อังกฤษ-อียิปต์ปฏิเสธข่าวเดลีเมล์ ยันไม่มีจรวดล็อกเป้าเครื่องบินผู้ดี

เอเจนซีส์ - อังกฤษและอียิปต์ปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่าเมื่อสองเดือนก่อนสายการบินแดนผู้ดีหลบขีปนาวุธหวุดหวิดในบริเวณเดียวกับที่เครื่องบินของรัสเซียตก ชี้อาจเป็นเพียงระเบิดสัญญาณจากการซ้อมรบภาคพื้นดินของกองทัพไคไร ขณะเดียวกัน แดนไอยคุปต์ยังปฏิเสธข่าวลือที่ว่าเครื่องบินแดนหมีขาวตกเพราะถูกวางระเบิด โดยยืนยันว่ายังอยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (7) โฆษกกระทรวงคมนาคมอังกฤษแถลงว่า ได้สอบสวนเหตุการณ์ที่หนังสือพิมพ์เดลีเมล์รายงาน และสรุปได้ว่า ไม่มีการโจมตีเกิดขึ้นและมีแนวโน้มเชื่อมโยงกับการซ้อมรบของกองทัพอียิปต์ในบริเวณใกล้เคียงมากกว่า

เรื่องมาจากการที่หนังสือพิมพ์ชื่อดังเมืองผู้ดีรายงานเมื่อวันเสาร์ว่า เครื่องบินของสายการบิน ทอมป์สัน แอร์เวย์ของอังกฤษ ที่ออกเดินทางจากลอนดอนเมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา พร้อมผู้โดยสาร 189 คน ถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธ แต่นักบินสามารถหักหลบได้ฉิวเฉียดเพียง 300 เมตร ขณะบินเหนือชาร์ม เอล-ชีค เมืองตากอากาศในทะเลแดงของอียิปต์ และนำเครื่องลงจอดอย่างปลอดภัยในสนามบินเมืองดังกล่าว

ขณะเดียวกัน โฆษกทียูไอ กรุ๊ป เจ้าของทอมป์สัน แอร์เวย์ส ขานรับว่า สิ่งที่ใครก็ตามคิดว่า เป็นขีปนาวุธ แท้จริงแล้วอาจเป็นเพียงระเบิดสัญญาณ

ทางด้านโฆษกกระทรวงต่างประเทศอียิปต์วิจารณ์ว่า รายงานของเดลีเมล์ “ไร้สาระ” และบอกว่า ตามวันเวลาในรายงาน กองทัพอียิปต์กำลังซ้อมรบภาคพื้นดินในฐานทัพที่ห่างจากสนามบินชาร์มเพียงไม่กี่กิโลเมตร และสำทับว่า ได้แจ้งให้สายการบินทราบล่วงหน้าเรื่องการซ้อมรบ

เรื่องราวนี้ถูกขุดคุ้ยขึ้นมาอีกครั้งเนื่องจากเมื่อกว่าสัปดาห์ที่แล้ว สายการบินของรัสเซียระเบิดกลางอากาศเหนือคาบสมุทรไซนายของอียิปต์ พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 224 คน และจนวันนี้ยังไม่ล่วงรู้ถึงสาเหตุ

ไอมาน เอล-ม็อกคาเดม ประธานคณะกรรมการสอบสวนทางเทคนิคของอียิปต์แถลงเมื่อวันเสาร์ว่า ข้อสังเกตเบื้องต้นจากเครื่องบันทึกเสียงในห้องนักบินบนเครื่องแอร์บัส เอ-321 ของสายการบินโคกาลีมาเวียของรัสเซีย ยังไม่มากพอสรุปได้ถึงสาเหตุของการที่เครื่องบินระเบิดหลังออกจากสนามบินชาร์มได้เพียง 23 นาที 14 วินาที

เขาเสริมว่า ได้ยินเสียงดังมากในช่วงวินาทีสุดท้าย และจะส่งเครื่องบันทึกเสียงให้ห้องปฏิบัติการพิเศษทำการวิเคราะห์สเปกตรัมเพื่อระบุที่มาของเสียงดังกล่าว

อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวในฝรั่งเศสที่ใกล้ชิดกับการสอบสวนเผยว่า ข้อมูลในกล่องดำบ่งชี้ว่า เครื่องบินระเบิด

