เอเจนซีส์ – เป็นเรื่องที่ยังน่าสงสัยสำหรับปฎิบัติการต่อต้านก่อการร้าย IS ในซีเรีย เมื่อล่าสุดมีรายงานว่า เพนตากอนตัดสินส่งฝูงบินรบ F-15 ที่มีระบบมิสไซล์ต่อสู้แบบอากาศสู่อากาศไปยังซีเรีย เพื่อปราบก่อการร้าย IS ที่ไม่มีเครื่องบินรบเป็นของตัวเอง ทำให้เดลีบิสต์ สื่อการเมืองอเมริกาชี้ว่า เป็นไปได้อย่างเดียว คือสัญญาณอันตรายเหนือท้องฟ้าซีเรียที่ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ต้องเผชิญรับอย่างไม่ต้องสงสัย
เดลีบีสต์ สื่อการเมืองสหรัฐฯ รายงานในวันอังคาร(3)ว่า ฝูงเครื่องบินรบขับไล่ถูกส่งไปประจำการยังฐานทัพอากาศตุรกี 12 ลำ ซึ่งเครื่องบินขับไล่เหล่านี้มีศักยภาพพิเศษในภารกิจต่อสู้เครื่องบินรบข้าศึกกลางอากาศ จึงเป็นที่เข้าใจได้ว่า ฝูงบินรบพิเศษนี้มีหน้าที่เพื่อปกป้องกองกำลังฝูงเครื่องบินสหรัฐฯอื่น และรวมไปถึงของพันธมิตรในน่านฟ้าซีเรีย จากกองกำลังทางอากาศของรัสเซีย
ซึ่งในการส่งฝูงเครื่องบินขับไล่รุ่น F-15C อีเกิล ระบบเครื่องยนต์คู่ไปยังฐานทัพอากาศอินซีร์ลิก ( Incirlik) ตุรกีในวันอังคาร(3) ตามการแถลงของเพนตากอนก่อนหน้านี้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับคำชี้แจงเพิ่มเติมจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯว่า “เป็นการรับประกันความปลอดภัยให้กับพันธมิตรนาโตของสหรัฐฯ ”ลอรา ซีล ( Laura Seal) โฆษกเพนตากอนให้สัมภาษณ์กับเดลีบีสต์
เดลีบีสต์ได้วิเคราะห์ หากเป็นเช่นนั้นแล้ว ฝูงเครื่องบินรบขับไล่ F-15C ที่มีนักบินขับเพียงคนเดียว และติดขีปนาวุธต่อสู้แบบอากาศสู่อากาศ 8 ลูก จะช่วยคุ้มครองการลาดตระเวนทางอากาศของกองทัพอากาศตุรกีตลอดแนวพรมแดนด้านติดซีเรีย และพร้อมที่จะสะกัดเครื่องบินรบและเฮลิคอปเตอร์ซีเรียที่บังเอิญล่วงล้ำเข้าไปในดินแดนตุรกี
แต่ทว่า ความเป็นไปได้มากที่สุดคือ F-15C เหล่านี้จะทำหน้าที่อารักขาเครื่องบินทิ้งระเบิดสหรัฐฯในขณะที่ออกปฎิบัติการโจมตีกลุ่มก่อการร้าย IS ทางอากาศ ซึ่งใกล้กับการปฎิบัติการโจมตี IS ทางอากาศของกองกำลังรัสเซีย และกองกำลังของประธานาธิบดีซีเรีย บาชาร์ อัล-อัสซาด เหนือน่านฟ้าซีเรีย ที่ได้เริ่มมาตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ในขณะที่สหรัฐฯได้หนุนกองกำลังกบฎซีเรียทางภาคพื้น
อย่างไรก็ตามถึงแม้โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯจะไม่เปิดเผยในรายละเอียดถึงคำสั่งส่งฝูงเครื่องบินขับไล่ F-15C แต่ทว่า ซีลได้กล่าวว่า “ไม่ได้บอกว่าการส่งไปครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับรัสเซีย”
เดลีบีสต์รายงานว่า เป็นที่รู้กันว่าฝูงเครื่องบินรบในซีเรียตะวันตกที่ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูตินส่งไปนั้นรวมไปถึง เครื่องบินขับไล่ Su-30 ที่มีหน้าที่ในการโจมตีอากาศสู่อากาศ ซึ่งการส่งฝูงบินรบ Su-30 ของปูติน ทำให้หลายฝ่ายถึงกับต้องแปลกใจเพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า “กลุ่มติดอาวุธ IS ไม่มีหน่วยกองกำลังรบทางอากาศที่จะไปสู้กับเครื่องบินขับไล่ Su-30 ได้ ”
