“กัมปนาท” เดาใจ “ปู” ยาก กลับไทยหรือหนี ป้อง “บิ๊กตู่” ศาลยังไม่ตัดสินมีสิทธิ์อะไรห้ามไปนอก

“บิ๊กโชย” เผยยังไม่ได้ประสาน “ยิ่งลักษณ์” ขอเลื่อนเวลากลับไทย เพราะยังไม่ถึงเวลา ถ้าไม่มาจริงๆ ก็ต้องชี้แจง “ประยุทธ์” พิจารณาอีกที เปรยเดาใจยาก ขึ้นอยู่กับเจ้าตัว ออกโรงป้องนาย ศาลยังไม่ตัดสินมีสิทธิ์อะไรจะห้ามเจ้าตัว หวั่นถูกโจมตีสิทธิมนุษยชน “วินธัย” จวก “กริชสุดา” ชี้นำประเด็นการเมือง ยันที่กล่าวอ้างไม่จริง

วันนี้ (6 ส.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถนนราชดำเนินนอก พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบกฝ่ายยุทธการ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะไม่เดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 10 ส.ค. นี้ ว่า ต้องเข้าใจว่ากลุ่มบุคคลที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เชิญมารายงานตัวในช่วงเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา คสช. ได้อะลุ่มอล่วยตลอด และไม่ได้ออกหมายจับทันที ซึ่งถ้าหากว่าใครติดภารกิจอะไรก็ให้มาชี้แจง โดยทาง คสช. ให้เวลา แต่เมื่อหมดเวลาแล้วก็จะต้องออกหมายจับทันที ส่วนกรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานงานว่าจะมีการเลื่อนเวลากลับ เพราะว่ายังไม่ถึงวันที่ 10 ส.ค. ที่เป็นวันครบกำหนดขอเดินทางไปต่างประเทศ ดังนั้น ต้องให้ถึงเวลาก่อนกำหนด ถ้าหากว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่มาจริงๆ ก็จะต้องชี้แจงเหตุว่าติดภารกิจอะไรที่ไม่สามารถเดินทางกลับได้ ซึ่งทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. จะเป็นผู้พิจารณาอีกครั้งหนึ่งว่าจะอนุญาตให้อยู่ต่อหรือไม่

เมื่อถามว่า จากการประเมินของ คสช. คิดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเดินทางกลับในวันที่ 10 ส.ค. นี้หรือไม่ พล.ท.กัมปนาท กล่าวว่า ไม่สามารถเดาใจได้ เพราะส่วนตัวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็มีทีมที่ปรึกษาที่เป็นกุนซือทางยุทธศาสตร์คอยให้คำแนะนำอยู่ ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ น.ส.ยิ่งลักษณ์

เมื่อถามว่า ห่วงหรือไม่หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่เดินทางกลับมาในวันที่ 10 ส.ค. นี้ จะส่งผลกระทบต่อหัวหน้า คสช. ที่อนุญาตให้เดินทางไปต่างประเทศ ทั้งๆ ที่ทราบดีว่าจะไม่กลับมา พล.ท.กัมปนาท กล่าวว่า ทางหัวหน้า คสช. ต้องชี้แจงได้ ซึ่งก่อนหน้านั้น ที่หัวหน้า คสช. อนุญาตให้เดินทางไปต่างประเทศ เพราะถือว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังไม่มีความผิด เพราะศาลยังไม่ได้ตัดสิน และถามว่า หัวหน้า คสช. จะมีสิทธิ์อะไรที่จะไปห้ามไม่ให้เดินทางไปต่างประเทศ ตรงกันข้ามถ้าไปทำอย่างนั้นก็จะกระทบหลักสิทธิมนุษยชน ก็จะถูกโจมตี จึงทำให้หัวหน้า คสช. ต้องอนุมัติไปตามหลักการ ซึ่งการดำเนินการกับทุกคนที่มารายงานตัวกับ คสช. มีกฎเกณฑ์เดียวกัน ไม่ได้มีบุคคลใดได้รับสิทธิพิเศษ และยืนยันว่าหัวหน้า คสช. ไม่ได้ช่วย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้หลบหนี

