เอเจนซีส์/เอพี – สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงชี้ในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ยุโรปเป็นเพียงทวีปเดียวของโลกที่จะนำความสมานฉันท์กลับคืน โดยทรงเปรียบว่าขณะนี้ยุโรปกำลังเผชิญหน้ากับการแผ่อิทธิพลของอาหรับ ซึ่งปรากฎการณ์นี้ถือเป็นเรื่องดี สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงชี้ในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ยุโรปเป็นเพียงทวีปเดียวของโลกที่จะนำความสมานฉันท์กลับคืน โดยทรงเปรียบว่าขณะนี้ยุโรปกำลังเผชิญหน้ากับการแผ่อิทธิพลของอาหรับ ซึ่งปรากฎการณ์นี้ถือเป็นเรื่องดี แต่ด้านกรีซที่ยังต้องทนแบกรับหนัก ในวันนี้(5 มี.ค)อาโปสโตลอส ซิตซิโกสตาส (Apostolos Tzitzikostas)ผู้ว่ามาซิโดเนียกลางร้องรัฐบาลกรีซให้ประกาศภาวะฉุกเฉิน เพราะทนสถานการณ์ผู้อพยพต่อไปอีกไม่ได้
RT รายงานเมื่อวานนี้(4 มี.ค)ว่า หนังสือพิมพ์กรุงวาติกัน L’Osservatore Romano ฉบับวันพฤหัสบดี(3 มี.ค)รายงานถึงสารของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสที่ทรงส่งออกไปยังกลุ่มคริสเตียนฝรั่งเศสในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทรงตรัสถึงสถานการณ์การวิกฤตผู้อพยพที่ยุโรปกำลังเผชิญหน้าว่า คล้ายกับการขยายอำนาจของอาหรับ “เราสามารถกล่าวถึงการรุกรานของอาหรับในยุคปัจจุบันว่า เป็นความจริงทางสังคม” โป๊ปฟรานซิสตรัส
พร้อมกับทรงตรัสต่อว่า “มีจำนวนครั้งมากเพียงใดที่ยุโรปต้องเผชิญหน้ากับการรุกรานในช่วงยุคสมัยทั้งหมดที่ผ่านมา!! แต่ยุโรปยังสามารถเอาชนะ และเดินหน้าต่อ การเติมเต็มให้ตัวเอง และการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมต่อผู้ที่นำเข้ามา”
นอกจากนี้พระประมุขแห่งโฮลีซียังได้กล่าวถึงประวัติศาสตร์ของการอพยพเข้าสู่ยุโรป และผลดีของการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมจากการย้ายข้ามถิ่นเข้าสู่ยุโรป ซึ่งหล่อหลอมทำให้ยุโรปเป็นยุโรปในขณะนี้
นอกจากนี้สมเด็จองค์พระสันตะปาปาฟรานซิสยังทรงประกาศต่อโลกว่า “ยุโรปเป็นเพียงทวีปเดียวที่จะนำความสมานฉันท์กลับคืนมาได้” และยังทรงย้ำว่า ในการที่จะทำสิ่งนี้ให้บรรลุต่อหน้าที่อันยิ่งใหญ่นี้ที่พระองค์เปรียบเหมือน “universal role” ยุโรปจำเป็นต้องกลับไปค้นหารากเง้าของตนเองอีกครั้ง
RT รายงานว่า ยุโรปยังคงต้องเผชิญหน้าปัญหาการทะลักเข้าของผู้อพยพอย่างต่อเนื่อง โดยในปีที่ผ่านมา ผู้อพยพชาวซีเรียจำนวนถึง 362,800 คนเดินทางเข้าสู่สหภาพยุโรป ซึ่งเป็นจำนวนมากเป็น 2 เท่าของตัวเลขในอดีต ในขณะที่มีจำนวนชาวอิรักถึง 121,500 คนเดินทางเข้ายุโรปในปีที่ผ่านมาเช่นกัน จากการรายงานของคณะมนตรีสหภาพยุโรปในวันศุกร์(4 มี.ค)
และในวันเสาร์(5 มี.ค) อาโปสโตลอส ซิตซิโกสตาส (Apostolos Tzitzikostas) ผู้ว่าการมาซิโดเนียกลาง ได้ร้องขอให้เอเธนส์ประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วรัศมีครอบคลุมจุดผ่านแดนไอโดเมนี (Idomeni) ที่มีผู้อพยพจำนวนมากร่วม 13,000-14,000 คนติดค้างอยู่ ในขณะที่มีอีกจำนวน 6,000-7,000 คนอาศัยในค่ายผู้อพยพในบริเวณนั้นเอพีรายงาน
ซึ่งถือในพื้นที่นี้ต้องแบกรับภาระการไหลเข้ามาของผู้อพยพถึง 60% จากจำนวนทั้งหมดที่กรีซได้แบกรับเอาไว้
ซิตซิโกสตาสแถลงว่า “นี่วิกฤตร้ายแรงด้านการบรรเทาทุกข์” และกล่าวต่อว่า “ผมได้ร้องขอให้รัฐบาลกรีซประกาศภาวะฉุกเฉินในแถบนี้ทั้งหมด” ซึ่งผู้ว่าการมาซิโดเนียกลางให้สัมภาษณ์ในระหว่างการเดินทางมายังจุดข้ามแดนไอโอเดมีเพื่อส่งมอบเครื่องบรรเทาทุกข์ให้กับกาชาดสากล และกลุ่มเอ็นจีโออื่น โดยยืนยันว่า “สถานการณ์แบบนี้จะดำเนินต่อไปไม่ได้”
เจ้าหน้ากรีซให้ข้อมูลว่า ในวันศุกร์(4 มี.ค)มีผู้อพยพผ่านเข้ามาบริเวณเขตข้ามแดนนี้ 180 คน