xs
xsm
sm
md
lg

แดงดิ้นปัดสวะเอี่ยว “ชายชุดดำ” ฆ่า พล.อ.ร่มเกล้า “เหวง” กังขาทำไมเพิ่งจับ - ขู่มีแพะสามัคคีไม่เกิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เหวง โตจิราการ (ภาพจากแฟ้ม)
แกนนำ นปช. ปฏิเสธเกี่ยวข้อง “ชายชุดดำ” สังหาร “พล.อ.ร่มเกล้า” ในเหตุการณ์ 10 เม.ย. สี่แยกคอกวัว “เหวง” ถามจับคนถูกหรือไม่ แปลกใจเพิ่งจับได้ปีนี้ ไม่เชื่อเป็นของจริง อ้างมีเอกสารจากฝั่งตำรวจ ท้าแน่จริงให้ สนง.สิทธิมนุษยชนโลก โยง “เปิ้ล กริชสุดา” เลย ลั่นเสื้อแดงไม่มีกองกำลังติดอาวุธ ด้านโฆษก นปช. ขู่ถ้าจับแพะความสามัคคีไม่เกิด

วันนี้ (11 ก.ย.) ที่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) แถลงจับกุมผู้ต้องคดีเกี่ยวข้องการสังหาร พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม ระหว่างปฏิบัติหน้าที่บริเวณสี่แยกคอกวัว เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2553 ว่า รู้สึกดีใจที่จับทีมสังหาร พล.อ.ร่มเกล้า ได้ ขอให้ดำเนินไปตามกฎหมาย แต่ประเด็นคือจับคนถูกหรือไม่ มีพยานหลักฐานชัดเจนหรือไม่ หวังว่าคงไม่ได้เป็นการจับแพะ อย่างไรก็ตาม อยากให้ตำรวจทำคดีอย่างตรงไปตรงมา แต่ทั้งนี้ก็แปลกใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่งจับผู้ต้องหาได้ในปี 2557

เมื่อถามว่า ในเมื่อตำรวจจับกุมผู้ต้องหาได้ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีชายชุดดำสังหารทหารและทำร้ายประชาชน ยืนยันได้หรือไม่ว่าทางแกนนำเสื้อแดงไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว นพ.เหวง กล่าวว่า ณ วินาทีนี้ ตนไม่เชื่อมั่นว่าทีมสังหาร พล.อ.ร่มเกล้า ที่จับมาจะเป็นของจริง ตนสงสัยว่าเป็นการจับแพะหรือไม่ ถูกยัดเยียด ถูกซ้อมหรือไม่ และการที่ระบุว่าคนเสื้อแดงมีชายชุดดำ แล้วไปฆ่า พล.อ.ร่มเกล้า นั้น ยังฟังไม่ขึ้น ยังสรุปแบบนั้นไม่ได้ ต้องตรวจสอบให้รอบคอบ

“ผมยืนยันว่า ผมมีหลักฐานเอกสารบางชิ้นของตำรวจที่เข้าไปในสถานที่ที่ พล.อ.ร่มเกล้า เสียชีวิต มีผู้เชี่ยวชาญหลุมระเบิดจากตำรวจไปพิสูจน์ทราบว่าตรงนั้นเป็นหลุมเอ็ม 67 และมีชิ้นส่วนของเอ็ม 67 ตกอยู่ และรายงานของตำรวจบอกว่ามีชิ้นส่วนเอ็ม 67 อยู่ในร่างกายของ พล.อ.ร่มเกล้า ฉะนั้น พล.อ.ร่มเกล้า เสียชีวิตจากระเบิดเอ็ม 67 ซึ่งเอ็ม 67 ขว้างได้ในระยะทาง 40 เมตร ซึ่งขณะนั้นคนเสื้อแดงอยู่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุเกินกว่า 100 เมตร มีสิ่งกีดขวางกั้นอยู่หลายอย่างจึงเป็นไปไม่ได้ ยืนยันว่า พล.อ.ร่มเกล้า ไม่ได้ตายจากคนเสื้อแดง เป็นความเชื่อของผม ผมมีเอกสารยืนยันเรื่องนี้” นพ.เหวงกล่าว

เมื่อถามว่า น.ส.กริชสุดา คุณะแสน หรือ เปิ้ล นักกิจกรรมเสื้อแดง มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวด้วยมีความเห็นอย่างไร นพ.เหวง กล่าวว่า หากตำรวจแน่ใจว่า น.ส.กริชสุดา ผิดจริง ก็ให้สำนักงานสิทธิมนุษยชนโลก เข้ามาร่วมทีมการสืบสวนด้วย หากตำรวจมั่นใจว่า น.ส.กริชสุดา มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่สำหรับตนยังไม่เชื่อทั้งหมด ต้องฟังหู ไว้หู

