เอเจนซีส์ - เมื่อวานนี้ (30 ต.ค.) ชาวซีเรียเกือบ 150 ชีวิตต้องจบชีวิตภายในแค่วันเดียวหลังจากกองกำลังซีเรียและกองกำลังรบรัสเซียปฏิบัติการโจมตีทางอากาศขับไล่ก่อการร้าย IS ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิตในเมืองอะเลปโป 80 คน และในเมืองโดมา (Douma)ไม่ต่ำกว่า 61 คน ในขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เก ลาฟรอฟ ตอบโต้สหรัฐฯ หลังทำเนียบขาวมีคำสั่ง “บูตส์ออนเดอะกราวนด์” หรือการส่งทหารหน่วยกำลังรบพิเศษจำนวนเกือบ 50 นายไปยังพื้นที่ในซีเรีย ซึ่งลาฟรอฟชี้ว่าอาจบานปลายเป็นศึกสงครามตัวแทน
อัลญะซีเราะห์รายงานวันนี้ (31) ว่า ประชาชนซีเรียไม่ต่ำกว่า 140 คนต้องเสียชีวิตในวันศุกร์ (31) เมื่อกองทัพซีเรียและกองกำลังรัสเซียออกปฏิบัติการโจมตีทางอากาศกลุ่มก่อการร้าย IS ในเมืองอะเลปโป และส่งผลทำให้คนไม่ต่ำกว่า 80 รายต้องจบชีวิต แหล่งข่าวเปิดเผยกับอัลญะซีเราะห์ ซึ่งในรายงานว่าเป้าหมายไม่ต่ำกว่า 25 จุดทั่วอะเลปโปถูกโจมตีทางอากาศ
แหล่งข่าวคนเดิมกล่าวเพิ่มเติมว่า การจู่โจมครั้งล่าสุดนี้เกิดขึ้นหลังจากที่มีคนไม่ต่ำกว่า 61 รายต้องจบชีวิต และมีอีกไม่ต่ำกว่า 100 คนได้รับบาดเจ็บในการโจมตีทางอากาศของกองทัพซีเรียใช้ขีปนาวุธยิงไปบริเวณตลาดสดบริเวณชานเมืองกรุงดามัสกัส
เจ้าหน้าที่หน่วยงานไม่แสวงหาผลกำไร Syrian Civil Defence ในพื้นที่ได้เปิดเผยกับอัลญะซีเราะห์ว่า ขีปนาวุธตกลงที่กลางตลาดสดที่พลุกพล่านในเมืองโดมา (Douma) ในวันศุกร์ (30) ทำให้มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 61 คน และได้รับบาดเจ็บไม่ต่ำกว่า 100 ราย
ทั้งนี้ มีรายงานว่าเมืองโดมาที่อยู่ทางตะวันออกของกรุงดามัสกัสถูกกองทัพซีเรียกดดันอย่างหนัก โจมตีทางอากาศมาตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา พยานที่เห็นเหตุการณ์ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า มิสไซล์ของกองทัพซีเรียนั้นตกลงมาที่ตลาดสดในเมืองโดมาในส่วนที่ถูกกลุ่มก่อการร้ายซุนหนี่ยึดครอง
“นี่เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่ตลาดในเมืองโดมาโดนโจมตี” แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ Syrian Civil Defence ให้สัมภาษณ์กับสื่อกาตาร์ทางโทรศัพท์ และยังกล่าวต่อว่า “มีเพียงแค่ประชาชนคนธรรมดาอาศัยอยู่ที่นี่ ไม่มีกองทัพ หรือกองกำลังต่อต้านรัฐบาลซีเรีย และประชาชนในพื้นที่ไม่อนุญาตให้กองกำลังติดอาวุธเข้ามา” แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า “ตลาดแห่งนี้ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองโดมา และเป็นสถานที่หลักในการจับจ่ายซื้อของในชีวิตประจำวันเพื่อการยังชีพของทุกชีวิตในเมืองแห่งนี้ มีเกษตรกรจำนวนมากเดินทางมาที่ตลาดแห่งนี้แต่เช้ามืดเพื่อขายสินค้าในตลาดที่ตกเป็นเป้าการโจมตีอย่างจงใจ”
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่แหล่งข่าวชี้ว่า การโจมตีทางอากาศอย่างหนักเริ่มต้นมาตั้งแต่ช่วงเช้ามืดวันศุกร์ (30) “เราถูกโจมตีทุก 10 นาทีเห็นจะได้ จากชีปนาวุธและการโจมตีทางอากาศ พวกเขาถล่มตลาดในพื้นที่ ซึ่งเราคาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น” แหล่งข่าว Syrian Civil Defence กล่าวต่อว่า ทุกตารางนิ้วของเมืองมาถูกโจมตี
