รอยเตอร์ / เอเจนซีส์ / MGR online - มีผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำเกือบ 40 ราย และอีก 75 รายได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัย หลังเกิดอุบัติเหตุเรือบรรทุกผู้อพยพลำหนึ่งที่กำลังมุ่งหน้าสู่กรีซ เกิดอับปางลงบริเวณน่านน้ำนอกชายฝั่งด้านตะวันตกของตุรกีในวันเสาร์ (30 ม.ค.) ทั้งนี้ เป็นการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและสำนักข่าวโดกันของตุรกี
เมห์เม็ต อูนัล ซาฮิน นายกเทศมนตรีเมืองอายวาซิกของตุรกี ซึ่งมีที่ตั้งของเมืองอยู่ฝั่งตรงกันข้ามห่างจากเกาะเลสวอสของกรีซราว 80 กิโลเมตร ออกมาเปิดเผยว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้ อาจเพิ่มสูงขึ้นอีก ขณะที่ทีมนักประดาน้ำยังคงเร่งทำงานแข่งกับเวลาในการค้นหาร่างของผู้อพยพเพิ่มเติม
ด้านสำนักข่าวโดกัน รายงานว่า เจ้าหน้าที่หน่วยยามฝั่งของตุรกี ยังคงดำเนินภารกิจในการค้นหาและกู้ภัยต่อไปโดยรอบน่านน้ำนอกเมืองอายวาซิกซึ่งเป็นจุดที่เรือบรรทุกผู้อพยพขนาดความยาว 17 เมตร ที่มีผู้อพยพอยู่บนเรืออย่างน้อย 120 รายเกิดอับปางลง
ล่าสุด มีรายงานว่า ในจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางเรือครั้งนี้ที่มีจำนวนอย่างน้อย 37 รายนั้น ปรากฏว่า มีเด็กรวมอยู่ด้วยอย่างน้อย 5 ราย และมีรายงานว่า ผู้อพยพส่วนใหญ่บนเรือลำที่อับปางนี้นั้น เป็นชาวซีเรีย ชาวอัฟกัน รวมถึงผู้อพยพที่มีเชื้อสายเมียนมา
ในปีที่แล้ว ผู้อพยพลี้ภัยจำนวนมากกว่า 1 ล้านคนได้เดินทางเข้าสู่เขตแดนของ 28 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) โดยในจำนวนนี้กว่า 500,000 รายเป็นชาวซีเรีย ที่อพยพหนีภัยสงครามกลางเมือง ที่ยืดเยื้อมายาวนานกว่า 5 ปี ในประเทศบ้านเกิด ขณะที่ผู้อพยพราว 3,600 รายได้เสียชีวิต หรือสูญหายระหว่างการเดินทาง โดยเฉพาะการข้ามเรือโดยสารฝ่าคลื่นลมในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนด้านตะวันออกจากตุรกีมายังกรีซ
ที่ผ่านมา ทางการตุรกีเองก็ต้องแบกรับคลื่นผู้อพยพชาวซีเรียเอาไว้ไม่น้อยกว่า 2.5 ล้านคน โดยเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา รัฐบาลตุรกีได้บรรลุข้อตกลงกับทางสหภาพยุโรป (อียู) ในการหาทางสกัดกั้นยับยั้งการไหลบ่าของผู้อพยพจากตะวันออกกลางเข้าสู่ยุโรป เพื่อแลกกับการที่ตุรกีจะได้รับเงินช่วยเหลือจากอียู จำนวนกว่า 3,000 ล้านยูโร ตลอดจนการเร่งรัดกระบวนการเจรจาเพื่อรับตุรกีเข้าเป็นสมาชิกใหม่อียูในอนาคต