xs
xsm
sm
md
lg

มอสโกติงอังกฤษหยุดบิน-สั่งอพยพคน 2 หมื่น เชื่อนกเหล็กรัสเซียถูกบอมบ์ที่อียิปต์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ซากของเครื่องแอร์บัส 321 ของสายการบิน “โคกาลีมาเวีย” หรือ “เมโทรเจ็ต” ของรัสเซีย ที่โหม่งโลกพร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 224 ชีวิต แถบคาบสมุทรไซนายของอียิปต์เมื่อวันเสาร์ (30 ต.ค.)
เอเจนซีส์ - รัสเซียและอียิปต์ออกมาติติงในวันพฤหัสบดี (5 พ.ย.) ว่าอย่ารีบคาดเดาด่วนสรุป หลังเจ้าหน้าที่อเมริกันและอังกฤษระบุ เชื่อว่าเครื่องบินของสายการบินแดนหมีขาวซึ่งทะยานขึ้นจากเมืองชาร์ม-เอล ชีค เมืองตากอากาศในทะเลแดงของแดนไอยคุปต์ แล้วแตกเป็นเสี่ยงๆ กลางอากาศเหนือคาบสมุทรไซนายในวันเสาร์ (30 ต.ค.) ที่ผ่านมานั้น ถูกผู้ก่อการร้ายลอบวางระเบิด อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ของอังกฤษไม่ฟังเสียง เดินหน้าเรียกประชุมคณะรัฐมนตรีฉุกเฉิน ระงับเที่ยวบินที่ไปและออกจากเมืองนี้ รวมทั้ง วางแผนอพยพขนย้ายพลเมืองหลายหมื่นคนซึ่งกำลังพักผ่อนท่องเที่ยวอยู่ในบริเวณแถบนี้

สำนักข่าวหลายแห่งเช่น เอเอฟพี อ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่อเมริกันเมื่อวันพุธ (4) ว่า มีความเป็นไปได้สูงว่า ระเบิดเป็นสาเหตุที่ทำให้เครื่องแอร์บัส 321 ของสายการบิน “โคกาลีมาเวีย” หรือ “เมโทรเจ็ต” ของรัสเซีย โหม่งโลกพร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 224 ชีวิต ซึ่งหากเรื่องนี้ได้รับการยืนยัน จะถือเป็นครั้งแรกที่กลุ่มก่อการร้ายนี้โจมตีเครื่องบินโดยสาร

เจ้าหน้าที่อเมริกันอ้างว่า ได้เบาะแสจากการดักฟังการสื่อสารซึ่งสรุปว่า กลุ่มก่อการร้ายในคาบสมุทรไซนายซึ่งประกาศจงรักภักดีต่อ “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) แอบซ่อนระเบิดไว้ในเครื่องบินลำดังกล่าว และยังบอกอีกว่า การวิเคราะห์ข้อมูลที่ดักฟังได้ทำให้เชื่อว่า ปฏิบัติการนี้ทางกลุ่มนักรบอิสลามิสต์ในไซนายเป็นผู้ลงมือดำเนินการอย่างอิสระ ไม่ใช่มาจากคำสั่งของผู้นำไอเอสในซีเรีย

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่อเมริกันที่ให้ข่าวรวมถึงเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ เสริมว่า ยังไม่มีการระบุอย่างเป็นทางการจากสำนักข่าวกรองกลางของสหรัฐฯ (ซีไอเอ) หรือหน่วยข่าวกรองอื่นๆ อีกทั้งยังต้องทำการวิเคราะห์หลักฐานจากที่เกิดเหตุ ซึ่งรวมถึงกล่องดำ นอกจากนั้น ยังเป็นไปได้ว่า อาจมีการตีความการสื่อสารที่ดักฟังได้อย่างผิดพลาด และสุดท้ายหลักฐานทั้งหมดอาจได้ข้อสรุปว่า เครื่องบินไม่ได้ถูกโจมตีด้วยระเบิด

ทางด้านสำนักนายกรัฐมนตรีอังกฤษแถลงในวันเดียวกันว่า จากข้อมูลที่ค่อยๆ กระจ่างขึ้น อังกฤษจึงกังวลมากขึ้นว่า เครื่องบินพาณิชย์ของรัสเซียลำดังกล่าวถูกโจมตีด้วยระเบิด และผู้นำอังกฤษและอียิปต์เห็นพ้องถึงความจำเป็นในการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยสนามบินชาร์ม เอล-ชีค โดยอังกฤษได้ส่งผู้เชี่ยวชาญไปประเมินความปลอดภัยในสนามบินดังกล่าวแล้ว

