xs
xsm
sm
md
lg

“โอบามากร้าว” สหรัฐฯไม่วันตกอยู่ในความกลัวต่อการถูกโจมตีจาก IS” หลังนิวยอร์กจัดหนัก “ฝึกซ้อมรับ IS เสมือนจริง”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอพี – ในวันอาทิตย์(22)ประธานาธิบดีสหรัฐฯบารัค โอบามา ออกแถลงการณ์ในมาเลเซียหลังร่วมประชุมอาเซียนว่า “กลุ่มก่อการร้าย IS ไม่สามารถทำให้สหรัฐฯตกอยู่ในความกลัวได้” และยังเตือนว่าการตื่นตูมต่อเหตุโจมตีปารีสมากไปอาจเข้าทาง IS หลังจากก่อนหน้านี้นิวยอร์กซ้อมทางทหารเตรียมรับมือการโจมตี IS คล้ายที่เกิดขึ้นในกรุงปารีส

ในการสิ้นสุดทริปการเยือนเอเชียของประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ที่ได้เดินทางร่วมประชุมอาเชียนในกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ได้ออกแถลงการณ์เตือนในการรับมือก่อการร้าย IS ที่กำลังตรึงเครียดในยุโรป และลามไปยังสหรัฐฯ ซึ่งกดดันผู้นำสหรัฐฯไม่ให้อนุญาตให้กลุ่มผู้อพยพชาวซีเรียเข้าอเมริกา รวมไปถึงนิวยอร์กได้เตรียมตัวรับก่อการร้ายอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งล่าสุดมีการฝึกซ้อมรบรับการโจมตีกลุ่ม IS คล้ายกับที่เกิดขึ้นในยุโรป หลังจากที่กลุ่มก่อการร้ายได้เผยแพร่วิดีโอคลิปคำขู่การโจมตีนิวยอร์กออกมาก่อนหน้านี้

ในแถลงการณ์ของผู้นำสหรัฐฯ โอบามาระบุว่า ชาวอเมริกันจะไม่ยอมให้กลุ่มก่อการร้ายมาเปลี่ยนแปลงการดำรงชีวิต หรือเปลี่ยนความเชื่อในสิ่งที่ยึดถือได้

“เราจะไม่จมอยู่กับความกลัวเด็ดขาด ซึ่งความจริงแล้วอาวุธที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการต่อกรกับก่อการร้าย IS มากที่สุดคือ ความจริงที่ว่า “เราไม่กลัว” และ “เราจะไม่ยกระดับกลุ่มก่อการร้าย” เพื่อที่จะทำให้สิ่งที่กลุ่มนี้ใฝ่ฝันให้โลกรู้ว่า ปฏิบัติการของพวกเขานั้นยิ่งใหญ่” โอบามาแถลง

เอพีรายงานว่า นับตั้งแต่มีผู้เสียชีวิตไปถึง 130 คนในเหตุโจมตีปารีส แผนการต่อต้านก่อการร้ายของโอบามานับวันจะถูกตั้งคำถามมากขึ้น โดยผู้นำสหรัฐฯได้ปัดถึงความน่ากลัวในปฏิบัติการของ IS ว่า “ก็เป็นเพียงแค่กลุ่มนักฆ่าที่มีความเชี่ยวชาญด้านโซเชียลมีเดีย”

และผู้นำสหรัฐฯยังปฎิเสธถึงความเป็นไปได้ในคำข่มขู่ของกลุ่ม IS ในการโจมตีสหรัฐฯว่า “เป็นเพราะกลุ่มติดอาวุธ IS ไม่สามารถชนะเราได้ในสนามรบ จึงทำให้ก่อการร้ายเหล่านี้จ้องทำให้เราตกอยู่ในความกลัวแทน” โอบามาชี้

และผู้นำสหรัฐฯยังย้ำ เหมือนจะส่งสัญญาณไปยังผู้นำชาติต่างๆว่า “ผมคิดว่าสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับทุกประเทศ สำหรับผู้นำทุกชาติในเวลานี้ ให้ส่งสัญญาณไปยังกลุ่มนักฆ่าที่ชั่วร้ายเหล่าเพียงแค่หยิบมือเหล่านี้ว่า ไม่สามารถทำให้คนทั้งโลกหยุดให้ดำเนินกิจธุระสำคัญได้”