ขณะที่นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอนของอังกฤษระบุว่า มีความเป็นไปได้มากกว่าเป็นไปไม่ได้ว่า ระเบิดเป็นสาเหตุของเครื่องบินตก

อนึ่ง ช่วงเช้าวันเสาร์ รัฐมนตรีต่างประเทศอียิปต์ ซาเมห์ ชูกรี แถลงว่า การสอบสวนยังไม่ได้ปักใจในทฤษฎีที่แน่นอนใดๆ และว่า หน่วยข่าวกรองต่างชาติที่กระตุ้นให้มีการจำกัดการเดินทางสู่อียิปต์ ไม่ยอมแบ่งปันข้อมูลกับไคโร

การท่องเที่ยวของอียิปต์ที่มีอาการสาหัสจากวิกฤตการเมืองภายในประเทศเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากความกังวลว่า ระเบิดอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินของรัสเซียตกเมื่อวันที่ 31 เดือนที่ผ่านมา

วันศุกร์ (6) รัสเซียระงับเที่ยวบินทั้งหมดที่ไปยังอียิปต์ ขณะที่อังกฤษระงับเที่ยวบินที่ไปชาร์ม แต่ส่งเครื่องบินเปล่าไปรับพลเมืองกลับประเทศ

วันอาทิตย์ (8) สำนักข่าวอาร์ไอเอรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของรองนายกรัฐมนตรีอาร์คาดี ดวอร์โควิชของรัสเซียว่า รัฐบาลสามารถนำนักท่องเที่ยวกลับจากอียิปต์ 11,000 คนในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และยังคงดำเนินการเพื่อนำนักท่องเที่ยวกลับบ้านอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ คาดว่า มีชาวรัสเซียตกค้างอยู่ในอียิปต์ราว 80,000 คน หลังจากเครมลินระงับเที่ยวบินทั้งหมดเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว รวมถึงเดินรอยตามอังกฤษในการกำหนดให้นักท่องเที่ยวขึ้นเครื่องกลับบ้านตัวเปล่า สำหรับกระเป๋าเดินทางจะขนกลับแยกต่างหาก

สำหรับอังกฤษนั้น เครื่องบิน 11 ลำที่จอดเตรียมพร้อมที่ไซปรัสเมื่อเช้าวันเสาร์ ล่าสุดเหลือเพียง 3 ลำที่คาดว่า จะออกเดินทางในวันอาทิตย์เพื่อไปรับนักท่องเที่ยวจากอียิปต์ โดยมี 6 ลำต้องบินกลับอังกฤษเครื่องเปล่า

มาตรการของอังกฤษและรัสเซียส่งผลให้อียิปต์ต้องจำกัดจำนวนเที่ยวบินที่จะนำนักท่องเที่ยวกลับประเทศ เนื่องจากมีกระเป๋าเดินทางถูกทิ้งไว้เกินศักยภาพที่สนามบินจะรองรับได้

รัฐบาลอังกฤษเตือนนักท่องเที่ยวบางส่วนว่า อาจต้องอยู่ในอียิปต์อีกระยะ ระหว่างรอขึ้นเครื่องกลับประเทศ โดยคาดว่า ยังมีชาวเมืองผู้ดีอยู่ในชาร์มราว 19,000 คน

ขณะเดียวกัน ดมิทรี เพสคอฟ โฆษกเครมลินเผยว่า การตัดสินใจจำกัดเที่ยวบินไม่ได้หมายความว่า มอสโกเชื่อว่า เครื่องบินของโคกาลีมาเวียถูกโจมตี ขณะที่ผู้รับผิดชอบการสอบสวนของกระทรวงเหตุการณ์ฉุกเฉินระบุว่า ผู้เชี่ยวชาญรัสเซียกำลังทดสอบหาร่องรอยระเบิดจากตัวอย่างเครื่องบิน

ที่วอชิงตัน ประธานาธิบดีบารัค โอบามา กล่าวว่า อเมริกากำลังพิจารณาความเป็นไปได้ที่มีการซุกซ่อนระเบิดบนเครื่องบินของรัสเซีย “อย่างจริงจัง” และเจห์ จอห์นสัน รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิเผยว่า อาจทำการตรวจสอบเที่ยวบินจากตะวันออกกลางเคร่งครัดขึ้น