ด้านฟิลิป แฮมมอนด์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษแถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีฉุกเฉินที่มีนายกรัฐมนตรีคาเมรอนเป็นประธาน ว่า ขอแนะนำว่าถ้าไม่จำเป็นอย่าเดินทางโดยทางอากาศผ่านสนามบินชาร์ม เอล-ชีค ซึ่งนี่หมายความว่าตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจะไม่มีเที่ยวบินโดยสารของอังกฤษออกจากเมืองรีสอร์ตดังกล่าว โดยที่รัฐบาลกำลังวางมาตรการฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือนักท่องเที่ยวอังกฤษซึ่งอยู่ในบริเวณชาร์ม เอล-ชีคในเวลานี้ให้กลับบ้านได้ ประมาณว่าชาวอังกฤษเหล่านี้มีอยู่ราว 20,000 คน

ความเคลื่อนไหวเหล่านี้มีขึ้นขณะที่ประธานาธิบดีอับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซิซีของอียิปต์ เตรียมหารือกับคาเมรอนในวันพฤหัสบดี (5) ระหว่างการเยือนอังกฤษครั้งแรกนับจากนำกองทัพโค่นล้มโมฮัมเหม็ด มอร์ซี ประธานาธิบดีอียิปต์คนก่อนหน้า

ทางด้านมอสโกและไคโรต่างแสดงความไม่เชื่อถือข้อมูลเหล่านี้ รัฐมนตรีการบินพลเรือนของอียิปต์ ฮัสซัม คามาล ได้ออกมาแถลงในวันพุธ (4) ว่า เวลานี้เจ้าหน้าที่สอบสวนยังไม่มีหลักฐานหรือข้อมูลใดๆ ซึ่งยืนยัน “ทฤษฎี” ว่ามีการลอบวางระเบิดบนเครื่องบินดังกล่าว

ขณะที่ ดมิตริ เปสคอฟ โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย (วังเครมลิน) ก็กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุผลความเป็นไปของสิ่งที่เกิดขึ้นคราวนี้ ควรจะต้องมีผลการสอบสวนออกมาเสียก่อนจึงจะสามารถบอกได้ ดังนั้นการเสนอคำอธิบายอื่นๆ อย่างที่ได้มีการพูดกันออกมา จึงน่าจะเป็นเพียงข้อมูลข่าวสารที่ยังไม่ได้รับการตรวจสอบยืนยัน หรือต้องจัดให้อยู่ในประเภทว่าเป็นข่าวลือ

สำหรับกลุ่มไอเอสซึ่งออกมาประกาศว่าเป็นผู้รับผิดชอบระเบิดเครื่องบินโดยสารรัสเซียลำนี้ ตั้งแต่ตอนที่เกิดเหตุใหม่ๆ เมื่อวันพุธ (4) ได้ออกคลิปเสียงยืนยันอีกรอบหนึ่ง พร้อมท้าทายพวกที่ไม่เชื่อให้หาหลักฐานมาหักล้าง และสำทับว่า จะเปิดเผยรายละเอียดการโจมตีเพิ่มเติมเมื่อใดก็ตามที่กลุ่มเห็นว่าเหมาะสม

ทางการอียิปต์นั้นมีความพยายามอย่างเห็นได้ชัดว่ามุ่งลดน้ำหนักกระแสความเป็นไปได้ที่ว่า มีการโจมตีเครื่องบินด้วยระเบิด และย้ำความจำเป็นในการรอผลการสอบสวนของทีมสอบสวนนานาชาติ ทั้งนี้เป็นความพยายามเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอียิปต์ที่ยังไม่ฟื้นคืนดี ภายหลังได้รับผลกระทบหนักจากวิกฤตการเมืองภายในประเทศ

เจ้าหน้าที่อียิปต์เผยว่า ทีมสอบสวนสามารถดึงข้อมูลจากกล่องดำกล่องหนึ่งของเครื่องบินออกมาวิเคราะห์แล้ว ทว่า กล่องดำอีกกล่องที่เป็นบันทึกเสียงภายในห้องนักบินนั้น ปรากฏว่าได้รับความเสียหาย และอาจต้องใช้เวลานานมากขึ้นในการคัดลอกข้อมูลออกมา