เอเอฟพี - วอลล์สตรีทปิดลบแรงและราคาน้ำมันลงพอสมควรเมื่อวันศุกร์ (4 ก.ย.) หลังข้อมูลภาคแรงงานที่ผสมผสานของสหรัฐฯ ให้ภาพที่มืดมัวต่อแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดท่มกลางความยุ่งเหยิงในตลาดโลกที่มีจีนเป็นต้นตอ ขณะเดียวกันปัจจัยดังกล่าวก็ฉุดให้ทองคำปิดในกรอบแคบๆ
ดาวโจนส์ ลดลง 272.38 จุด (1.66 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16.102.38 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 29.91 จุด (1.53 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,921.22 จุด แนสแดค ลดลง 49.58 จุด (1.05 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,683.92 จุด
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เผยว่า เศรษฐกิจของประเทศสามารถสร้างงานใหม่ในเดือนสิงหาคม 173,000 อัตรา น้อยกว่าที่คาดหมายไว้ แต่อีกด้านหนึ่งได้ปรับเพิ่มประมาณการตัวเลขการสร้างงานในเดือนมิถุนายน และกรกฎาคม เพิ่มขึ้นรวมกัน 44,000 อัตรา ผลักให้อัตราคนว่างงานลดลงมากกว่าที่คาด โดยเหลือแค่ 5.1%
ข้อมูลดังกล่าวถือเป็นการตัวเลขแรงงานอันสำคัญก่อนหน้าคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีกำหนดเปิดประชุมกันในวันที่ 16-17 กันยายน เพื่อพิจารณาว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2016 หรือไม่
ด้วยตัวเลขภาคแรงงานที่ผสมผสานไม่สามารถบอกใบ้ถึงกำหนดเวลาการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดได้ จึงก่อความไม่แน่ใจแก่นักลงทุนและฉุดให้ราคาน้ำมันเมื่อวันศุกร์ (4 ก.ย.) ปิดลบพอสมควร
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 70 เซ็นต์ ปิดที่ 46.05 ดอลลาร์ ส่วนเบรต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.07 ดอลลาร์ ปิดที่ 49.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
แม้ตัวเลขการจ้างงานใหม่จะต่ำกว่าคาดหมาย แต่ข้อมูลนี้ประกอบกับการปรับแก้ประมาณการณ์ในด้านบวกของช่วง 2 เดือนก่อน แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีความเข้มแข็งมากขึ้นแม้ต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
อย่างไรก็ตาม ด้วยความกังวลว่าปัญหาของจีนจะฉุดรั้งการเติบโตของเศรษฐกิจ เหล่านักเศรษฐศาสตร์จึงให้ความเห็นว่าแม้ข้อมูลจะแข็งแกร่ง แต่อาจยังไม่เพียงพอที่จะผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เริ่มขึ้นดอกเบี้ย ณ ที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินช่วงปลายเดือน
ส่วนราคาทองคำเมื่อวันศุกร์ (4 ก.ย.) ปรับลดเล็กน้อย แตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ หลังข้อมูลการจ้างงานให้ภาพที่ผสมผสานแก่ตลาดแรงงานของสหรัฐฯ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 3.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,121.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์