ทั้งนี้ในสัปดาห์นี้ โอบามาและผู้นำทั่วโลกมีกำหนดจะหารือร่วมกันในการประชุมว่าด้วยสภาวะการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศของโลก ซึ่งทางทำเนียบขาวย้ำว่า ตารางนัดหมายนี้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง

และนอกจากนี้บารัค โอบามายังกล่าวต่อว่า ยังมีการร้างตระหนักต่อภัยก่อการร้ายเพิ่มขึ้นโดยผู้นำรัสเซีย ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ที่ได้กล่าวว่า ภัยก่อการร้ายจาก IS เป็นภัยครั้งใหญ่ในตะวันออกกลาง ซึ่งได้ทำให้เครื่องบินโดยสารรัสเซียเมโทรเจ็ตที่มีคนทั้งหมด 224 คนต้องจบชีวิต

และโอบามากล่าวต่อว่า “ปูตินต้องไปไล่ล่ากลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลังการเสียชีวิตของพลเมืองรัสเซีย” ทั้งนี้ก่อนหน้านี้วอชิงตันเคยวิจารณ์ว่า รัสเซียมุ่งเน้นโจมตีกลุ่มกบฏซีเรีย ปฏิปักษ์รัฐบาลซีเรียมากกว่าที่จะตามไล่ล่าก่อการร้าย IS ซึ่งผู้นำทั้งสองชาติพบปะกันและมีการพูจาล่าสุดในการประชุมซัมมิต G20 ตุรกี โดยวอชิงตันชี้ว่า รัสเซียเริ่มหันมาเน้นการไล่ล่ากลุ่ม IS ในซีเรียมากขึ้น และโอบามากล่าวว่า ยังไม่แน่ชัดว่าการร่วมปฎิบัติการโจมตี IS ทางอากาศที่มีปูตินเข้าร่วมจะมีประสิทธิภาพอย่างไรภายใต้การนำของสหรัฐฯ

เอพีรายงานว่า หลังจากที่โอบามาบินกลับมาถึงกรุงวอชิงตัน ดีซี ในวันเช้าตรู่จันทร์(23) เขาต้องเตรียมรับประธานาธิบดีฝรั่งเศส ฟรองซัวส์ ออลลองด์ ในการมาเยือนหารือการเพิ่มกำลังสนับสนุนจากนานาชาติในการต่อต้านก่อการร้าย IS ที่จะมาถึงในวันอังคาร(24)

อย่างไรก็ตามในการแถลงที่กรุงกัวลาลัมเปอร์เมื่อวานนี้(22)ประธานาธิบดีสหรัฐฯกล่าวว่า “ประชาชนสหรัฐฯมีสิทธิ์ที่จะรู้สึกเป็นกังวล แต่ทว่าการเป็นพลเมืองดีที่ตื่นตัวนั้นต่างจากพลเมืองที่ตกอยู่ในความกลัว ซึ่งประการหลังจะทำให้เราต้องละทิ้งในสิ่งที่เราเชื่อ หรือต้องละทิ้งวิถีชีวิตของพวกเราทิ้งไป”

อย่างไรก็ตาม โอบามาได้เปรียบเทียบเหตุการณ์ก่อการร้ายล่าสุดจากฝีมือของกลุ่ม IS กับเหตุการณ์ก่อการร้ายที่เกิดขึ้นบนแผ่นดินอเมริกา 9/11 โดยโอบามาย้ำว่า ประชาชนสหรัฐฯรู้สึกตระหนกแต่หวาดเกรงต่อการก่อการร้าย แต่จะไม่เกรงต่อการเผชิญหน้า เพราะในเหตุการณหลังเกิดเหตุกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ใช้เครื่องบินจำนวน 2 ลำพุ่งชนตึกเวิลด์เทรด และหลังจากนั้นสถานที่แห่งนั้นยังกลับมาเต็มไปด้วยผู้คนจำนวนมากอีกครั้ง

ซึ่งเอพีรายงานว่า 5 วันหลังการเกิดเหตุโจมตีตึกเวิลด์เทรดในปี 2001 อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จอร์จ ดัลเบิลยู บูช กล่าวว่า “ประเทศของเรารู้สึกตระหนกในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ไม่ยอมที่จะตกอยู่ในความกลัว” และเสริมต่อว่า “เราทั้งประเทศจะไม่ยอมกลายเป็นคนขลาดกลัวเพราะการกระทำของกลุ่มคนพวกนี้”






กำลังโหลดความคิดเห็น