xs
xsm
sm
md
lg

In Pics : นักท่องเที่ยวผู้ดีเกือบ 20,000 ต้องติดอยู่ในชาร์ม เอล-ชีค ต่ออีก 10 วัน หลังปูตินต่อสายตรงคุยผู้นำอียิปต์ “ให้เคลียร์นักท่องเที่ยวรัสเซียบินออกก่อน”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ – หลังจากเกิดเหตุเมโทรเจ็ตรัสเซีย A-321 ตกบนคาบสมุทรไซนายเหนือ ทำให้ประเทศต่างๆทยอยประกาศระงับการบินโดยสารไปและกลับอียิปต์ ล่าสุดในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลอังกฤษของนายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน สามารถอพยพนักท่องเที่ยวพลเมืองอังกฤษได้แค่ 1,500 คน จากทั้งหมดราว 20,000 คน ที่อาจต้องติดค้างอยู่ที่สนามบินแห่งนี้ต่ออีกร่วม 10 วัน หลังจากประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ต่อสายตรงกับประธานาธิบดีอียิปต์ อับเดล ฟัตตาห์ เอล-ซิซี ขอให้นักท่องเที่ยวรัสเซียสามารถบินออกอียิปต์ได้ก่อน

เดลีเมล สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้(8)ว่า นักท่องเที่ยวอังกฤษเกือบ 20,000 คนอาจต้องรอนานร่วม 10 วันจึงจะสามารถได้รับอนุญาตบินออกจากอียิปต์กลับอังกฤษได้ หลังจากที่มีรายงานว่า ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ต่อสายตรงกับประธานาธิบดีอียิปต์ อับเดล ฟัตตาห์ เอล-ซิซี ขอให้นักท่องเที่ยวรัสเซียสามารถบินออกอียิปต์ได้ก่อน ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้ผู้โดยสารผู้ดีที่ยังคงตกค้างที่สนามบินแห่งนี้

ซึ่งเที่ยวบินฉุกเฉินอพยพกลับของรัฐบาลนายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอนไม่สามารถนำเครื่องมาลงจอดเพื่อรับพลเมืองอังกฤษ และกัปตันเครื่องบินต้องหันหัวกลับ ซึ่งรวมไปถึงเครื่องบินเปล่าของสายการบินโลว์คอสต์ อีซีเจ็ต มากถึง 11 ลำต้องจอดรอที่ท่าอากาศยานลาร์นาคา( Larnaca) ไซปรัส หลังจากที่เจ้าหน้าที่อียิปต์ระบุ อนุญาตจำกัดเฉพาะเครื่องบินจำนวนหนึ่งสามารถลงจอดได้ในท่าอากาศยานชาร์ม เอล-ชีค ในแต่ละวัน

โดยเดลีเทเลกราฟ สื่ออังกฤษ รายงานในวันอาทิตย์(8)ช่วงค่ำว่า ในระยะเวลาสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวอังกฤษจำนวน 1,500 คน จากทั้งหมด 20,000 คน สามารถขึ้นเครื่องบิยเที่ยวฉุกเฉินบินกลับประเทศได้เท่านั้น

โดยโฆษกประจำถนนดาวนิงได้แถลงว่า รัฐบาลอังกฤษประสานงานร่วมกับเจ้าหน้าที่อียิปต์ รวมไปไปถึงสายการบินสัญชาติอังกฤษ และบริษัททัวร์ต่างๆเพื่อสามารถนำพลเมืองอังกฤษกลับคืนสู่มาตุภูมิได้สำเร็จ แต่อย่างไรก็ตามรัฐบาลอังกฤษได้ประกาศคำแนะนำไปยังนักท่องเที่ยวซึ่งยังคงติดค้างอยู่ที่นั่น ขอให้ขยายระยะเวลาการเข้าพักในรีสอร์ตและโรงแรมออกไป

เดลีเมลกล่าวต่อว่า ในขณะที่ผู้โดยสารชาวอังกฤษจำนวน 1,500 คนสามารถบินออกนอกชาร์ม เอล-ชีคได้เมื่อเทียบกับผู้โดยสารรัสเซียจำนวนสูงถึง 6,000 คนได้รับอนุญาตให้ขึ้นเครื่องบินกลับรัสเซียในช่วงเวลาเดียวกันในสุดสัปดาห์

หรือนับตั้งแต่วันศุกร์(6)ล่าสุด นักท่องเที่ยวอังกฤษถูกอพยพกลับได้จำนวนราว 5,000 คน เมื่อเทียบกับจำนวนของผู้โดยสารรัสเซียจากการให้สัมภาษณ์ของผู้ช่วยนายกรัฐมนตรีรัสเซีย อาร์คาดี ดวอร์โควิช (Arkady Dvorkovich)ที่แถลงว่าสามารถอพยพชาวรัสเซียจำนวน 11,000 คนออกจากชาร์ม เอล-ชีค และฮูร์กาดาHurgadaในวันอาทิตย์(8)ได้ภายใน 24 ชม.

