เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันลงแรงในวันจันทร์ (28 ก.ย.) จากข้อมูลผลกำไรภาคอุตสาหกรรมที่ร่วงลงอย่างแรงในจีน ชาติผู้บริโภครายใหญ่ ปัจจัยนี้ฉุดให้วอลล์สตรีทปิดลบหนัก หลังมันกระพือความกังวลต่อสถานะทางเศรษฐกิจแดนมังกร ส่วนทองคำปรับลดเกือบ 14 ดอลลาร์
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน 1.27 ดอลลาร์ ปิดที่ 44.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.26 ดอลลาร์ ปิดที่ 47.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยในวันนี้ว่า ตัวเลขกำไรของเหล่าบริษัทอุตสาหกรรมสำคัญของจีน ในเดือนสิงหาคม ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนถึง 8.8% ผลจากการอ่อนค่าอันน่าช็อกของสกุลเงินหยวน อุปสงค์ที่อ่อนแอและราคาหลักทรัพย์ดำดิ่ง
ด้วยข้อมูลดังกล่าวก่อความกังวลต่อสถานะทางเศรษฐกิจของจีน และอาจกระทบต่อการตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งผลให้ตลาดหุ้นอเมริกาเมื่อวันจันทร์ (28 ก.ย.) ปิดลบอย่างแรง จ่อทำสถิติเป็นไตรมาสที่แย่ที่สุดในรอบ 4 ปี
ดาวโจนส์ ลดลง 312.78 จุด (1.92 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16.001.89 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 49.57 จุด (2.57 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,881.77 จุด แนสแดค ลดลง 142.53 จุด (3.04 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,543.97 จุด
ตัวเลขกำไรของเหล่าบริษัทอุตสาหกรรมสำคัญของจีน ฉุดให้หุ้นของกลุ่มผู้ผลิตวัตถุดิบและกลุ่มพลังงาน ด้วยราคาน้ำมันปรับลดลงกว่าร้อยละ 2
แม้ข้อมูลการใช้จ่ายผู้บริโภคสหรัฐฯในเดือนสิงหาคมจะขยายตัว แต่อีกด้านหนึ่งยอดขายบ้านมือ 2 กลับลดลง บ่งชี้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่แข็งแกร่งอาจกำลังสูญเสียแรงขับเคลื่อน
ด้านราคาทองคำในวันจันทร์ (28 ก.ย.) ขยับลงหนัก นับเป็นการปิดลบวันเดียวรุนแรงที่สุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ หลังการดิ่งลงของตลาดหุนสหรัฐฯ กระตุ้นให้นักลงทุนขายทองคำเพื่อชดเชยการขาดทุน โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 13.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,131.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์