เอเอฟพี - จอห์น เบรนแนน ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (ซีไอเอ) ระบุในวันเสาร์ (11) ว่า ข้อมูลลับที่ได้จากการสืบสวนเหตุโจมตี 9/11 ของรัฐสภาเมื่อปี 2002 ไม่ควรถูกนำไปใช้เป็นหลักฐานบ่งชี้การมีส่วนเกี่ยวข้องของทางการซาอุดีอาระเบีย
การตัดสินใจในเรื่องที่ว่าจะเผยแพร่เอกสารลับ 28 หน้าในรายงานการสืบสวนโดยคณะกรรมธิการข่าวกรองของสภาผูแทนฯและวุฒิสภาหรือไม่นั้นคาดว่าจะมีขึ้นในเร็วๆ นี้
อดีตวุฒิสมาชิก บ็อบ เกรแฮม ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการข่าวกรองของสภาสูงในเวลานั้นกล่าวหาว่า เจ้าหน้าที่ซาอุดีอาระเบียให้ความช่วยเหลือโจรปล้นเครื่องบินในเหตุโจมตี 9/11 และกล่าวว่าเอกสารลับ 28 หน้าดังกล่าวควรถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ
“ข้อมูลลับ 28 หน้านี้ ผมเชื่อว่ามันกำลังถูกเปิดเผย ผมคิดว่ามันดีแล้วที่จะถูกเปิดเผย แต่ไม่ควรมีใครใช้มันเป็นหลักฐานบ่งชี้ว่าซาอุดีอาระเบียมีส่วนเกี่ยวข้องในการโจมตีครั้งนั้น” เบรนแนน กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับอัลอราบิญา สถานีโทรทัศน์ข่าวของซาอุดีอาระเบีย
เขาเตือนว่า รายงานดังกล่าวเพิ่งถูกจัดทำขึ้นเพียง 1 ปีหลังจากที่โจรปล้นเครื่องบินของกลุ่มอัลกออิดะห์นำเครื่องบินพุ่งชนตึกเวิร์ลเทรดเซ็นเตอร์ ตึกเพนตากอน และทุ่งโล่งแห่งหนึ่งในเพนซิลเวเนีย คร่าชีวิตคนไปเกือบ 3,000 คน
“มันเป็นการทบทวนแค่เพียงในเบื้องต้นเท่านั้น เป็นความพยายามรวบรวมข้อมูลเล็กๆน้อยๆ เข้าด้วยกัน และรายงานเกี่ยวกับผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุ 9/11” เบรนแนน กล่าวนคลิปวิดีโอการสัมภาษณ์ที่ถูกโพสต์ในเว็บไซต์ของสถานี
“ต่อมาคณะกรรมการสืบสวนเหตุ 9/11 ได้ตรวจสอบข้อกล่าวหาการมีส่วนเกี่ยวข้องของซาอุดีอาระเบีย การมีส่วนเกี่ยวข้องของรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย และสิ่งที่พวกเขาค้นพบ ข้อสรุปของพวกเขาคือไม่มีหลักฐานที่จะบ่งชี้ว่ารัฐบาลซาอุดีอาระเบียหรือเจ้าหน้าที่อาวุโสของซาอุฯ สนับสนุนการโจมตี 9/11 เป็นการส่วนตัว” เขากล่าว
คณะกรรมการสืบสวนเหตุ 9/11 ซึ่งถูกจัดตั้งโดยประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช เสนอรายงานของพวกเขาในปี 2004
เบรนแนนเสริมว่า ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา ซาอุดีอาระเบีย “ได้กลายเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนต่อต้านก่อการร้ายที่ดีที่สุดของเรา” รายงานการสัมถาษณ์ในเว็บไซต์อัลอราบิญาระบุ