(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)
China now has more billionaires than US
By Asia Unhedged
15/10/2015
“รายงานหูรุ่น” (The Hurun Report) รายงานการจัดอันดับผู้มั่งคั่งร่ำรวยที่สุดในประเทศจีน ระบุในฉบับล่าสุดที่นำออกเผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี (15 ต.ค.) ว่า ในรอบปีที่ผ่านมา ชาวจีนที่มีทรัพย์สินตั้งแต่พันล้านดอลลาร์ขึ้นไป มีจำนวนสูงถึง 596 คน เพิ่มพรวดจากปีที่แล้วซึ่งมีอยู่ 242 คนถึง 68% ทีเดียว แล้วที่น่าตื่นตระหนกอีกประการหนึ่งก็คือ จำนวนอภิมหาเศรษฐีพันล้านดอลลาร์ในจีนเวลานี้ แซงหน้าสหรัฐฯที่มีจำนวน 537 คนไปเรียบร้อยแล้ว
ขณะที่การรณรงค์แข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯกำลังทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ คำๆ หนึ่งที่พวกเราทั้งหลายได้ยินได้ฟังกันครั้งแล้วครั้งเล่าไม่ขาดหูก็คือคำว่า “ทุนนิยม” มันมาบ่อยมาถี่กระทั่งถึงขนาดที่ เบอร์นี แซนเดอร์ส (Bernie Sanders) วุฒิสมาชิกสหรัฐฯซึ่งกำลังลงชิงชัยเป็นประธานาธิบดีด้วยรายหนึ่ง และก็เป็นผู้ประกาศตัวเปิดเผยว่าเป็นนักสังคมนิยม ถูกตั้งคำถามซึ่งๆ หน้าหลายๆ ครั้งในสัปดาห์นี้ว่า “คุณเป็นผู้ที่เชื่อในทุนนิยมหรือเปล่า?”
ใช่แล้ว คนอเมริกันเป็นผู้ที่คลั่งไคล้หลงใหลในลัทธิทุนนิยมของตนเองจริงๆ หลักความเชื่อสำคัญของทุนนิยมในเรื่องเกี่ยวกับความสามารถที่จะสร้างเนื้อสร้างตัวจากยาจกขึ้นมาเป็นเศรษฐีได้ คือเรื่องหนึ่งในลักษณะสำคัญที่สุดหลายๆ เรื่องของแนวความคิดที่ว่า อเมริกาเป็นชาติที่พิเศษไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน (American exceptionalism)
เอาละ ที่นี่ก็โปรดนั่งลงตั้งสติกันหน่อย เพราะเรื่องที่จะพูดต่อไปนี้ จะเป็นเรื่องยอมรับได้ค่อนข้างยากสักนิดสำหรับชาวอเมริกัน
ปรากฏว่าเวลานี้จีนคอมมิวนิสต์มีอภิมหาเศรษฐกิจที่ร่ำรวยทรัพย์สินตั้งแต่ 1,000 ล้านดอลลาร์ขึ้นไป (billionaire) มากกว่าสหรัฐอเมริกาแล้ว ทั้งนี้ตามรายงานการจัดทำรายชื่อบุคคลผู้มั่งคั่งร่ำรวยของจีนฉบับล่าสุด ซึ่งนำออกมาเผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี (15 ต.ค.) ที่ผ่านมา
“ถึงแม้เศรษฐกิจเกิดการชะลอตัว แต่บรรดาผู้มั่งคั่งร่ำรวยที่สุดของประเทศจีนก็ยังคงสามารถท้าทายแรงโน้มถ่วง โดยจดบันทึกว่ามันเป็นปีที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา และกำลังสร้างทรัพย์สมบัติได้เป็นปริมาณมากมายยิ่งกว่าที่ประเทศใดๆ ได้เคยทำสำเร็จมาในรอบระยะเวลา 1 ปี” รูเพิร์ต ฮูกเวิร์ฟ (Rupert Hoogwerf) ประธานและประธานนักวิจัยของ “รายงานหูรุ่น” (The Hurun Report) ระบุในคำแถลง
จีนกำลังประสบภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวหรือ? เอเชียอันเฮดจ์แน่ใจอย่างยิ่งว่าเราต้องได้ยินวลี “ฮาร์ด แลนดิ้ง” (hard landing) ที่พูดจาอย่างหนาหูในแวดวงสื่อมวลชนโลกตะวันตก กระนั้นก็ตาม จำนวนของชาวจีนที่เป็นอภิมหาเศรษฐีพันล้านดอลลาร์ขึ้นไป กลับมีจำนวนพุ่งพรวดจาก 242 คนในปีที่แล้ว เป็น 596 คนในปีนี้ ทั้งนี้ตามการจัดอันดับของ “รายงานหูรุ่น” ซึ่งคอยติดตามพวกชนชั้นมั่งคั่งร่ำรวยใหม่ๆ ของประเทศจีน (ดูเพิ่มเติมรายงานข่าวเรืองนี้ได้ที่ http://www.japantoday.com/category/business/view/survey-finds-china-passes-u-s-in-number-of-billionaires )