ทั้งนี้ การโจมตีกลุ่มก่อการร้าย IS ของกองทัพซีเรียและกองกำลังรบรัสเซียในวันศุกร์ (30) ท่ามกลางความตรึงเครียดเพิ่มมากขึ้น หลังจากมีข่าวเปิดเผยในวันเดียวกันว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ได้ออกคำสั่งปฏิบัติการบูตส์ออนเดอะกราวนด์ในซีเรียเป็นครั้งแรกด้วยการส่งทหารหน่วยรบพิเศษจำนวนเกือบ 50 นายเดินทางเข้าไปในซีเรีย และทำให้รัสเซียไม่พอใจ โดยบีบีซีสื่ออังกฤษรายงานวันนี้ (31) ว่า รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียเซอร์เก ลาฟรอฟ ได้กล่าวเตือนสหรัฐฯ ว่า “การตัดสินใจส่งกำลังเข้าไปในซีเรียอาจก่อให้เกิดสงครามตัวแทนขึ้น”
และยังให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า ส่งผลทำให้ทั้งรัสเซียและสหรัฐฯ ต้องเพิ่มความร่วมมือกันมากขึ้น
บีบีซีชี้ว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของปฎิบัติการทางทหารที่เปิดเผยของสหรัฐฯในซีเรีย
อย่างไรก็ตาม ลาฟรอฟชี้ว่า การตัดสินใจของวอชิงตันนั้นไม่เห็นความสำคัญของการเป็นผู้นำของคาราคัส และลาฟรอฟกล่าวต่อว่า “ส่วนตัวแล้วยังคงเชื่อมั่นว่าทั้งมอสโกและวอชิงตันต่างไม่อยากเห็นสงครามตัวแทน หรือพร็อกซีวอร์ แต่สำหรับผมโดยเฉพาะในสถานการณ์เช่นนี้กลับเห็นว่ายิ่งมีความจำเป็นมากขึ้นที่ต้องเพิ่มความร่วมมือระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซีย”
สื่ออังกฤษรายงานว่า ลาฟรอฟให้สัมภาษณ์หลังจากเสร็จสิ้นการหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ จอห์น เคร์รี และทูตยูเอ็นประจำซีเรีย สแตฟฟาน เด มิสทูลา (Staffan de Mistura) ที่กรุงเวียนนา ออสเตรีย
ในขณะที่รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ แอชตัน คาร์เตอร์ เปิดเผยเพิ่มเติมถึงปฎิบัติการนี้ว่า “หลักการพื้นฐานและยุทธวิธีของสหรัฐฯ คือการให้การสนับสนุนกองกำลังสู้รบในพื้นที่ แต่นั่นจะไม่ทำให้กองกำลังสหรัฐฯ ตกอยู่ในอันตรายหรือ? ใช่อย่างไม่ต้องสงสัย” คาร์เตอร์กล่าวกับผู้สื่อข่าว
นอกจากนี้ คาร์เตอร์ยังไม่ปฏิเสธถึงความไปได้ในการส่งกองกำลังภาคพื้นของสหรัฐฯ ไปยังภูมิภาคตะวันออกกลางอีกครั้ง หากมีความจำเป็นต้องการให้ภารกิจหลักประสบความสำเร็จ
สื่ออังกฤษรายงานเพิ่มเติมต่อว่า ในระยะหลังๆ สหรัฐฯ ทอดทิ้งการฝึกซ้อมรบให้แก่กลุ่มกบฏซีเรีย โดยเลือกที่จะป้อนอาวุธยุทโธปกรณ์ให้กับผู้นำกลุ่มกบฏแทน
และในการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ (30) จอร์จ เอิร์นเนส โฆษกทำเนียบข่าวกล่าวว่า ประธานาธิบดีโอบามาต้องการที่จะให้การสนับสนุนเพิ่มขึ้นกับสมาชิกกลุ่มสู้รบในพื้นที่ซึ่งประสบความสำเร็จต่อต้านก่อการร้าย
บีบีซีวิเคราะห์ว่า ทำเนียบขาวกล่าวว่ากองกำลังรบพิเศษนี้ถูกส่งไปเพื่อปฎิบัติการร่วมกับกองกำลังรบในพื้นที่ต่อต้านกลุ่ม IS ทางเหนือของซีเรีย ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับกองกำลังชาวเคิร์ดที่เป็นพันธมิตรสู้รบกลุ่มก่อการร้าย IS ร่วมกับสหรัฐฯ และประสบความสำเร็จต้านก่อการร้ายได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
และในการวิเคราะห์ยังตีความไปถึงคำว่า “ปฏิบัติการร่วม” ซึ่งอาจหมายถึงการออกปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในซีเรียมากยิ่งขึ้น โดยทีมเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการนั้นได้รับการฝึกทางยุทธวิธีร่วมกับกองกำลังภาคพื้นในการเจาะจงเป้าหมาย และโจมตี ซึ่งในปัจจุบันนี้เป็นที่ทราบดีว่าสหรัฐฯ ใช้เครื่องบินรบโจมตีภาคพื้น A-10 ในการโจมตีหลัก หลังจากได้รับความร่วมมือกับตุรกีให้สามารถใช้ฐานทัพอากาศอินเซอร์ลิก (Incirlik) เป็นฐานปฏิบัติการได้ นั้นอาจกล่าวได้ว่าเป็นปัจจัยหลักในยุทธวิธีการสู้ IS ของสหรัฐฯ ไปแล้ว