สื่อสหรัฐฯชี้ว่า ฝูงรบ F-15C ที่ถูกส่งไปยังตุรกีนี้จะถือเป็นฝูงบินรบของกองทัพสหรัฐฯฝูงแรกที่มีความสามารถเฉพาะในการต่อสู้แบบอากาศสู่อากาศ ซึ่งก่อนหน้านั้นเครื่องบินรบอื่นๆที่เพนตากอนได้ส่งไป เป็นเครื่องบินโจมตี เครื่องบินทิ้งระเบิด ซึ่งรวมไปถึง F-22s F-16s A-10s และ B-1s โดยทั้งหมดติดอาวุธมิสไซล์แบบอากาศสู่ภาคพื้น และมีเป้าหมายโจมตีกองกำลังติดอาวุธบนภาคพื้นเท่านั้น
นอกจากนี้ เดลีบีสต์ยังรายงานเพิ่มเติมว่า ในทางตรงข้าม เครื่องบินรบ F-15C นั้นมีศักยภาพในการสู้ทางอากาศที่เรียกว่า “ด็อกไฟต์” เหมือนเช่นในภาพยนตร์ฮอลิวูด ท็อบกัน และเครื่องบินขับไล่รุ่นนี้ติดตั้งขีปนาวุธแบบอากาศสู่อากาศ และนักบินขับไล่ของ F-15C นั้นฝึกให้ยิงเครื่องบินรบศัตรูเท่านั้น ซึ่งสื่อสหรัฐฯชี้ว่า ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะส่งฝูงบินรบขับไล่ F-15C ไปอัฟกานิสถาน และอิรัก แต่ในซีเรียที่มีรัสเซียอยู่นั้นต่างออกไป
เดลีบีสต์รายงานเพิ่มเติมว่า มีการคาดการณ์ว่า ยุทธวิธีรบแบบ“ด็อกไฟต์” อาจเกิดขึ้นในน่านฟ้าซีเรีย
และถึงแม้สหรัฐฯจะมีเครื่องบินรบประจำอยู่ในจอร์แดน คูเวต และสหรัฐฯอาหรับอเมริเรตส์ รวมไปถึงเครื่องบินรบประจำกองเรือรบสหรัฐฯ แต่ทว่ากองทัพอากาศสหรัฐฯยังได้ได้ออกคำสั่งเพิ่มเติม ส่งเครื่องบินรบโจมตี A-10 เครื่องบินกู้ภัย และเฮลิคอปเตอร์กู้ภัย ออกไปยังฐานทัพอากาศอินซีร์ลิก และทำให้ฐานทัพอากาศในตุรกีแห่งนี้ได้กลายเป็นจุดยุทธศาสตร์แห่งใหม่ทางเหนือในการต่อต้านก่อการร้าย IS
ซึ่งแหล่งข่าวความมั่นคงที่ไม่ได้เปิดเผยชื่อให้สัมภาษณ์ในวันที่ 30 ตุลาคม ล่าสุดว่า “หนึ่งในหลักการที่ทางเราจะทำ คือการกดดันบริเวณพรมแดน และเข้าไปในพื้นที่ซีเรียคือ ปฎิบัติการบินทางอากาศถี่ยิบในบริเวณทางเหนือของซีเรีย”
และแหล่งข่าวเพนตากอนยังเผยต่อว่า “ซึ่งหมายความว่าเราต้องการเครื่องบินไล่เป็นจำนวนมาก เราต้องการทรัพยากรทางการข่าวจำนวนมากเพื่อพัฒนาในการเจาะเป้าหมาย และในขณะที่ทำเนียบขาวกำลังออกแถลงส่งฝูงบินรบ A-10 ฝูงบินรบฝูงนี้ได้ไปจอดเทียบท่าในฐานทัพอากาศอินซีร์ลิกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และฝูงบินรบขับไล่ F-15 กำลังจะตามไปที่ฐานทัพตุรกีหลังจากนี้ เพื่อช่วยเหลือในปฎิบัติการต่อต้านก่อการร้าย IS”
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาเพนตากอนยังมาไม่ได้ประกาศที่จะใช้เขตห้ามบินบริเวณทางเหนือซีเรียเพื่อปกป้องพันธมิตรสหรัฐฯส่วนภาคพื้น จากเครื่องบินรบซีเรียและรัสเซีย “มันเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดว่า แนวคิดนี้อยู่ในทุกการสนทนา แต่ทว่าในการแถลงทุกวันนี้ยังไม่เข้าใกล้กับการที่จะไปถึงการมีคำสั่งให้ใช้เขตห้ามบิน” แหล่งข่าวเพนตากอนกล่าว
เดลีบีสต์ชี้ว่า "คำสั่งเขตห้ามบิน" จะบีบบังคับให้เครื่องบินรบขับไล่สหรัฐฯ F-15C และฝูงเครื่องบินรบสหรัฐฯอื่นๆ ต้องเผชิญหน้ากับฝูงเครื่องบินรบรัสเซียอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถึงแม้ตามทฤษฎีแล้ว เครื่องบินรบของทั้งสองชาติมีจุดประสงค์เพื่อขับไล่กลุ่ม IS ก็ตาม ซึ่งที่ผ่านมาทั้งสองชาติต่างพยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากลางอากาศ แต่ทว่าทั้งสหรัฐฯและรัสเซียไม่ได้ร่วมมือในปฎิบัติการขับไล่ IS
