น้ำมันลงอีก หุ้นสหรัฐฯ ทรงตัว-ทองขึ้นยังกังวลเศรษฐกิจจีน

เอเอฟพี/รอยเตอร์ - น้ำมันขยับลงต่อในวันอังคาร (5 ม.ค.) นักลงทุนกลับมากังวลต่อภาวะอุปทานล้นตลาด ส่วนวอลล์สตรีทปิดในกรอบแคบๆ คืนสู่ความเสถียรแต่ความวิตกยังคงสูงลิ่ว ขณะที่ทองคำปรับขึ้นเล็กน้อย

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 79 เซ็นต์ ปิดที่ 35.97 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 80 เซ็นต์ ปิดที่ 36.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ความตึงเครียดระหว่างสองชาติผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อิหร่าน และซาอุดีอาระเบีย ต่อกรณีริยาดประหารชีวิตนักการศาสนาคนสำคัญของฝ่ายชีอะห์ ขยายวงเข้าสู่วิกฤตทางการทูต ด้วยพันธมิตรอาหรับสุหนี่ตัดความสัมพันธ์กับอิหร่าน กระพือความกังวลแก่โลก

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บอกว่าผลกระทบของความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางต่อตลาดน้ำมันยังถูกบดบังจากความกังวลต่อภาวะอุปทานล้นตลาดและกำลังผลิตที่สูงลิ่วจากชาติผู้ผลิตน้ำมันส่วนอื่นๆ ของโลก

ความกังวลนี้สอดคล้องกับที่ตลาดคาดหมายว่าคลังปิโตรเลียมของสหรัฐฯ ที่แกว่งตัวอยู่ใกล้ๆระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์จะปรับขึ้นอีกสัปดาห์ ในรายงานประจำสัปดาห์ของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ในวันพุธ (6 ม.ค.)

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดในกรอบแคบๆเมื่อวันอังคาร (5 ม.ค.) กลับคืนสู่ภาวะเสถียรอีกครั้ง หลังจากเริ่มต้นสัปดาห์หลังปีใหม่ดิ่งลงแรง อย่างไรก็ตาม ความกังวลในหมู่นักลงทุนยังอยู่ในระดับสูง

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 9.72 จุด (0.06 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17.158.66 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 4.05 จุด (0.20 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,016.71 จุด แนสแดค ลดลง 11.66 จุด (0.24 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,891.43 จุด

หลังจากข้อมูลทางเศรษฐกิจจีนฉุดให้ตลาดหุ้นร่วงลงหนักในวันจันทร์ (4 ม.ค.) ธนาคารกลางจีนในวันอังคาร (5 ม.ค.) อัดฉีดเงิน 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเข้าสู่ระบบการเงิน ในความพยายามค้ำยันตลาด

หุ้นของแอปเปิล อิงก์ ลดลง 2.5 ปอร์เซ็นต์ กลายเป็นตัวถ่วงดัชนีหลักทั้ง 3 ขณะที่ราคาน้ำมันดิบและดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ก็เป็นปัจจัยที่กดดันตลาดเช่นกัน

ด้านราคาทองคำเมื่อวันอังคาร (5 ม.ค.) ปิดบวกและแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ หลังความกังวลต่อเศรษฐกิจจีน และความตึงเครียดในตะวันออกกลาง กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ ทองคำตลาดโคเม็กซ์เพิ่มขึ้น 3.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,078.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม