ศูนย์ข่าวศรีราชา - จ่าเอกทหารหญิงลูกประดู่ ตำแหน่งประจำการเงิน สังกัดโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ซิ่งเก๋งมาด้วยความเร็วเกิดยางระเบิดพุ่งชนเสาไฟฟ้าล้ม 8 ต้น สาหัสติดคารถ ส่งผลให้ไฟฟ้าดับทั้งเมือง
เมื่อเวลา 02.00 น. วันนี้ (17 ก.ย.) ร.ต.อ.ไพบูลย์ เลาหะนะวัฒน์ พนักงานสอบสวน สภ.พลูตาหลวง ได้รับแจ้งเหตุรถเก๋งพุ่งชนเสาไฟฟ้าหักโค่นหลายต้น มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสติดคารถ และส่งผลให้ไฟฟ้าดับทั้งเมืองสัตหีบ เหตุเกิดริมถนนสุขุมวิท กม.181 เส้นทางสัตหีบ-กิโลเมตรที่ 10 บริเวณโค้งอนุสาวรีย์กิโลเมตรที่ 6 ม.6 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมประสานขอรับการสนับสนุนการไฟฟ้าสัตหีบตัดกระแสไฟฟ้า ก่อนให้หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ และหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ เข้าช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ยาวติดต่อกันกว่า 20 ห้อง เสาไฟฟ้าด้านหน้าหักโค่นเป็นแถวยาวรวม 8 ต้น ทับอาคารเสียหาย 4 ห้อง รถยนต์เสียหาย 1 คัน ส่วนรถคันก่อเหตุพลิกคว่ำตะแคงซ้าย พังเสียหายยับเยิน ทราบเป็นรถเก๋งฮอนด้า แอคคอร์ด สีดำ หมายเลขทะเบียน ญว 2202 กรุงเทพมหานคร ในรถพบคนขับทราบชื่อคือ จ.อ.หญิง นัทรรินทร์ ฉายัษเสถียร อายุ 33 ปี ตำแหน่งประจำการเงิน สังกัดโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ได้รับบาดเจ็บสาหัส
ร่างกายท่อนล่างถูกบีบอัดติดคาอยู่กับคอนโซลหน้ารถ กำลังร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด เจ้าหน้าที่กู้ภัยใช้เวลานานเกือบ 1 ชั่วโมง จึงสามารถนำตัวออกมาได้อย่างทุลักทุเล ก่อนเร่งนำตัวส่งถึงมือหมออย่างปลอดภัย
สอบถาม จ.อ.หญิง นัทรรินทร์ คนขับ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุได้เดินทางกลับมาจากทำธุระที่ตลาดสัตหีบ มุ่งหน้ากลับบ้านพักที่กิโลเมตรที่ 10 เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้ง ยางซ้ายหน้าเกิดแตกเสียงดังสนั่น จากนั้นรถก็เสียหลักพุ่งชนเข้ากับเสาไฟฟ้าอย่างแรง จนหักโค่นติดต่อกันหลายต้น ซึ่งจะยินดีชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากอุบัติเหตุในครั้งนี้ได้สร้างปัญหากระแสไฟฟ้าดับทั้งเมืองสัตหีบ เนื่องจากเป็นจุดต้นใกล้โรงจ่ายกระแสไฟฟ้า หลังอุบัติเหตุเกิดขึ้น มีหม้อแปลงระเบิดหลายตัว อาจเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าได้เร่งทำการซ่อมแซมนานกว่า 2 ชั่วโมง จึงทำให้พื้นที่บางส่วนมีไฟฟ้าใช้
อย่างไรก็ตาม ทางการไฟฟ้าได้เร่งซ่อมแซมให้แล้วเสร็จ คาดไม่เกิน 2 วัน ส่วนประเมินค่าเสียหายเบื้องต้นมูลค่าไม่ต่ำกว่าล้านบาทแน่นอน
