เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันลงแรงเมื่อวันศุกร์(22พ.ค.) หลังข้อมูลเงินเฟ้อดันดอลลาร์แข็งค่า ส่วนวอลล์สตรีทและทองคำปิดลบในกรอบแคบๆ จากความเห็นล่าสุดเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 1 ดอลลาร์ ปิดที่ 59.72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.17 ดอลลาร์ ปิดที่ 65.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และเป็นการปรับขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2013
ขณะเดียวกันค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงในช่วงบ่ายของการซื้อขายในวันศุกร์(22พ.ค.) ซึ่งดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นนี้ ก็ทำให้น้ำมันในรูปแบบดอลลาร์มีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ที่ถือสกุลเงินอื่นๆ
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันศุกร์(22พ.ค.) ปิดลบในกรอบแคบๆ หลังนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางอเมริกา(เฟด) บอกว่ายังไม่ตัดความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ แม้มีการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อเดือนเมษายนที่ปรับตัวขึ้นเกินคาด
ดาวโจนส์ ลดลง 53.72 จุด (0.29 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,232.02 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 4.76 จุด (0.22 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,126.06 จุด แนสแดค ลดลง 1.43 จุด (0.03 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,089.36 จุด
นางเยลเลนบอกว่าหากปรับขึ้นดอกเบี้ยล่าช้าก็อาจเสี่ยงร้อนแรงเกินไป อย่างไรก็ตามเธอเตือนว่าเศรษฐกิจของอเมริกายังคงแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอ โดยอัตราคนว่างงานที่ลดลงแตะร้อยละ 5.4 ไม่ได้สะท้อนถึงความเอื่อยเฉื่อยในตลาดแรงงาน
ส่วนราคาทองคำเมื่อวันศุกร์(22พ.ค.)แทบไม่ขยับ เหตุนักลงทุนชั่งใจต่อความเห็นของประธานเฟดต่อแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยและสัญญาณภาวะเงินเฟ้อที่ดีดตัวขึ้น โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 10 เซนต์ ปิดที่ 1,204.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์