“ก่อนที่จะเดินทางไปต่างประเทศ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้แจ้งต่อ คสช. โดยมีการแสดงหลักฐานที่เป็นตั๋วเครื่องบินไปกลับ ที่พักอาศัยในต่างประเทศที่ชัดเจน รวมถึงกิจกรรมที่จะไปทำในระหว่างอยู่ต่างประเทศ” พล.ท.กัมปนาท กล่าว

เมื่อถามว่า หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ขอขยายเวลาจะมีกรอบได้มากน้อยแค่ไหน พล.ท.กัมปนาท กล่าวว่า หัวหน้า คสช. ก็จะพิจารณาตามความเหมาะสม โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะต้องชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร เปรียบเสมือนศาลที่ยังอนุญาตให้ผู้ที่ถูกกล่าวหาสามารถเลื่อนวันขึ้นศาลได้ ซึ่งสิ่งที่เราทำในวันนี้ เพื่อให้ทุกคนหันมาเคารพกฎหมายปกติ และหลีกเลี่ยงกฎหมายพิเศษ เพราะถ้าหากเราทำเช่นนั้นก็จะเกิดความเคยชินต่อไป ประชาชนจะไม่ฟังกฎหมายปกติ หรือตำรวจ และคนที่ทำหน้าที่ยากที่สุดคือตำรวจ ส่วนแนวโน้มการยกเลิกกฎอัยการศึกนั้น กำลังพิจารณาอยู่ แต่จะสามารถยกเลิกได้ภายหลังที่มีการจัดตั้งรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว โดยจะนำเรื่องดังกล่าวให้รัฐบาลพิจารณาอีกครั้งหนึ่งว่าสมควรยกเลิกหรือไม่อย่างไร

อีกด้านหนึ่ง พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ในฐานะทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า ในขณะนี้ตนยังไม่ได้รับข้อมูล ส่วนมาตรการดำเนินการหาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่เดินทางกลับมาตามกำหนดนั้น จะต้องนำข้อมูลไปหารายละเอียดเพิ่มเติมอีกครั้ง

เมื่อถามถึงกรณีการเดินทางไปต่างประเทศของ น.ส.กริชสุดา คุณะแสน หรือ เปิ้ล สหายสุดซอย นักกิจกรรมกลุ่มคนเสื้อแดง และมีการดำเนินการขอลี้ภัยในต่างประเทศนั้น จะเป็นตัวอย่างในการพิจารณาคนที่ขอเดินทางไปต่างประเทศครั้งต่อไปหรือไม่ พ.อ.วินธัย กล่าวว่า เงื่อนไขของการลี้ภัยในต่างประเทศ หากมีความผิดทางคดีอาญาจะเป็นไปได้ยากมาก เพราะส่วนใหญ่จะสามารถลี้ภัยในต่างประเทศได้ถ้าเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับทางการเมือง กรณีของ น.ส.กริชสุดา เป็นความพยายามชี้นำสังคม โดยเฉพาะต่างประเทศให้คล้อยตาม เพื่อให้มองว่าเป็นประเด็นทางการเมือง ทั้งนี้ ที่ผ่านมา คสช. ได้เคยชี้แจงกรณีของ น.ส.กริชสุดา แล้วว่า เรื่องที่ น.ส.กริชสุดา กล่าวอ้างนั้นไม่เป็นความจริง อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าตั้งแต่เริ่มต้นสถานการณ์ในวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา ทาง คสช. คำนึงเรื่องหลักสิทธิมนุษยชนมาตลอด ไม่ได้ดำเนินการใดๆ ที่เป็นเรื่องปกปิด ทุกอย่างเป็นไปตามความเหมาะสม ข้อสงสัยและข้อกังวลของสังคมที่เกิดขึ้น เช่นเรื่องบุคคลต่างๆ ที่เข้ามามีส่วนร่วมกับ คสช. ทาง คสช. ก็จะมีการประชาสัมพันธ์ให้ได้รับทราบเป็นระยะ

“การเดินทางออกนอกประเทศ หากไม่ได้ติดเงื่อนไข หรือข้อกฎหมายที่บังคับไว้ ผู้ที่ยังมีคดีจะเดินทางออกนอกประเทศไม่ได้ แต่ถ้าไม่ได้เข้าเงื่อนไขดังกล่าวก็เป็นดุลพินิจของ คสช. อีกครั้ง” พ.อ.วินธัย กล่าว