“คำสั่งปิดพรมแดนโคลอมเบียเพิ่ม” ของมาดูโรทำรถติดสาหัส หลังทหารประจำด่านดูบอลเพลิน

เอพี/ASTVผู้จัดการออนไลน์ – ในวันอังคาร(8)ล่าสุด รถต่างๆบนท้องถนนที่ข้ามแดนในบริเวณด่านตรวจเวเนซุเอลา-โคลอมเบียต้องติดอย่างสาหัส เพราะทหารประจำจุดตรวจข้ามแดนให้ความสนใจในการชมการแข่งขันฟุตบอลมากกว่า หลังจากวันก่อนหน้านั้น ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา นิโคลัส มาดูโร ออกคำสั่งปิดพรมแดนเวเนซุเอลา-โคลอมเบียเพิ่มเติม โดยขยายต่อไปที่รัฐซูเลีย(Zulia)

เอพีรายงานวันนี้(9)ถึงสถานการณ์บริเวณพรมแดนหลังจากการประกาศสั่งปิดพรมแดนเพิ่มเติมที่ปารากุอาชอน(Paraguachon) รัฐซูเลีย( Zulia)ว่า หลังจากที่ทางเวเนซุเอลาเริ่มต้นปราบปรามขบวนการลักลอบขนสินค้าเถื่อนข้ามแดน และหลังจากหน่วยลาดตระเวนเวเนซุเอลาโดนซุ่มโจมตีผู้นำเวเนซุเอลาออกคำสั่งปิดพรมแดนบริเวณรัฐ ตาชิรา (Tachira)ในฝั่งเวเนซุเอลา ตรงกันข้ามกับรัฐ กูกูตา(Cucuta)ในฝั่งโคลอมเบีย ที่มีแม่น้ำกั้นระหว่างประเทศทั้งสอง

แต่ทว่าเป็นที่ทราบกันดีว่า ประชาชนโคลอมเบียที่อาศัยอยู่ในรัฐกูกูตาแห่งนี้ต่างพึ่งพาขบวนการลักลอบขนสินค้าเถื่อนข้ามแดนที่มีราคาต่ำเนื่องมาจากได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเวเนซุเอลา

โดยล่าสุดในคืนวันจันทร์(7)ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา นิโคลัส มาดูโร ได้ออกคำสั่งขยายการปิดพรมแดนต่อไปยังรัฐซูเลีย

ซึ่งคำสั่งปิดพรมแดนเพิ่มเติมนี้ถึงกับทำให้รถบนท้องถนนติดเป็นระยะทางยาวในทั้งสองฝั่งประเทศ จากการที่รถเหล่านั้นต้องวิ่งผ่านแผงเหล็กกั้นบริเวณด่านจุดตรวจเพื่อข้ามแดน แต่ทว่าสามารถผ่านไปได้อย่างล่าช้าเพราะทหารที่กำลังเฝ้าด่านให้ความสนใจกับการชมการแข่งขันฟุตบอลมากกว่า

และผู้ที่ต้องประสบกับรถติดอย่างหนักหนึ่งในนั้นคือ เฮกเตอร์ เมดินา (Hector Medina) โชเฟอร์ชาวเวเนฯที่ขับรถบัสต้องใช้เวลาทั้งวันท่ามกลางอากาศร้อน ทนติดอยู่ในฝั่งโคลอมเบีย ในขณะที่ผู้โดยสารบนรถบัสตัดสินใจลงเดินเท้าข้ามแดนไปด้วยตัวเองก่อนหน้านี้

เอพีรายงานเพิ่มเติมต่อว่า ในช่วงเวลาเพียงแค่ 2 สัปดาห์ มาดูโร ผู้นำซ้ายจัดของเวเนซุเอลาสั่งปิดจุดข้ามแดนไปแล้วถึง 6 แห่ง และยังเนรเทศชาวโคลอมเบียเข้าเมืองผิดกฎหมายกลับประเทศอีกไม่ต่ำกว่า 1,500 คน โดยประณามคนเหล่านั้นว่า เป็นต้นเหตุของอาชญากรรมและการลักลอบขนของเถื่อน

