่านั้น และทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่ต้องเดินทางไกลเพื่อเข้าไปยังตัวเมืองที่ใหญ่ขึ้น หรือไปยังกรุงคาราคัส เมืองหลวงเพื่อซื้อสิ่งของประทังชีพ
โดยจากการรายงานของไอริชไทม์สก่อนหน้านี้ชี้ว่า ถึงแม้ประชาชนชาวเวเนซุเอลาจะประสบความสำเร็จสามารถหาร้านค้าที่มีสินค้าจำหน่ายได้แล้ว แต่ใช่ว่าพวกเขาจะซื้อได้หมดทุกอย่าง และเป็นสินค้าในสภาพที่สมบูรณ์ โดยยาเนดี กัซแมน (Yaneidy Guzman) พร้อมบุตรสาวอีก 3 คนได้นำอาหารภายในบ้านที่หาซื้อมาได้แสดงต่อนักข่าวที่บ้านของเธอในกรุงคาราคัสเมื่อวันที่ 22 เม.ย. และพบว่าในครอบครัวนี้มีอาหารเพียงแค่ 9 ประเภท เช่น กล้วยเกือบเน่า 2 ผล แป้งทำอาหาร น้ำมันพืช แครอต และเนื้อสัตว์ถาดเล็กๆ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้สภาวการณ์ขาดอาหารของประชาชนเวเนซุเอลาจะเป็นที่รับรู้ไปทั่วโลก แต่กระนั้นรัฐมนตรีต่างประเทศเวเนซุเอลา เดลซี โรดริเกวซ (Delcy Rodriguez) ได้ประกาศในที่ประชุมองค์การรัฐอเมริกัน (OAS)ในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า “ไม่มีวิกฤตด้านบรรเทาทุกข์เกิดขึ้นในประเทศเวเนซุเอลา”
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้เอเอฟพีรายงานว่า แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่เวเนซุเอลาให้ข้อมูลว่า เวเนซุเอลาจะได้รับมอบอาหารและสินค้าขั้นพื้นฐานจากสาธารณรัฐตรินิแดดและโตเบโกจำนวน 600 ตันภายใต้ข้อตกลงการค้า โดยมีการจัดส่งล็อตแรกจำนวน จำนวน 68 ตันเข้าสู่เวเนซุเอลาในวันที่ 23 มิ.ย. และส่วนที่เหลือจะถูกจัดส่งทางเรือในสัปดาห์ถัดไป