เอเอฟพี - ประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯในวันศุกร์(30ต.ค.) อนุมัติประจำการกองกำลังพิเศษสหรัฐฯในซีเรียเป็นครั้งแรก ผ่อนปรนจุดยืนที่เคยปฏิเสธมานานต่อการส่งกองกำลังทางภาคพื้นเข้าไปยังดินแดนที่ถูกฉีกขาดด้วยสงครามแห่งนี้ ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในขณะที่รัสเซียเดินหน้าถล่มทางอากาศอย่างหนักหน่วง ด้วยอ้างว่าโจมตีก่อการร้ายไปแล้วกว่า 1,600 เป้าหมาย นับตั้งแต่เข้าร่วมสงครามเมื่อ 1 เดือนก่อน
โอบามา ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดโดยตำแหน่ง อนุมัติในเบื้องต้นส่งกองกำลังปฏิบัติการพิเศษมากกว่า 50 นายเล็กน้อย เข้าประจำการทางภาคเหนือของประเทศที่ถูกสงครามฉีกขาด ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่าเป็นการเพิ่มความพยายามในการต่อสู้กับกลุ่มนักรบรัฐอิสลาม(ไอเอส)
"พวกเขาจะช่วยประสานงานกับกองกำลังภาคพื้นท้องถิ่นและช่วยเหลือความพยามตอบโต้ไอเอสของพันธมิตรนานาชาติ" เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลรายหนึ่งเผย ขณะที่รายงานข่าวระบุว่าวอชิงตันจะส่งเครื่องบินโจมตีภาคพื้น A-10 และเครื่องบินขับไล่ F-15 เข้าประจำการที่ฐานทัพอินเซอร์ลิค ทางภาคใต้ของตุรกี ส่วนหนึ่งในการเพิ่มความพยายามกำราบพวกไอเอสด้วย
สมาชิกพันธมิตรนานาชาติ 65 ประเทศที่นำโดยสหรัฐฯ ประกาศจะขับไล่กลุ่มไอเอสพ้นจากพื้นที่ที่พวกเขาบุกยึดครองในซีเรียและอิรัก อย่างไรก็ตามในบางครั้งทางกลุ่มต้องประสบปัญหา โดยทำเนียบขาวอึกอักที่จะยกระดับการมีส่วนร่วมของอเมริกา ขณะที่สมาชิกแต่ละชาติก็มีเป้าหมายแตกต่างกันและมีระดับของการเข้าร่วมไม่เท่ากัน
ในขณะที่พันธมิตรยังคงละล้าละลัง รัสเซียเปิดเผยในวันศุกร์(30ต.ค.) ว่ากองทัพอากาศของพวกเขาได้ทำลายเป้าหมายก่อการร้ายไปแล้ว 1,623 เป้าหมายในซีเรีย ทั้งที่เพิ่งเริ่มปฏิบัติการโจมตีทางอากาศสนับสนุนกองกำลังผู้ภักดีต่อประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ได้ 1 เดือน
"ฝูงบินของเราดำเนินการโจมตีแล้ว 1,391 เที่ยว ทำลายเป้าหมายก่อการร้าย 1,623 เป้าหมาย ในนั้นรวมถึงค่ายฝึกฝน 51 แห่งและโกดังคลังต่างๆ 131 แห่ง" อังเดร คาร์ตาโปลอฟ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าว พร้อมเสริมว่าศูนย์สื่อสารและป้อมบัญชาการ 249 แห่ง โรงงานผลิตคาร์บอมบ์ 35 แห่ง แนวป้องกัน 371 จุด ค่ายสนามและฐาน 786 แห่ง ถูกทำลายแล้วเช่นกัน
รัสเซีย ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศมาตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน ด้วยบอกว่ามีเป้าหมายคือพวกนักรบญิฮัดรัฐอิสลาม แต่ทางสหรัฐฯและพันธมิตร ซึ่งดำเนินการถล่มทางอากาศแยกกัน กล่าวหาว่าเป้าหมายที่แท้จริงของมอสโกคือกลุ่มอื่นๆที่ต่อต้านทั้งไอเอสและนายอัสซาดมากกว่า
กองทัพรัสเซียอ้างว่าการโจมตีของพวกเขาก่อความตื่นตระหนกและทำให้พวกก่อการร้ายจำนวนมากพากันหนีทัพ แต่การจู่โจมทางภาคพื้นของกองทัพซีเรียกลับมีผลลัพธ์ที่ต่างกัน เนื่องจากพวกเขาสูญเสียเมืองหลายแห่งที่เคยบุกยึดคืนได้เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา
การให้ข้อมูลเกี่ยวกับการโจมตีทางอากาศล่าสุด มีขึ้นขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซียหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศอื่นๆจาก 17 ชาติที่เกี่ยวข้องกับวิกฤตความขัดแย้งซีเรีย ในนั้นรวมถึงสหรัฐฯและอิหร่าน ในความพยายามใช้การทูตหาทางคลี่คลายวิกฤต