เมื่อถามว่า การที่ตำรวจจับกุมทีมสังหาร พล.อ.ร่มเกล้า ได้นั้น จะส่งผลกระทบต่อคนเสื้อแดงหรือไม่ นพ.เหวง กล่าวว่า เชื่อว่าไม่เดือดร้อน เพราะคนเสื้อแดงไม่มีชายชุดดำ คนเสื้อแดงไม่มีกองกำลังติดอาวุธ คนเสื้อแดงไม่ได้สังหาร พล.อ.ร่มเกล้า ฉะนั้น ความจริงความบริสุทธิ์จะคุ้มครองพวกเรา เราไม่ได้ทำอะไรผิดจึงไม่จำเป็นต้องหวั่นไหวกับอะไร

ด้าน นายธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ โฆษก นปช. กล่าวว่า คงต้องดูว่าเป็นชายชุดดำของฝ่ายไหน ของใคร และเป็นจริงแค่ไหน แต่ถ้าเขาบอกว่าเกี่ยวพันกับคนเสื้อแดง ก็ต้องระบุว่าเป็นกลุ่มไหน ตนยืนยันว่า สำหรับแกนนำบนเวทีเราไม่มีชายชุดดำ ซึ่งถ้าใครทำผิดก็ว่ากันไปตามผิดก็สู้คดีกันไป แต่ถ้าเป็นการจัดฉากขึ้นมาเพื่อจะกลั่นแกล้ง ใส่ร้ายคนเสื้อแดง ตนมองว่าความสามัคคีจะไม่เกิด

ทั้งนี้ พวกตนไม่เคยรู้ไม่เคยเห็นว่าชายชุดดำมีจริง ตลอดเวลาเราต่อสู้ด้วยสันติวิธี ไม่เคยใช้กองกำลังติดอาวุธมาต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามไม่ว่าเขาเป็นใคร ยืนยันสำหรับ นปช. ไม่มีชายชุดดำ แต่ถ้าเป็นชายชุดดำที่มาร่วมต่อสู้ในกลุ่มต่างๆ ไม่ว่าฝ่ายใด ตนไม่รู้จักและไม่รู้ว่าเป็นใคร และถ้าแม้ว่าเป็นคนที่เรารู้จักและเขาจับปืนขึ้นมาสู้ เราก็ยืนยันไม่ได้ว่าเป็นพวกเรา

เมื่อถามว่า การจับกุมครั้งนี้จะสามารถสาวไปถึงผู้บงการต้นตอได้หรือไม่ นายธนาวุฒิ กล่าวว่า ถ้าเป็นเรื่องจริง พยานหลักฐานมีจริงก็จะหนีความจริงไม่พ้น ความจริงเป็นเช่นไรก็เป็นเช่นนั้น ใครที่ใช้กองกำลังติดอาวุธมาต่อสู้เช่นนี้ก็ต้องรับผิดชอบไปแต่ละกลุ่ม เชื่อมโยงกับใคร เอาเงินมาจากไหน

“พวกผมต่อสู้บนเวที จับไมค์ปราศรัยใช้หลักการต่อสู้กันไป ก็ว่ากันไป เราไม่มีกองกำลังติดอาวุธ นี่คือพวกผม นปช. แดงทั้งแผ่นดินที่ต่อสู้กันมาตั้งแต่ปี 44 จนปี 53 เราไม่มีกองกำลังติดอาวุธ” โฆษก นปช. กล่าว

นายธนาวุฒิ กล่าวว่า ขณะนี้มีการจับกุมและแถลงข่าวกันใหญ่โต ก็ต้องดูลึกๆ ว่าเบื้องหลัง เบื้องหน้าในการจับกุมและอนาคตขยายผลจะไปตรงไหน อย่างไร ก็ว่ากันไปตามเหตุตามผล ใครทำผิดก็ต้องรับผิดชอบไม่ว่าใคร อย่างไรก็ตาม ตนไม่กล้าฟันธงว่าการจับกุมครั้งนี้เป็นแพหรือตัวจริง แต่ถ้าสมมุติว่าเป็นการจัดฉาก แสดงว่าเขาพยายามเชื่อมโยงเพื่อให้การปราบปรามในปี 53 เป็นสิ่งที่ถูกต้อง ซึ่งถ้าเป็นการจับแพะมาแล้วใส่ร้ายป้ายสี ตรงนี้ความสามัคคีจะไม่เกิดขึ้นแน่นอน


กำลังโหลดความคิดเห็น