เอพี - กองทัพเรือสหรัฐฯ ต้องผ่อนปรนให้โอกาสอีกครั้งแก่ลูกประดู่จำนวนหลายพันคน มิฉะนั้นก็จะต้องเตะพวกเขาออกจากราชการไป ด้วยเหตุผลไม่ผ่านการทดสอบความแข็งแรงของร่างกายหลายครั้งหลายหน สืบเนื่องจากพวกเขามีไขมันในร่างกายเกินขีดจำกัดที่กำหนดไว้
นาวีอเมริกันได้ออกกฎใหม่ผ่อนปรนข้อจำกัดว่าด้วยไขมันในร่างกายของทหารเรือเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และกำลังอนุญาตให้พวกที่ไม่ผ่านการทดสอบมาแล้ว 3 ครั้งขึ้นไป ได้โอกาสสอบใหม่อีกครั้งในฤดูใบไม้ผลิปีนี้โดยใช้แนวทางปฏิบัติที่แก้ไขใหม่ให้เมตตาปรานีมากขึ้น กองทัพเรือสหรัฐฯอธิบายว่า เวลานี้กำลังสูญเสียทหารเรือที่มีความรู้ความสามารถเป็นจำนวนสูงเกินไปแล้ว ขณะเดียวกันก็มีรายงานว่า ลูกประดู่บางรายหาวิธีเอาตัวรอดด้วยการหันไปให้แพทย์ดูดไขมัน, ใช้ยาลดความอ้วน และอื่นๆ
ตามคำแถลงของ นาวาตรี เนต คริสเทนเสน โฆษกกองทัพเรืออเมริกัน ทางกองทัพยินยอมให้ทหารเรือราว 2,400 คนซึ่งผ่านการทดสอบขั้นต้นตามกฎใหม่ได้รับราชการต่อไป ซึ่งเท่ากับลดจำนวนผู้สอบตกลงมากในอัตราจาก 3 เหลือ 1 ทีเดียว อย่างไรก็ดี ลูกประดู่เหล่านี้จะต้องเข้าทดสอบอีกครั้งในฤดูใบไม้ผลินี้ และจะอนุญาตให้ตกได้ 2 ครั้งเท่านั้น แทนที่จะเป็น 3 ครั้งอย่างเมื่อก่อน
การเปลี่ยนแปลงคราวนี้ถือเป็นคราวล่าสุดของกองทัพสหรัฐฯ ซึ่งกำลังพิจารณาหาหนทางปรับปรุงความสามารถของตนในการรับสมัครและรักษาคนที่มีความรู้ความสามารถเอาไว้ให้ได้ ในขณะที่ต้องเสริมสร้างยกระดับยุทธศาสตร์สงครามไซเบอร์ของตนให้แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เวลาเดียวก็ต้องแข่งขันดุเดือดยิ่งขึ้นกับแวดวงอื่นในการเฟ้นหาผู้สมัครที่มีคุณสมบัติน่าสนใจ ในเมื่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศกำลังกระเตื้องดีขึ้น
มีการศึกษาชิ้นหนึ่งของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) เมื่อปี 2014 ซึ่งพบว่า ชาวอเมริกันถึงราวๆ สองในสามทีเดียวจะไม่ผ่านคุณสมบัติในการเข้ารับราชการทหาร สืบเนื่องจากมีปัญหาสุขภาพ, โรคอ้วน และไม่จบการศึกษาระดับมัธยมปลาย
ทางด้านรัฐมนตรีทบวงทหารเรือ เรย์ มาบุส แจกแจงว่า กองทัพเรือไม่ได้กำลังลดระดับมาตรฐานให้ต่ำลง แต่เป็นการปรับให้สอดคล้องกับความเป็นจริงมากกว่า เนื่องจากในทุกวันนี้ ผู้คนทั่วไปกำลังมีรูปร่างใหญ่ขึ้นกว่าในอดีต โดยไม่จำเป็นว่าจะต้องหมายถึงอ้วนขึ้นกว่าเมื่อก่อน นอกจากนั้นกองทัพเรือยังกำลังพิจารณาที่จะปรับขนาดของเครื่องแบบให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในรอบเวลา 20 ปีที่มีการปรับใหม่เช่นนี้
มาบุสบอกว่า มาตรฐานที่แก้ไขใหม่ซึ่งให้ลูกประดู่มีอัตราไขมันในร่างกายเพิ่มขึ้นกว่าเดิมนั้น มีความสอดคล้องกับความเป็นจริงยิ่งขึ้นมากมาย พร้อมกับบ่นพึมว่า ที่ผ่านมากองทัพเรือต้องปลดคนออกจากราชการไปด้วยสาเหตุที่ไม่ผ่านการทดสอบเช่นนี้ มากกว่าด้วยสาเหตุที่ติดยาเสพติดเสียอีก
