เอเอฟพี - ราคาน้ำมันเมื่อวันจันทร์ (4 ม.ค.) ปิดลบเล็กน้อย จากความกังวลต่ออุปทานและข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของจีนมีอิทธิพลต่อตลาดเหนือกว่าความตึงเครียดระหว่างสองชาติผู้ผลิตรายใหญ่อย่างซาอุดีอาระเบียและอิหร่าน อย่างไรก็ตาม ปัจจัยทั้งสองฉุดวอลล์สตรีทร่วงหนัก ขณะที่ทองคำพุ่งทะยาน หลังนักลงทุนแห่ถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 28 เซ็นต์ ปิดที่ 36.76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกันลดลง 6 เซ็นต์ ปิดที่ 37.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นักวิเคราะห์มองว่าเบื้องต้นตลาดปิโตรเลียมได้แรงหนุนจากความตึงเครียดระหว่างซาอุดีอาระเบียกับอิหร่าน ตามหลังริยาดประหารอิหม่ามนิกายชีอะห์ชื่อดังตามข้อหาก่อการร้ายเมื่อวันเสาร์ (2 ม.ค.)
อย่างไรก็ตาม จากนั้นราคาน้ำมันก็แกว่งสู่แนวลบ ขณะที่นักลงทุนกลับมาเพ่งเล็งต่อภาวะอุปทานล้นตลาดที่เรื้อรังมานานและข้อมูลภาคการผลิตที่อ่อนแอในจีน ชาติพลังงานรายใหญ่ของโลก
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบหนักเมื่อวันจันทร์ (4 ม.ค.) หลังข้อมูลที่อ่อนแอของจีน กระพือความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
ดาวโจนส์ ลดลง 276.09 จุด (1.58 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17.148.94 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 31.28 จุด (1.53 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,012.66 จุด แนสแดค ลดลง 104.32 จุด (2.08 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,903.09 จุด
ผลสำรวจพบว่ากิจกรรมภาคการผลิตของเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลกในเดือนธันวาคมหดตัวถึงร้อยละ 7.0 นับเป็นการหดตัวเดือนที่ 10 ติดต่อกัน และมีแนวโน้มว่า เศรษฐกิจจีนซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกจะมีอัตราการเติบโตอ่อนแอที่สุดในรอบ 25 ปี ปัจจัยนี้ฉุดให้หุ้นจีนร่วงลงถึง 7 เปอร์เซ็นต์ จนต้องสั่ง “เซอร์กิต เบรกเกอร์” ปิดตลาดหนีความผันผวน
นอกจากนี้แล้ว ความเคลื่อนไหวของธนาคารกลางจีนที่ปรับลดอัตราอ้างอิงของสกุลเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์ลงมาแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปีครึ่ง ก็ก่อความกังวลเพิ่มเติมแก่นักลงทุน
ความตึงเครียดในตะวันออกกลางและการดิ่งลงในตลาดหุ้นจีนก่อความตื่นตระหนกแก่นักลงทุนที่พากันแห่ช้อนซื้อทองคำเพื่อลดความเสี่ยง เป็นผลให้ราคาทองคำในวันจันทร์ (4 ม.ค.) พุ่งขึ้นแรง โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์เพิ่มขึ้น 15 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,075.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม