เอเจนซีส์ – ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน กล่าวกลางวงที่ประชุมซัมมิต G20 ว่า รัสเซียได้แลกเปลี่ยนการข่าวกรองด้านการเงินของกลุ่มก่อการร้าย IS กับชาติสมาชิก G20 ซึ่งพบว่ากลุ่มก่อการร้ายได้รับเงินสนับสนุนจาก 40 ชาติ ซึ่งรวมไปถึงบางชาติที่เป็นสมาชิก G20
RT สื่อรัสเซียรายงานเมื่อวานนี้(16)ว่า ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูตินได้แถลงกับสื่อในที่ประชุมซัมมิต G20 ว่า “ในระหว่างการประชุมผมได้แลกเปลี่ยนข้อมูลการข่าวรัสเซียเกี่ยวกับกลุ่ม IS ซึ่งทางรัสเซียพบว่าระบบเงินทุนของกลุ่มก่อการร้าย IS นี้ได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชน ซึ่งดูเหมือนจะมีที่มาจาก 40 ประเทศ ซึ่งรวมไปถึงบางชาติสมาชิกกลุ่ม G20”
และนอกจากนี้ผู้นำรัสเซียยังแถลงถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการหยุดการค้าน้ำมันเถื่อนของกลุ่ม IS ว่า “ขบวนรถที่ต่อแถวรอการเติมน้ำมันทอดยาวหลายสิบกิโลเมตร ดังนั้นจากความสูงราว 4,000 เมตร - 5,000เมตร พบว่าเป็นขยายยาวออกไปทางแนวราบ” ปูตินแถลง และเสริมว่า เมื่อเปรียบเทียบกับขบวนแถวรถที่รอเติมน้ำมันกับระบบเครือข่ายท่อส่งแก๊สและน้ำมัน
นอกจากนี้ผู้นำรัสเซียยังกล่าวว่า ในขณะนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมในการค้นหาว่าประเทศใดประสบความสำเร็จในการปราบปรามกลุ่มติดอาวุธได้มากกว่ากัน เพราะนี่เป็นช่วงเวลาที่ประชาคมโลกต้องร่วมมือเพื่อกำจัดกลุ่มก่อการร้าย IS
และปูตินยังแถลงยืนยันอีกครั้งในความพร้อมของรัสเซียที่จะสนับสนุนกบฎซีเรียในการสู้กับกลุ่มสาธารณรัฐอิสลาม IS “มีกลุ่มติดอาวุธบางกลุ่มที่เห็นว่ามีศักยภาพเพียงพอในการเริ่มต่อสู้กับกลุ่ม IS โดยได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย และทางเราได้ให้การสนับสนุนแล้วทางอากาศ และหากเกิดขึ้นได้จริงจะถือเป็นสิ่งที่ดีซึ่งเป็นผลมาจากข้อตกลงทางการเมือง”
RT รายงานเพิ่มเติมว่า ประธานาธิบดีรัสเซียให้ความเห็นเพิ่มเติมต่อว่า “ทางเราต้องการความร่วมมือจากสหรัฐฯ ชาติในยุโรป ซาอุดีอาระเบีย ตุรกี และอิหร่าน”
นอกจากนี้ปูตินยังชี้ถึงทิศทางที่เปลี่ยนไปของวอชิงตันในการร่วมมือกับรัสเซียในการต่อต้านก่อการร้าย และผู้นำรัสเซียยังชี้ว่า สิ่งที่สำคัญมากที่สุดในเวลานี้คือ ต้องระบุให้ได้ว่า กลุ่มติดอาวุธกลุ่มใดบ้างในซีเรียที่ถูกจัดเป็นองค์กรก่อการร้าย
และกลุ่มติดอาวุธกลุ่มใดที่เข้าข่ายจะสามารถได้รับการสนับสนุนด้านอาวุธ แต่ยังคงถือเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มกบฏซีเรีย ซึ่งในการแถลงของปูติน ผู้นำรัสเซียเปิดเผยว่า ที่ผ่านมารัสเซียได้เริ่มติดต่อกับกลุ่มฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรียบ้างแล้ว ซึ่งได้มีการร้องขอไม่ให้มอสโกใช้การโจมตีทางอากาศในพื้นที่ซึ่งฝ่ายต่อต้านนี้ควบคุมพื้นที่อยู่