นายกฯ ฝรั่งเศสระบุจะสร้าง “เรือดำน้ำ” ให้ออสเตรเลียในแดนจิงโจ้ตามข้อตกลง

รอยเตอร์ - นายกรัฐมนตรีมานูเอล วาลส์ แห่งฝรั่งเศสกล่าวในวันจันทร์ (2 พ.ค.) ว่า เขามีความรับผิดชอบที่จะต้องสร้างกองเรือดำน้ำรุ่นใหม่ทั้งหมดของออสเตรเลียในแดนจิงโจ้ ขัดแย้งอย่างชัดเจนกับที่บริษัทผู้ทำสัญญาของฝรั่งเศสระบุเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ข้อตกลงนี้จะสร้างงานในแดนน้ำหอม

วาลส์หยุดแวะที่ออสเตรเลียในขณะเดินทางไปเยือนนิวซีแลนด์ตามกำหนดการ ไม่กี่วันหลังจากที่นายกรัฐมนตรี มัลคอล์ม เทิร์นบูล กล่าวว่า ฝรั่งเศสมีชัยชนะเหนือญี่ปุ่นและเยอรมนีในแข่งประมูลสัญญามูลค่า 50 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลียนี้

วาลส์กล่าวว่า เขาจะกำกับดูแลการร่างสัญญาฉบับนี้ หนึ่งในข้อตกลงกลาโหมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ระหว่างบริษัท DCNS Group ของทางการฝรั่งเศสและออสเตรเลียในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้าด้วยตัวเอง

“ผมอยากจะสรุปสัญญาฉบับนี้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” วาลส์ บอกกับผู้สื่อข่าวผ่านล่ามหลังจากพบปักับเทิร์นบูล

“ในตอนนี้เราจะทำตามข้อผูกมัดของเราทั้งหมด ส่วนที่ดีที่สุดของสัญญาฉบับนี้คือเรือดำน้ำทั้ง 12 ลำจะถูกสร้างในออสเตรเลียและนั่นเป็นพื้นฐานของความตกลงของเรา”

ความคิดเห็นของเฮอร์เว กิลลู ประธานบริษัท DCND เมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ว่าข้อตกลงนี้จะสร้างงานในอู่ต่อเรือขอฝรั่งเศสราว 4,000 ตำแหน่งทำให้เกิดความตกตะลึงในแดนจิงโจ้ ซึ่งขายสัญญานี้หลักๆ ก็เพื่อต้องการให้มีการสร้างภายในประเทศ

ข้อตกลงนี้มีแนวโน้มที่จะมีบทบาทสำคัญในการเลือกตั้งทั่วไปของออสเตรเลียในวันที่ 2 กรกฎาคม ซึ่งคาดว่าจะเป็นแรงหนุนสำคัญให้กับกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยพรรคเสรีนิยมในรัฐเซาท์ออสเตรเลียซึ่งจะได้รับผลประโยชน์มหาศาล

ชัยชนะของ DCNS เน้นย้ำถึงความเข้มแข็งของฝรั่งเศสในการพัฒนาความพยายามด้านอุตสาหกรรมทางทหาร และเป็นความล้มเหลวสำรับนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่นในความพยายามที่จะพัฒนาการศักยภาพการส่งออกด้านการป้องกันประเทศในฐานะส่วนหนึ่งของวาระด้านความมั่นคงของเขา

ส่วนแบ่งของ DNCS ในข้อตกลงสร้างเรือดำน้ำ 12 ลำนี้จะรวมเป็นเงินราว 8 พันล้านยูโร ทั้งนี้อ้างจากแหล่งข่าวที่มีความรู้เกี่ยวกับข้อตกลงนี้

ออสเตรเลียกำลังเพิ่มการใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศ และหาทางปกป้องผลประโยชน์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ในขณะที่สหรัฐฯและเหล่าพันมิตรกำลังรับมืออิทธิพลที่มากขึ้นเรื่อยๆ ของจีน