เวเนซุเอลา-โคลอมเบียประชุมหารือหลังมาดูโรสั่งปิดพรมแดน แต่ไม่คืบ

เอพี/เอเจนซีส์/astvผู้จัดการออนไลน์ – รัฐมนตรีต่างประเทศเวเนซุเอลาและโคลอมเบียได้ตกลงร่วมมือในวันพุธ(26)ที่จะช่วยกันต่อต้านขบวนการลักลอบขนของเถื่อนข้ามพรมแดนจากโคลอมเบียไปยังเวเนซุเอลาให้มากขึ้น หลังจากที่ในสัปดาห์ที่ผ่านมาทหารเวเนซุเอลาถูกกลุ่มลักลอบขนของเถื่อนสังหารระหว่างลาดตระเวน จนทำให้ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา นิโคลัส มาดูโร สั่งปิดจุดข้ามแดนหลัก รวมไปถึงมีการส่งตัวชาวโคลอมเบียในเวเนซุเอลาที่อาศัยอย่างผิดกฎหมายออกนอกประเทศ แต่ทว่าในการหารือของตัวแทนทั้งสองชาติ กลับไม่ปรากฏว่าจะมีการประกาศการยกเลิกการสั่งปิดพรมแดนแต่อย่างใด

เอพีรายงานในวันพฤหัสบดี(27)ว่า การพบปะระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศเวเนซุเอลาและโคลอมเบียที่การ์ตาเกนา(Cartagena) โคลอมเบียในวันพุธ(26)ถึงทางออกในเรื่องการสั่งปิดพรมแดนระหว่างเวเนซุเอลา และโคลอมเบีย

แต่ทว่าในการแถลงข่าวที่ออกมากลับไม่มีความคืบหน้าในการเปิดด่านเข้าเมืองหลักระหว่างทั้งสองชาติใน 2 แห่ง หรือการสิ้นสุดมาตรการกวาดล้างส่งตัวชาวโคลอมเบียออกนอกเวเนซุเอลาอย่างที่กระทำอยู่ล่าสุด

เอพีรายงานว่า ในปัจจุบันนี้คาดว่ามีชาวโคลอมเบียอาศัยอยู่ในเวเนซุเอลาราว 5 ล้านคน และการข้ามแดนมักจะเดินลุยข้ามแม่น้ำที่มีระดับเข่าเข้าสู่เวเนซุเอลา ซึ่งจากการรายงานของอัลญะซีเราะฮ์รายงานวันนี้(27)พบว่า ชาวโคลอมเบียอพยพไปยังเวเนซุเอลา ซึ่งเป็นดินแดนที่มั่งคั่งไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติน้ำมันตั้งแต่ยุคปี 70 ประกอบกับโคลอมเบียมีสงครามภายในไม่สงบเรื่อยมา ทำให้ประชาชนชาวโคลอมเบียที่ยากไร้ต้องจำใจเดินข้ามน้ำไปหาที่อยู่ใหม่ที่มั่งคั่งกว่าในฝั่งเวเนซุเอลาที่มีฉายาว่า “ซาอุดีฯ-เวเนซุเอลา”

แต่เป็นเพราะมาตรการกวาดล้างของมาดูโรล่าสุดที่ประกาศว่าจะขับชาวโคลอมเบียทุกรายที่อาศัยอยู่ในเวเนซุเอลาอย่างผิดกฎหมายออกนอกประเทศ ทำให้ประชาชนชาวโคลัมเบียที่ปักหลักอาศัยในเวเนซุเอลาจำต้องเดินทางข้ามกลับไปยังประเทศบ้านเกิด โดยบีบีซี สื่ออังกฤษรายงานเมื่อวานนี้(26)ว่า มีชาวโคลอมเบียประมาณ 1,000 คนตัดสินใจเดินทางออกนอกเวเนซุเอลา หลังจากปัญหาวิกฤตพรมแดนระหว่างสองประเทศปะทุ

ซึ่งในการแถลงของทางเจ้าหน้าที่ กลับกล่าวเพียงว่า ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ทั้งสองชาติจะประชุมหารือเพื่อตั้งทีมสนธิกำลังร่วมเพื่อแก้ปัญหาอาชญากรรมลักลอบขนสินค้าเถื่อนข้ามพรมแดนเท่านั้น

ในขณะปัญหาของชาวโคลอมเบียที่ถูกส่งตัวกลับประเทศนั้น ประธานาธิบดีโคลอมเบีย ฮวน มานูเอล ซานโตส ประกาศว่า คนเหล่านั้นไม่ใช่กองกำลังติดอาวุธเหมือนอย่างที่ถูกทางเวเนซุเอลาเข้าใจผิด เป็นแต่เพียงประชาชนชาวโคลอมเบียที่ยากไร้ พร้อมรับปากที่จะช่วยคนเหล่านั้นที่ถูกส่งตัวกลับให้มีงานทำในประเทศบ้านเกิดต่อไป หลังจากได้เข้าเยี่ยมหนึ่งในศูนย์ผู้อพยพที่กูกูตา(Cucuta) พร้อมทั้งสัญญาที่จะมอบเงินเยียวยาจำนวน 80 ดอลลาร์เพื่อตั้งตัวได้

ก่อนหน้านี้มาดูโรได้ประณามโคลอมเบียว่า อยู่เบื้องหลังกลุ่มโจรที่จ้องทำลายเศรษฐกิจประเทศ และยืนยันที่จะยังให้ด่านสะพานหลัก 2 แห่งเชื่อมระว่างเวเนซุเอลาและโคลอมเบียยังคงปิดตัวต่อไป จนกว่าโคลอมเบียจะหาทางทำให้พรมแดนเชื่อมระหว่างกันร่วม 2,200 กม.อยู่ในการควบคุม และมีการประกาศภาวะฉุกเฉิน 60 วันใน 6 เมืองของเวเนซุเอลาเพื่อทำให้เจ้าหน้าที่ความมั่นคงทำงานได้อย่างเต็มที่