ตามตัวเลขข้อมูลของทางการระบุว่า จำนวนทหารเรือที่ถูกปลดออกจากกองทัพในแต่ละปีด้วยสาเหตุไม่ผ่านมาตรฐานทางร่างกายนั้น เพิ่มขึ้นเป็นกว่าสองเท่าตัวทีเดียวจาก 694 คนในปี 2011 กลายเป็น 1,536 คนในปี 2014
การเปลี่ยนแปลงแก้ไขของกองทัพเรือคราวนี้ ยังบังเกิดขึ้นท่ามกลางการอภิปรายถกเถียงกันว่า ข้อกำหนดทางร่างกายที่เรียกร้องจากสมาชิกทุกๆ คนในกองทัพนั้นยังเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลหรือไม่ หรือว่าควรที่จะปรับเปลี่ยนให้เป็นไปตามตำแหน่งงาน เพื่อที่กองทัพจะยังคงสามารถรักษากลุ่มบุคลากรทรงความรู้ความสามารถเอาไว้ โดยที่บุคลากรเหล่านี้มีความจำเป็นยิ่งสำหรับสงครามไฮเทคในสมัยปัจจุบัน
ตัวอย่างเช่น มีการถกเถียงกันในกองทัพบกว่าควรผ่อนปรนข้อกำหนดอันเข้มงวดเรื่องปริมาณไขมันในร่างกาย ให้แก่พวกทหารซึ่งทำงานด้านสงครามไซเบอร์หรือไม่
ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งงานอย่างพวกผู้ควบคุมการปฏิบัติงานของอากาศยานไร้นักบิน (โดรน) ไปจนถึงเจ้าหน้าที่สงครามไซเบอร์ “มีเจ้าหน้าที่ทำงานในตำแหน่งต่างๆ จำนวนมากทีเดียว ซึ่งเห็นกันได้อย่างชัดเจนจริงๆ ว่า น้ำหนักตัวของพวกเขาจะไม่ทำให้การปฏิบัติงานของพวกเขาเกิดความเปลี่ยนแปลงอะไรอย่างใหญ่โตเลย นอกเหนือจากในขอบเขตที่ว่าวัฒนธรรมในหมู่ทหารนั้นดูหมิ่นคนที่อ้วน ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงไม่สามารถที่จะเป็นผู้นำได้” เจมส์ จอยเนอร์ อดีตนายทหารบก ซึ่งเวลานี้สอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเหล่านาวิกโยธิน กล่าว
เขาเป็นคนหนึ่งที่เชื่อว่า กองทัพจะต้องเปลี่ยนแปลงกันแล้ว
“มันเป็นเรื่องเหลวไหลมากที่มีวัยรุ่นระดับมัธยมปลายเป็นเปอร์เซ็นต์สูงถึงขนาดนี้ ซึ่งถูกมองว่าอ้วนเกินกว่าที่จะเข้าร่วมกับกองทัพได้” จอยเนอร์บอก “มันอาจจะเนื่องมาจากปัญหา 2 ปัญหา คือ หนึ่ง โรคอ้วน แต่อีกปัญหาหนึ่งคือ มาตรฐานที่ใช้กันอยู่นั้นล้าสมัยและไม่สอดคล้องความเป็นจริงแล้ว”
ทางด้าน คริสเทนเสน โฆษกกองทัพเรือบอกว่า มีทหารเรือราว 34,000 คน หรือคร่าวๆ คือ 10% ของทั้งกองทัพ เคยสอบตกไม่ผ่านข้อกำหนดทางด้านร่างกายอย่างน้อย 1 ครั้งนับตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้น โดยส่วนใหญ่ที่สุดเนื่องจากมีไขมันในร่างกายสูงเกินไป
ระเบียบเก่าที่กองทัพเรือใช้อยู่ ยินยอมให้มีไขมันในร่างกายไม่เกิน 22% สำหรับทหารชายอายุ 17-39 ปี และไม่เกิน 33% สำหรับทหารหญิงอายุ 17-39 ปี สำหรับลูกประดู่วัย 40 ปีขึ้นไปอนุญาตให้เพิ่มขึ้นอีก 1% นั่นคือ 23% สำหรับทหารชาย และ 34% สำหรับทหารหญิง
แต่ตามระเบียบใหม่ ซึ่งอยู่ในแนวทางเดียวกับมาตรฐานของกระทรวงกลาโหมนั้น ยินยอมให้มีไขมันในร่างกายสูงสุดไม่เกิน 26% สำหรับทหารชาย และ 36% สำหรับทหารหญิง