“เปิ้ล กริชสุดา” ปัดเกี่ยวข้องจ้างวานชายชุดดำยิงถล่มทหารที่แยกคอกวัว อ้างปี 53 ยังเป็นวุ้นอยู่เลย บอกอายแทนตำรวจชั้นผู้น้อยและนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ เย้ย “สมยศ” ไปปราบพ่อค้ายา-จับคดีข่มขืนดีกว่า
เมื่อเวลา 17.46 น.วันนี้ (13 ก.ย.) ในแฟนเพจ “แนวร่วมขบวนการเสรีไทยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ” ได้มีการโพสต์วิดีโอคลิป น.ส.กริชสุดา คุณะเสน หรือ “เปิ้ล สหายสุดซอย” ผู้ต้องหาคดีจัดหาอาวุธให้คนร้ายยิงใส่สถานที่ต่างๆ ระหว่างการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. และขณะนี้หลบหนีอยู่ต่างประเทศ ออกมาตอบโต้ข้อกล่าวหาว่าเป็นผู้จ้างวานกลุ่มชายชุดดำพร้อมอาวุธครบมือยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ในปฏิบัติการขอคืนพื้นที่จากการชุมนุมคนเสื้อแดง บริเวณแยกคอกวัว เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2553 จนเป็นเหตุให้ พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม และทหารอีกหลายนายเสียชีวิต ตามที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แถลงข่าวการจับผู้ต้องหากลุ่มชายชุดดำ 5 คน เมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา
ในคลิปความยาวประมาณ 1 นาที น.ส.กริชสุดากล่าวว่า ขณะที่กำลังเดินทางไปหาหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานหลักๆ ในกรุงเจนีวา (ประเทศสวิตเซอร์แลนด์) เพื่อไปพูดเรื่องการทรมาน แต่ในระหว่างการเดินทางก็เห็นข่าวว่าตนเองเป็นผู้จ้างวานชายชุดดำ จึงอยากฝากถึง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ว่าตอนปี 53 ตนยังเป็นวุ้นอยู่ จะมายัดข้อหาอะไรแบบหน้าด้านๆ อายแทนพี่น้องตำรวจชั้นผู้น้อยและนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่เขาไม่เห็นด้วย พล.ต.อ.สมยศน่าจะเอาเลาไปปราบพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่หรือเอาเวลาไปจับคดีฆ่าข่มขืนดีกว่า
“อยากฝากถึงคุณลุงสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ว่าตอนปี 53 หนูยังเป็นวุ้นอยู่เลยนะคะ คุณลุงจะมายัดข้อหาอะไรแบบหน้าด้านๆ คะ คืออายแทนพี่น้องตำรวจชั้นผู้น้อย อายแทนนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่เขาไม่เห็นด้วยในเรื่องนี้นะคะ” น.ส.กริชสุดากล่าวในคลิป
ทั้งนี้ ระหว่างการแถลงข่าวการจับกุมชายชุดดำ 5 คน เมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สมยศกล่าวตอนหนึ่งว่า ผู้ต้องหากลุ่มนี้มีความเชื่อมโยงกับ น.ส.กริชสุดา คุณะเสน นักกิจกรรมเสื้อแดงที่ถูกศาลอนุมัติออกหมายจับไปก่อนหน้านี้กรณีมีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดหาอาวุธสงครามให้กับผู้ต้องหาคดีใช้อาวุธสงครามยิงใส่สถานที่ต่างๆ โดยพบหลักฐานสลิปการโอนเงินจำนวนมากให้กับผู้ต้องหาเหล่านี้ในบ้านของ น.ส.กริชสุดา ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขได้ บอกได้แค่ว่าจำนวนมาก
ส่วน น.ส.กริชสุดา เคยถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้ในค่ายทหารเมื่อวันที่ 28 พ.ค.หลังจากการเข้ายึดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก่อนที่จะได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากนั้น น.ส.กริชสุดาได้เดินทางออกนอกประเทศ ภายใต้การช่วยเหลือของนายจารุพงษ์ เรืองสุวรรณ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมทหาดไทยในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งอยู่ระหว่างการหลบหนีคดีเช่นกัน และ น.ส.กริชสุดาได้ไปร้องเรียนต่อหน่วยงานระหว่างประเทศอ้างว่าตนเองถูกทหารทรมานร่างกายระหว่างการถูกควบคุมตัว ทั้งที่เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ได้รับการปล่อยตัวนั้น มีสภาพปกติทุกอย่าง ทั้งยังบอกสื่อมวลชนว่าไม่ได้ถูกทำร้ายร่างกายหรือโดนอุ้มฆ่าตามที่มีข่าวลืออกมา ตลอดเวลาที่ถูกกักตัวไว้ก็สบายดี แต่ที่อยู่เกินกำหนดเพราะไม่อยากออกมาข้างนอก เกรงจะวุ่นวายและไม่ปลอดภัยจึงขออยู่ในค่ายทหารต่อโดยไม่ได้บอกใครแม้แต่พ่อแม่และเพื่อนๆ ทำให้ทุกคนเป็นห่วง
“หลังทราบข่าวว่าหนูถูกอุ้มไปฆ่าจากปากทหารหญิงที่ดูแลอยู่ หนูก็รู้สึกแปลกใจ เพราะตัวเองอยู่สบายดี ทหารเขาดูแลอย่างดี จึงอยากให้ประชาชนทั่วไปใช้วิจารณญาณในการรับข่าวสารอย่าเพิ่งหลงเชื่อข้อมูลที่ส่งต่อๆ กัน ที่ผ่านมาก็ยังไม่ทราบว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวดังกล่าว แต่หนูก็ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวแล้วว่ายังสุขสบายดี ไม่ได้หายตัวไปแต่อย่างใด” น.ส.กริชสุดากล่าวเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.57 (อ่านข่าว ทหารคุมสมุนแดงตะวันออกดำเนินคดี - “สหายสุดซอย” โผล่ปัดโดนอุ้มฆ่า)