สื่ออังกฤษระบุว่า ถึงแม้ว่าเอกอัคราชทูตอังกฤษประจำอียิปต์ จอห์น แคสสัน(John Casson)วัย 44 ปีจะยืนยันว่า ข้อตกลงระหว่างรัสเซียและอียิปต์ไม่ส่งผลกระทบต่อจำนวนเครื่องบินอังกฤษที่ลงจอดในชาร์ม เอล-ชีค แต่เดลีเมลชี้ว่า ดูเหมือนว่าทางอียิปต์จะจำกัดจำนวนเครื่องบินอพยพสัญชาติอังกฤษลงจอดในสนามบินทะเลแดงนี้ แต่มาตรการนี้ไม่ได้ถูกใช้กับเครื่องบินสัญชาติรัสเซีย โดยมีรายละเอียดเปิดเผยว่าทางอังกฤษได้รับอนุญาตให้เครื่องบินจำนวนแค่ 8 เที่ยวต่อวันเท่านั้นเมื่อเทียบกับตารางการอพยพของรัสเซียที่แน่นขนัด

โดยดวอร์โควิชออกแถลงการณ์ในช่วงสุดสัปดาห์ว่า ทางรัสเซียได้รับความช่วยเหลืออย่างเต็มที่จากอียิปต์ ซึ่งทำให้เครื่องบินสัญชาติรัสเซียจำนวน 93 ลำสามารถนำพลเมืองรัสเซียบินออกนอกประเทศได้ภายใน 2 วันข้างหน้า

และมีรายงานว่า เมื่อวานนี้(7)มีเครื่องบินสัญชาติอังกฤษจำนวน 8 ลำ บินออกมาจากท่าอากาศยานชาร์ม เอล-ชีค ในขณะที่เครื่องบินสัญชาติรัสเซียจำนวนมากไม่ต่ำกว่า 20 ลำสามารถบินออกมาได้ เมื่อเปรียบเทียบกับวันที่ 30 ตุลาคม 2015 หรือ 1 วันก่อนเครื่องบินโดยสารเมโทรเจ็ตจะตก เที่ยวบินจำนวน 9 เที่ยวออกจากท่าอากาศยาน ชาร์ม เอล-ชีค ไปยังกรุงลอนดอน และมีเพียงเที่ยวบินแค่ 3 เที่ยวเท่านั้นที่ออกจากท่าอากาศยานแห่งนี้กลับไปกรุงมอสโก และในวันที่ 3 ตุลาคม 2015 มีเที่ยวบินจำนวน 13 เที่ยวบินกลับไปอังกฤษ เมื่อเปรียบเทียบกับเที่ยวบินจำนวน 2 เที่ยวบินกลับรัสเซีย

เดลีเมลรายงานเพิ่มเติมต่อว่า จากการที่ปูตินสามารถได้ข้อตกลงพิเศษกับอียิปต์ ทำให้การดำเนินการที่เทอร์มินอลผู้โดยสารขาออกในวันเสาร์(7)ของท่าอากาศยานชาร์ม เอล-ชีคนั้นต้องเกิดการล่าช้าไปถึง 5 ชั่วโมง ซึ่งหนึ่งในนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่ติดค้างอยู่ที่ท่าอากาศยานแห่งนี้ได้ทวีตข้อความระบายความรู้สึกหงุดหงิดว่า “ได้เห็นภาพเครื่องบินสัญชาติรัสเซียจำนวนราว 20-30 เครื่องบินขึ้นและลงตลอดช่วงบ่าย แต่ทำไมคนพวกนี้ถึงบินออกได้ แต่รัฐบาลอังกฤษกลับไม่สามารถทำได้ และไม่ดูเหมือนว่าจะลงมือด้วยซ้ำ”

และที่แย่มากไปกว่านั้น มีผู้โดยสารชาวอังกฤษบางคนต้องพลาดเที่ยวบินของตนเอง และยังคงติดอยู่ที่สนามบินชาร์ม เอล-ชีคแห่งนี้

