สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 มิ.ย.) เพราะได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และจากการที่นักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนหน้านี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 5.5 ดอลลาร์ หรือ 0.47% ปิดที่ระดับ 1,173.6 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ 6 สกุลในตะกร้าเงินนั้น ร่วงลงกว่า 1% เมื่อคืนนี้ ซึ่งการอ่อนค่าของดอลลาร์จะทำให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
ทั้งนี้ ดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังจากมีรายงานข่าวว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ ซึ่งอยู่ที่เยอรมนีเพื่อร่วมการประชุมสุดยอด G7 นั้น ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับดอลลาร์ที่แข็งค่า
อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา โอบามาได้ออกมาปฏิเสธรายงานข่าวดังกล่าวในระหว่างการแถลงข่าวหลังการประชุมสุดยอด G7 แต่ดอลลาร์ก็ยังคงอยู่ในทิศทางที่อ่อนค่า
ด้านดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 มิ.ย.) ซึ่งเป็นการปิดในแดนลบติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐได้กระตุ้นให้เกิดการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 8 มิ.ย. ในแดนลบ โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลง 82.91 จุด หรือ 0.46% ปิดที่ 17,766.55 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 13.55 จุด หรือ 0.65% ปิดที่ 2,079.28 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็กลดลง 46.83 จุด หรือ 0.92% ปิดที่ 5,021.63 จุด
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอย่างเช่น อินเทล และ เฟซบุ๊ก ต่างลดลงในวันจันทร์ (-1.7% และ 1.8% ตามลำดับ) ซึ่งไม่มีรายงานใหญ่ๆเกี่ยวกับข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ขณะที่หุ้นกลุ่มสายการบินก็ลดลงมากเช่นกัน จากความกังวลเรื่องการมีอุปทานมากกว่าอุปสงค์
ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ หรืออย่างเร็วที่สุดคือเดือนก.ย. หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 280,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. จากระดับ 221,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย.
คริส โลว์ นักเศรษฐศาสตร์จากเอ็ฟทีเอ็น ไฟแนนเชียลกล่าวว่า "ก่อนหน้านี้กรรมการกำหนดนโยบายการเงินบางคนของเฟดพยายามผลักดันให้เฟดเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย. แต่เราคาดว่าเฟดอาจจะเลื่อนการปรับขึ้นดอกเบี้ยไปเป็นเดือนก.ย. อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความเป็นไปได้ว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยอาจจะเกิดขึ้นในเดือนก.ค."
นักลงทุนจับตาดูการเจรจาระหว่างรัฐบาลกรีซและกลุ่มเจ้าหนี้อย่างใกล้ชิด โดยล่าสุดนายกาเบรียล ซาเคลลาริดิส โฆษกรัฐบาลกรีซ เปิดช่องประนีประนอมกับฝ่ายเจ้าหนี้เพื่อให้มีการบรรลุข้อตกลงกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และสหภาพยุโรป (EU) นอกจากนี้ นายซาเคลลาริดิสยังปฏิเสธข่าวที่ว่ารัฐบาลอาจประกาศจัดการเลือกตั้งใหม่ โดยยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในแผนของรัฐบาล
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 มิ.ย.) หลังจากมีรายงานว่า จีนนำเข้าน้ำมันดิบลดลงในเดือนพ.ค. และจากข่าวที่ว่าอิหร่านวางแผนที่จะส่งออกน้ำมันดิบกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 99 เซนต์ ปิดที่ 58.14 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 62 เซนต์ ปิดที่ 62.69 ดอลลาร์/บาร์เรล
ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากรายงานของสำนักงานศุลกากรจีน (GAC) ที่ระบุว่า จีนนำเข้าน้ำมันดิบ 23.24 ล้านตันในเดือนพ.ค. ซึ่งลดลง 23.27% จากเดือนเม.ย. ส่วนการนำเข้าผลิตภัณฑ์น้ำมันในเดือนพ.ค.ลดลงสู่ระดับ 2.32 ล้านตัน จาก 2.47 ล้านตันในเดือนเม.ย.
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากนายไบจาน ซันเกเนห์ รัฐมนตรีพลังงานของอิหร่านเปิดเผยกับ Press TV ว่า อิหร่านมีแผนเพิ่มการผลิตน้ำมัน 500,000 บาร์เรลต่อวัน ภายระยะเวลาในสองเดือน และเพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้านบาร์เรลต่อวันภายใน 6-7 เดือน เมื่อชาติตะวันตกยกเลิกการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน
ทั้งนี้ อิหร่านและกลุ่มประเทศ P5+1 ซึ่งประกอบด้วย สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส จีน รัสเซีย และเยอรมนี ได้กลับสู่โต๊ะเจรจาแล้ว โดยทุกฝ่ายคาดหวังที่จะบรรลุข้อตกลงก่อนกำหนดเส้นตายในวันที่ 30 มิ.ย.
