เอเจนซีส์ / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ – อดีตประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์ แห่งสหรัฐฯ ระบุ สงครามกลางเมืองในซีเรียจะยุติลงได้ผ่านช่องทางทางการทูตเท่านั้น แต่ย้ำ สหรัฐฯต้องเลิกล้มแผนโค่นอำนาจประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ผู้นำซีเรีย โดยใช้กำลังทหาร
อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 39 ในวัย 91 ปี ซึ่งครองอำนาจระหว่างปี ค.ศ. 1977 – 1981 เปิดใจผ่านสื่อดังอย่างนิวยอร์ก ไทม์ส เมื่อวันเสาร์ ( 24 ต.ค.) โดยระบุ การยุติสงครามกลางเมืองในซีเรียที่ปะทุขึ้นตั้งแต่เมื่อเดือนมีนาคมปี 2011 และคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วมากกว่า 250,000 รายนั้น จะต้องกระทำผ่านช่องทางการทูตเท่านั้น
คาร์เตอร์ระบุว่า นอกเหนือจากรัฐบาลซีเรียกับฝ่ายกบฏที่ต้องหันหน้าเข้าหากันบนโต๊ะเจรจาแล้ว อดีตผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่า รัฐบาลรัสเซีย สหรัฐฯ อิหร่าน ตุรกี และซาอุดีอาระเบียซึ่งต่างมีบทบาทในสงครามกลางเมืองซีเรีย ก็ต้องเข้าร่วมการเจรจาสันติภาพด้วยความจริงใจเช่นกัน
อย่างไรก็ดี อดีตผู้นำสหรัฐฯจากพรรคเดโมแครต ซึ่งได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพเมื่อปี 2002 ระบุว่า สันติภาพในซีเรียจะบังเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อรัฐบาลอเมริกันต้องเลิกล้มความตั้งใจในการใช้กำลังโค่นล้มระบอบการปกครองของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดแห่งซีเรีย โดยระบุ การสละอำนาจของอัสซาด หากจะเกิดขึ้น ก็ต้องเป็นไปอย่างสันติ ผ่านช่องทางการเจรจาและกระบวนการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองเท่านั้น
“สหรัฐฯจำเป็นต้องละทิ้งจุดยืนดั้งเดิมของตน ในการโค่นล้มระบอบการปกครองของอัสซาดในซีเรีย เพราะท่าทีดังกล่าวของสหรัฐฯ คือ อุปสรรคสำคัญ ที่ขัดขวางกระบวนการสร้างสันติภาพซีเรียในอนาคต” อดีตประธานาธิบดีคาร์เตอร์ กล่าว
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนพฤษภาคม ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ซึ่งถือเป็นพันธมิตรสำคัญของระบอบอัสซาดได้ออกโรงเรียกร้องให้ทุกฝ่าย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสงครามกลางเมืองซีเรีย ยกเว้นกลุ่มนักรบรัฐอิสลาม (ไอเอส) เข้าร่วมการเจรจาสันติภาพ และยอมรับแผนยุติสงครามกลางเมืองที่เสนอร่วมกันโดยรัสเซีย สหรัฐฯ อิหร่าน ตุรกี และซาอุดีอาระเบีย
ทั้งนี้ ในวันอาทิตย์ ( 25 ต.ค.) อเล็กซานเดอร์ ยุสเชนโก สมาชิกรัฐสภารัสเซีย ออกมาเปิดเผยว่า ประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย มีความตั้งใจที่จะจัดการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาและการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งใหม่ในซีเรีย โดยที่อัสซาดพร้อมที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งตำแหน่งนี้อีกครั้ง หากประชาชนชาวซีเรียส่วนใหญ่ “ไม่คัดค้าน” แต่ย้ำว่า อัสซาดจะยอมเปิดทางให้มีการปฏิรูปทางการเมืองในซีเรียก็ต่อเมื่อประเทศของตนปลอด “ภัยคุกคาม”จากกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) แล้วเท่านั้น
ซีเรียจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งล่าสุดไปเมื่อเดือนมิถุนายนปี 2014 โดยที่อัสซาดได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งต่ออีก 7 ปีด้วยคะแนนโหวตท่วมท้นถึง 88.7 เปอร์เซ็นต์ถึงแม้การเลือกตั้งครั้งดังกล่าว จะไม่ได้รับการยอมรับจากฝ่ายต่อต้านและถูกประณามจากสหรัฐฯ ส่วนการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาซีเรียนั้น ถูกจัดขึ้นครั้งล่าสุดเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2012 และมีกำหนดจัดขึ้นอีกครั้งในปี 2016