เอเจนซีส์ / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดในรัสเซียชี้ ชาวรัสเซียส่วนใหญ่เห็นด้วยกับแผนโจมตีทางอากาศเพื่อกวาดล้างบรรดากลุ่มติดอาวุธและกลุ่มก่อการร้ายสุดโต่งในซีเรียของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน
ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดที่รวบรวมความคิดเห็นจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นชาวรัสเซียซึ่งมีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งจำนวน 1,600 คนจากทั่วประเทศ โดยสำนักวิจัยอิสระ “เลวาดา เซ็นเตอร์” ระบุว่า 72 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มตัวอย่างชาวรัสเซียระบุว่า ตนเห็นด้วยกับการเปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อที่มั่นของกลุ่มก่อการร้ายในซีเรีย
ขณะที่กลุ่มตัวอย่างที่คัดค้านภารกิจดังกล่าว กับกลุ่มตัวอย่างที่ไม่มีความเห็นต่อเรื่องดังกล่าวมีจำนวนเท่ากันที่ 14 เปอร์เซ็นต์
ผลสำรวจล่าสุดยังพบว่า 47 เปอร์เซ็นต์หรือเกือบครึ่งหนึ่งของกลุ่มตัวอย่างชาวรัสเซียที่เข้าร่วมการสำรวจความคิดเห็นในครั้งนี้ เชื่อมั่นว่าการโจมตีทางอากาศของรัสเซียในซีเรียจะมีบทบาทอย่างสำคัญยิ่งในการช่วยสนับสนุน-ค้ำจุน “ระบอบการปกครองที่ถูกต้องชอบธรรม” ของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดในซีเรีย และช่วยขจัดภัยคุกคามของกลุ่มนักรบรัฐอิสลาม (ไอเอส) ตลอดจนกลุ่มติดอาวุธที่มีแนวคิดสุดโต่งอื่นๆ
อย่างไรก็ดี ผลสำรวจพบว่ามีกลุ่มตัวอย่างชาวรัสเซียราว 28 เปอร์เซ็นต์ที่เชื่อว่ารัสเซียไม่ควรเข้าไปยุ่งกับความขัดแย้งในซีเรีย เพราะถือเป็น “ปัญหาของประเทศอื่น”
ผลสำรวจยังพบว่า มีกลุ่มตัวอย่างชาวรัสเซียเพียง 8 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ปรารถนาจะเห็นรัสเซียไปจับมือกับสหรัฐอเมริกาและช่วยกันถล่มกลุ่มไอเอสในซีเรีย
ทั้งนี้ ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดที่ถูกเผยแพร่ในแดนหมีขาวนี้มีขึ้นภายหลังจากที่ วลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียออกคำสั่งให้กองทัพรัสเซียเปิดการโจมตีทางอากาศในซีเรียตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา ตามการร้องขอของรัฐบาลซีเรีย และปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของรัสเซียในซีเรียถูกระบุว่า เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญต่อสงครามกลางเมืองในซีเรียที่ปะทุขึ้นตั้งแต่เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2011 และกำลังจะยืดเยื้อก้าวเข้าสู่ขวบปีที่ 5
นักวิเคราะห์ระบุว่า การโจมตีของรัสเซียต่อกลุ่มไอเอสและกลุ่มต่อต้านรัฐบาลอื่นๆ ในซีเรียได้ช่วยให้ฝ่ายรัฐบาลของประธานาธิบดีอัสซาดกลับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบในสงครามอีกครั้ง ขณะเดียวกันก็สร้างความเสียหายใหญ่หลวงต่อกลุ่มไอเอสและกลุ่มก้อนอื่นๆ ในฝ่ายกบฏของซีเรีย