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 5.5 ดอลลาร์ หรือ 0.47% ปิดที่ระดับ 1,173.6 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ 6 สกุลในตะกร้าเงินนั้น ร่วงลงกว่า 1% เมื่อคืนนี้ ซึ่งการอ่อนค่าของดอลลาร์จะทำให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
ทั้งนี้ ดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังจากมีรายงานข่าวว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ ซึ่งอยู่ที่เยอรมนีเพื่อร่วมการประชุมสุดยอด G7 นั้น ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับดอลลาร์ที่แข็งค่า
อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา โอบามาได้ออกมาปฏิเสธรายงานข่าวดังกล่าวในระหว่างการแถลงข่าวหลังการประชุมสุดยอด G7 แต่ดอลลาร์ก็ยังคงอยู่ในทิศทางที่อ่อนค่า
ด้านดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 มิ.ย.) ซึ่งเป็นการปิดในแดนลบติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐได้กระตุ้นให้เกิดการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 8 มิ.ย. ในแดนลบ โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลง 82.91 จุด หรือ 0.46% ปิดที่ 17,766.55 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 13.55 จุด หรือ 0.65% ปิดที่ 2,079.28 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็กลดลง 46.83 จุด หรือ 0.92% ปิดที่ 5,021.63 จุด
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอย่างเช่น อินเทล และ เฟซบุ๊ก ต่างลดลงในวันจันทร์ (-1.7% และ 1.8% ตามลำดับ) ซึ่งไม่มีรายงานใหญ่ๆเกี่ยวกับข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ขณะที่หุ้นกลุ่มสายการบินก็ลดลงมากเช่นกัน จากความกังวลเรื่องการมีอุปทานมากกว่าอุปสงค์
ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ หรืออย่างเร็วที่สุดคือเดือนก.ย. หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 280,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. จากระดับ 221,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย.
คริส โลว์ นักเศรษฐศาสตร์จากเอ็ฟทีเอ็น ไฟแนนเชียลกล่าวว่า "ก่อนหน้านี้กรรมการกำหนดนโยบายการเงินบางคนของเฟดพยายามผลักดันให้เฟดเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย. แต่เราคาดว่าเฟดอาจจะเลื่อนการปรับขึ้นดอกเบี้ยไปเป็นเดือนก.ย. อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความเป็นไปได้ว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยอาจจะเกิดขึ้นในเดือนก.ค."
นักลงทุนจับตาดูการเจรจาระหว่างรัฐบาลกรีซและกลุ่มเจ้าหนี้อย่างใกล้ชิด โดยล่าสุดนายกาเบรียล ซาเคลลาริดิส โฆษกรัฐบาลกรีซ เปิดช่องประนีประนอมกับฝ่ายเจ้าหนี้เพื่อให้มีการบรรลุข้อตกลงกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และสหภาพยุโรป (EU) นอกจากนี้ นายซาเคลลาริดิสยังปฏิเสธข่าวที่ว่ารัฐบาลอาจประกาศจัดการเลือกตั้งใหม่ โดยยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในแผนของรัฐบาล
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 มิ.ย.) หลังจากมีรายงานว่า จีนนำเข้าน้ำมันดิบลดลงในเดือนพ.ค. และจากข่าวที่ว่าอิหร่านวางแผนที่จะส่งออกน้ำมันดิบกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 99 เซนต์ ปิดที่ 58.14 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 62 เซนต์ ปิดที่ 62.69 ดอลลาร์/บาร์เรล
ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากรายงานของสำนักงานศุลกากรจีน (GAC) ที่ระบุว่า จีนนำเข้าน้ำมันดิบ 23.24 ล้านตันในเดือนพ.ค. ซึ่งลดลง 23.27% จากเดือนเม.ย. ส่วนการนำเข้าผลิตภัณฑ์น้ำมันในเดือนพ.ค.ลดลงสู่ระดับ 2.32 ล้านตัน จาก 2.47 ล้านตันในเดือนเม.ย.
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากนายไบจาน ซันเกเนห์ รัฐมนตรีพลังงานของอิหร่านเปิดเผยกับ Press TV ว่า อิหร่านมีแผนเพิ่มการผลิตน้ำมัน 500,000 บาร์เรลต่อวัน ภายระยะเวลาในสองเดือน และเพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้านบาร์เรลต่อวันภายใน 6-7 เดือน เมื่อชาติตะวันตกยกเลิกการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน
ทั้งนี้ อิหร่านและกลุ่มประเทศ P5+1 ซึ่งประกอบด้วย สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส จีน รัสเซีย และเยอรมนี ได้กลับสู่โต๊ะเจรจาแล้ว โดยทุกฝ่ายคาดหวังที่จะบรรลุข้อตกลงก่อนกำหนดเส้นตายในวันที่ 30 มิ.ย.