ไบรอัน เดนเนไฮ (Brian Dennehy) ผู้โดยสารชาวอังกฤษวัย 57 ปี และฟิโอนา เดนเนไฮ (Fiona Dennehy) คู่สมรสวัย 51 ปี ได้รับการแจ้งว่า คนทั้งคู่เดินทางมาช้าไปเพราะเที่ยวบินของสายการบินบริติชแอร์เวย์จากชาร์ม เอล-ชีคไปยังท่าอากาศยานแกตวิค(Gatwick)ได้ออกไปแล้ว เมื่อคนทั้งคู่สามารถหลุดไปถึงจุดตรวจหนังสือเดินทางได้สำเร็จ โดยฝ่ายสามีได้เปิดใจว่า “มีนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียจำนวนมหาศาลยืนอยู่ข้างหน้าเราสองคนเต็มไปหมด” และยังเผยต่อว่า “และผมได้เห็นมีการชกต่อยเกิดขึ้นใกล้จุดตรวจหนังสือเดินทาง และจากเสียงตะโกนนั้น บอกให้รู้ว่าเป็นชาวรัสเซีย โดยคนเหล่านั้นตะลุมบอนในขณะที่เด็กตัวเล็กๆร้องไห้ เป็นภาพที่น่าหดหู่มาก”

และนอกจากนี้ เดลีเมลยังพบว่า ผู้โดยสารอังกฤษบางคนถึงขั้นไม่ยอมที่จะขึ้นรถบัสซึ่งถูกจัดเตรียมเพื่อไปยังสนามบิน ชาร์ม เอล-ชีค ที่แน่นขนัด

เดลีเมลรายงานยังเพิ่มเติมว่า พบว่าผู้โดยสารชาวอังกฤษที่เดินทางด้วยสายการบินโลว์คอสต์ โมนาร์ช ต้องหัวเสียกับสภาพที่พักรีสอร์ต Continental Plaza Beach ในชาร์ม เอล-ชีค ที่ทางสายการบินอังกฤษจัดให้ในระหว่างรอเที่ยวบินกลับ

โดยคนเหล่านั้นเปิดเผยว่า กลัวในการเข้าพักที่รีสอร์ตแห่งนี้ และไม่กล้าจะรับประทานอะไรทั้งสิ้นเพราะเกรงจะติดโรค ซึ่งภายในห้องอาหาร พบภาพพื้นสกปรก และเกลื่อนไปด้วยขยะ เก้าอี้และโต๊ะเปื้อนเป็นคราบ และเต็มไปด้วยแมลงวัน

ลินด์เซย์ สมิธ (Lindsey Smith) นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษวัย 30 ที่กำลังตั้งครรภ์ได้ 30 สัปดาห์ ถูกพามาที่รีสอร์ตแห่งนี้พร้อม เมแกน บุตรสาววัย 10 ปี และสามี โรเบิร์ต สมิธ (Robert Smith) หลังจากเที่ยวบินถูกยกเลิก

โดยสมิธที่กำลังตั้งครรภ์เปิดเผยว่า “เป็นที่พักที่สกปรกมาก แมลงวันตอมอาหารในห้องอาหารของโรงแรม และทุกๆที่ของโรงแรมล้วนบอกให้รู้ว่า สมควรที่จะได้รับการทำความสะอาดครั้งใหญ่” และเธอยังกล่าวต่อว่า “พนักงานต้อนรับคนหนึ่งของโรงแรมได้เตือนดิฉัน เพราะเห็นกำลังตั้งท้อง ว่า ไม่ควรที่จะรับประทานอาหารที่นี่ และเชฟพ่อครัวยังไม่ได้รับการฝึกฝนอีกด้วย”

สมิธให้ข้อมูลต่อว่า “ในวันศุกร์ ทุกคนสั่งอาหารมาจากแม็คโดนัลด์ เพราะคิดว่าปลอดภัยสุดแล้ว”





ท่าอากาศยานชาร์ม เอล-ชีค
ท่าอากาศยานชาร์ม เอล-ชีค


ลินด์เซย์ สมิธ (Lindsey Smith) นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษวัย 30 ที่กำลังตั้งครรภ์ได้ 30 สัปดาห์ ถูกพามาที่รีสอร์ตแห่งนี้พร้อม เมแกน บุตรสาววัย 10 ปี และสามี โรเบิร์ต สมิธ (Robert  Smith) หลังจากเที่ยวบินถูกยกเลิก
สภาพที่พักรีสอร์ต Continental Plaza Beach ในชาร์ม เอล-ชีค ที่ทางสายการบินโลว์คอสต์ โมนาร์ช จัดหาให้ผู้โดยสาร
สภาพที่พักรีสอร์ต Continental Plaza Beach ในชาร์ม เอล-ชีค ที่ทางสายการบินโลว์คอสต์ โมนาร์ช จัดหาให้ผู้โดยสาร
กำลังโหลดความคิดเห็น