เอพี - ในวันสุดท้ายของการเสด็จเยือนอาร์เมเนียในวันนี้ (26 มิ.ย.) สมเด็จสันตะปาปาฟรานซิสแห่งนครวาติกัน พระประมุขศาสนาจักรนิกายโรมันคาทอลิก ด้วยการเสด็จเยือนวิหารเอคมิอัดซิน (Etchmiadzin Cathedral) ในนิกายออร์โธดอกซ์ของอาร์เมเนีย และเสด็จไปเยือนใกล้พรมแดนติดฝั่งตุรกีเป็นสัญลักษณ์เรียกร้องให้กลับมาเปิดอีกครั้ง ท่ามกลางความกดดันจากอังการา หลังจากในวันเสาร์ (25) โป๊ปฟรานซิสได้ทรงประณามเหตุสังหารหมู่อาร์เมเนีย 1915 ด้วยฝีมือของจักรวรรดิออตโตมานระหว่างเยือนอนุสรณ์สถานในเยราวาน และทำให้อังการาออกมาตอบโต้
เอพีรายงานวันนี้ (26 มิ.ย.) ว่า ในกำหนดการเสด็จเยือนอาร์เมเนียเป็นเวลา 3 วันซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่วันศุกร์(24 มิ.ย)ที่ผ่านมา ในวันอาทิตย์ (26) สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประประมุขแห่งนิกายโรมันคาทอลิก ทรงมีกำหนดสวดวันอาทิตย์ที่เรียกว่า Sunday liturgy ที่วิหารเอคมิอัดซิน (Etchmiadzin Cathedral) เยราวาน อาร์เมเนีย ซึ่งมีนิกายออร์โธดอกซ์แห่งอาร์เมเนียเป็นเจ้าภาพ และหลังจากนั้นจะทรงเสด็จไปเยือนจุดพรมแดนติดกับตุรกี ท่ามกลางความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างพระประมุขแห่งโฮลีซีและอังการาที่เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน
ในคืนวันเสาร์ (25 มิ.ย.) อังการาออกแถลงการณ์ตอบโต้การยอมรับเหตุสังหารหมู่อาร์มาเนีย 1915 ของโป๊ปฟรานซิส ซึ่งพระองค์ได้ทรงกล่าวหลังจากที่ได้เสด็จเยือนอนุสรณ์สถานฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อาร์เมเนีย (Genocide Memorial Complex) ที่เมืองเยราวาน ในวันเดียวกัน เหตุครั้งนั้นทำให้ประชาชนชาวอาร์เมเนียจำนวน 1.5 ล้านคนต้องจบชีวิตในปี 1915 ด้วยฝีมือจักรวรรดิออตโดมาน
เอพีรายงานว่า ในแถลงการณ์ที่ดุเดือดจากอังการา ได้กล่าวว่าโป๊ปฟรานซิสทรงเรียกเหตุการณ์นี้ว่า เป็นการวางแผนสังหารหมู่เพื่อทำให้ชาวอาร์เมเนียต้องหายไปจากโลกใบนี้ โดยผู้ช่วยนายกรัฐมนตรีตุรกี นูเร็ตติน คานิคลิ (Nurettin Canikli) ได้เรียกแถลงการณ์ของโป๊ปฟรานซิสว่า “ช่างโชคร้าย” และยังเชื่อมโยงไปถึงเหตุการณ์สงครามระหว่างศาสนาอิสลามและศาสนาคริสต์ว่า “เป็นการให้ความเห็นที่บ่งบอกถึงความเป็นครูเสดที่บ้าคลั่ง”
ทั้งนี้ ในฝั่งตุรกีได้ปฏิเสธตัวเลขการเสียชีวิตของชาวอาร์มาเนีย 1.5 ล้านคนตามที่นักประวัติศาสตร์ได้เคยสรุปไว้ว่า เป็นตัวเลขที่คลุมเครือ และในเหตุการณ์ครั้งนั้นผู้ที่เสียชีวิตเกิดขึ้นทั้งในฝั่งอาร์เมเนีย และในฝั่งตุรกีซึ่งเป็นช่วงเวลาจักรวรรดิออตโตมานได้ล่มสลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1
โดยเอพีชี้ว่า ในปีที่ผ่านมาโป๊ปฟรานซิสได้ทรงเคยเอ่ยถึงสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อาร์เมเนีย และเป็นเหตุให้ทางอังการาเรียกตัวเอกอัคราชทูกกลับเป็นเวลา 10 วันเพื่อประท้วง และยังกล่าวหาว่าพระประมุขแห่งโฮลีซีกำลังเผยแพร่สิ่งที่เป็นเท็จไปทั่วโลก
และในวันอาทิตย์ (26 มิ.ย.) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการกำหนดเสด็จเยือนอาร์เมเนีย ที่นอกจากพระองค์จะออกนำสวดวันอาทิตย์แล้ว โป๊ปฟรานซิสจะเสด็จไปเยือนบริเวณพรมแดนติดตุรกี ซึ่งได้ถูกปิดลงในปี 1992 หลังเกิดสงครามนากอร์โน-คาราบักห์ (Nagorno-Karabakh) ปะทุขึ้น และสงครามนี้ทำให้เศรษฐกิจของอาร์เมเนียทรุดอย่างหนัก ซึ่งสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงตรัสว่า อยากเห็นพรมแดนเปิดอีกครั้ง สะท้อนถึงจุดยืนที่ยาวนานของพระองค์ในการประกาศเรียกร้องประเทศคู่ขัดแย้งให้สร้างสะพานเชื่อมเข้าหา ไม่ใช่กำแพงปิดกั้นระหว่างกันในเขตพรมแดน
เอพีรายงานต่อว่า นอกจากนี้ในวันนี้โป๊ปฟรานซิสยังมีกำหนดต้องทำปล่อยนกเขาแห่งสันติภาพที่อารามคอร์ วิราพ (Khor Virap) หนึ่งในสถานที่ศักดิสิทธิ์ในอาร์เมเนีย