เอพีรายงานเพิ่มเติมอีกว่า และเป็นเพราะการกวาดล้างอย่างหนักของฝั่งเวเนซุเอลา ทำให้ประชาชนชาวโคลอมเบียเกือบ 20,000 คนสมัครใจที่จะเดินทางออกนอกเวเนซุเอลาด้วยตัวเอง ด้วยเกรงว่าทางเจ้าหน้าที่เวเนฯจะทำร้ายเพื่อแก้แค้น ท่ามกลางข่าวลือที่ลามเหมือนไฟลามทุ่งว่า ผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายจะถูกขุดลากถอนโคน และบ้านคนเหล่านั้นจะถูกทำลาย

ส่งผลทำให้ศูนย์ผู้อพยพต้อนรับกลับบ้านในฝั่งโคลอมเบียแน่นขนัด และเกรงว่าอาจมีวิกฤตด้านมนุษยชนเกิดขึ้น

ส่วนประธานาธิบดีโคลอมเบีย ฮวน มานูเอล ซานโตส (Juan Manuel Santos) ได้แถลงในวันอังคาร(8)ว่า โคลอมเบียจะไม่ยอมทำตามการยั่วยุของเวเนซุเอลา”

แต่อย่างไรก็ตาม มาดูโรอาจต้องเผชิญกับการต่อต้านของ Wayuu ชนพื้นเมืองอินเดียนลาตินเอมริกาที่มีสมาชิกไม่ต่ำกว่าหลายแสนคน และมีชุมชนตั้งอยู่ทั้งสองฝั่งแม่น้ำในเขตเวเนซุเอลา และโคลอมเบีย ซึ่งมีรายงานว่า ชนเผ่า Wayuu นั้นเกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบขนสินค้าเถื่อน และชนเผ่าไม่ถือว่าการกระทำประเภทนี้ผิดกฎหมาย

และถึงทางเวเนซุเอลาได้ประกาศที่จะเคารพรูปแบบการเป็นชนเผ่าเร่ร่อนของ Wayuu และพร้อมจะเพิ่มการให้เงินสนับสนุนทางการศึกษาของคนในชนเผ่า แต่ทว่าทางการเวเนซุเอลาได้ส่งกองกำลังร่วม 3,000 นายเข้าไปยังรัฐซูเลีย

และนอกจากนี้ ยังพบว่าสมาชิกชนเผ่า Wayuu นั้นถูกห้ามไม่ให้ข้ามแดนบริเวณจุดตรวจ และทำให้คนเหล่านั้นต้องเลือกที่จะเดินข้ามแม่น้ำเข้าไปด้วยตนเองแทน โดยเมื่อวานนี้(8)บรรดาผู้นำของ Wayuu ได้ประณามการตัดสินใจปิดพรมแดนของมาดูโร

เอพียังรายงานต่อว่า มาดูโรได้ออกแถลงการณ์ประกาศว่า ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า จะมีการประกาศเพิ่มปิดจุดข้ามแดน

และในแถลงการณ์เดียวกันนี้ประธานาธิบดีเวเนซุเอลาประกาศพร้อมรับผู้รับผู้อพยพซีเรีย 20,000 คนเข้าประเทศ

ด้านโคลอมเบียได้เริ่มกระบวนการทางการทูตแก้ปัญหาวิกฤตปิดพรมแดน โดย Maria Angela Holguin รัฐมนตรีต่างประเทศโคลอมเบียได้พบปะกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติ UNOHCRเพื่อหารือที่กรุงเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ในวันจันทร์(7)

และในวันนี้(9)รัฐมนตรีต่างประเทศโคลอมเบียจะเดินทางต่อไปยังนิวยอร์ก สหรัฐฯ เพื่อพบปะกับเลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติ บัน คีมุน ถึงปัญหาการปิดพรมแดนของเวเนซุเอลา ซึ่งในสัปดาห์ที่ผ่านมา บันได้พูดคุยกับมาดูโรในเรื่องนี้ที่กรุงปักกิ่ง