นี่เท่ากับเพิ่มขึ้นมาถึง 68% และปีนี้ก็ยังไม่ทันหมดปีด้วยซ้ำ ยิ่งถ้าหากรวมเอาฮ่องกง, มาเก๊า, และไต้หวัน เข้ามาด้วยแล้ว ยอดรวมของอภิมหาเศรษฐกิจพันล้านดอลลาร์ในภูมิภาค Greater China ก็จะมีจำนวน 715 คนทีเดียว
สำหรับชาวอเมริกัน สิ่งที่ชวนให้รู้สึกช็อกยิ่งกว่านั้นก็คือ ผู้มีทรัพย์สินพันล้านดอลลาร์ขึ้นไปของจีนเวลานี้ มีจำนวนมากกว่าในสหรัฐฯ 11% แล้ว โดยผู้ที่เป็น billionaire ในแดนลุงแซมเวลานี้มี 537 คน
ตาม “รายงานหูรุ่น” ฉบับล่าสุด การพุ่งพรวดของจำนวนอภิมหาเศรษฐีพันล้านดอลลาร์ในจีน เป็นการสะท้อนถึงทรัพย์สินที่กำลังเพิ่มทวีปรู๊ดปร๊าดของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การค้าปลีกออนไลน์ ตลอดจนธุรกิจนันทนาการ และธุรกิจด้านบริการอื่นๆ
รายงานฉบับนี้ระบุว่า หวัง เจี้ยนหลิน (Wang Jianlin) ประธานของกลุ่มว่านต๋า (Wanda Group) ซึ่งประกอบธุรกิจทั้งด้านโรงแรม, ศูนย์การค้า, และโรงภาพยนตร์ คือผู้มั่งคั่งร่ำรวยเป็นอันดับ 1 ในประเทศจีน โดยทรัพย์สมบัติของเขาเพิ่มพูนขึ้นถึง 52% ในรอบ 1 ปีมาอยู่ที่ 34,400 ล้านดอลลาร์
แจ๊ก หม่า (Jack Ma) ผู้ก่อตั้งและประธานบริหารของ อาลีบาบา กรุ๊ป (Alibaba Group) ยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซ มาเป็นอันดับ 2 ด้วยจำนวนทรัพย์สิน 22,700 ล้านดอลลาร์
สำหรับอันดับ 3 ได้แก่ เจิง ชิ่งโฮ่ว (Zeng Qinghou) ประธานและซีอีโอของ หางโจว วาฮาฮา (Hangzhou Wahaha) อาณาจักรซอฟต์ดริงก์และน้ำแร่ ซึ่งมีความมั่งคั่งร่ำรวยอยู่ในระดับ 21,200 ล้านดอลลาร์
(จากคอลัมน์ Asia Unhedged ในเอเชียไทมส์)
China now has more billionaires than US
By Asia Unhedged
15/10/2015
“รายงานหูรุ่น” (The Hurun Report) รายงานการจัดอันดับผู้มั่งคั่งร่ำรวยที่สุดในประเทศจีน ระบุในฉบับล่าสุดที่นำออกเผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี (15 ต.ค.) ว่า ในรอบปีที่ผ่านมา ชาวจีนที่มีทรัพย์สินตั้งแต่พันล้านดอลลาร์ขึ้นไป มีจำนวนสูงถึง 596 คน เพิ่มพรวดจากปีที่แล้วซึ่งมีอยู่ 242 คนถึง 68% ทีเดียว แล้วที่น่าตื่นตระหนกอีกประการหนึ่งก็คือ จำนวนอภิมหาเศรษฐีพันล้านดอลลาร์ในจีนเวลานี้ แซงหน้าสหรัฐฯที่มีจำนวน 537 คนไปเรียบร้อยแล้ว
ขณะที่การรณรงค์แข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯกำลังทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ คำๆ หนึ่งที่พวกเราทั้งหลายได้ยินได้ฟังกันครั้งแล้วครั้งเล่าไม่ขาดหูก็คือคำว่า “ทุนนิยม” มันมาบ่อยมาถี่กระทั่งถึงขนาดที่ เบอร์นี แซนเดอร์ส (Bernie Sanders) วุฒิสมาชิกสหรัฐฯซึ่งกำลังลงชิงชัยเป็นประธานาธิบดีด้วยรายหนึ่ง และก็เป็นผู้ประกาศตัวเปิดเผยว่าเป็นนักสังคมนิยม ถูกตั้งคำถามซึ่งๆ หน้าหลายๆ ครั้งในสัปดาห์นี้ว่า “คุณเป็นผู้ที่เชื่อในทุนนิยมหรือเปล่า?”
ใช่แล้ว คนอเมริกันเป็นผู้ที่คลั่งไคล้หลงใหลในลัทธิทุนนิยมของตนเองจริงๆ หลักความเชื่อสำคัญของทุนนิยมในเรื่องเกี่ยวกับความสามารถที่จะสร้างเนื้อสร้างตัวจากยาจกขึ้นมาเป็นเศรษฐีได้ คือเรื่องหนึ่งในลักษณะสำคัญที่สุดหลายๆ เรื่องของแนวความคิดที่ว่า อเมริกาเป็นชาติที่พิเศษไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน (American exceptionalism)
เอาละ ที่นี่ก็โปรดนั่งลงตั้งสติกันหน่อย เพราะเรื่องที่จะพูดต่อไปนี้ จะเป็นเรื่องยอมรับได้ค่อนข้างยากสักนิดสำหรับชาวอเมริกัน
ปรากฏว่าเวลานี้จีนคอมมิวนิสต์มีอภิมหาเศรษฐกิจที่ร่ำรวยทรัพย์สินตั้งแต่ 1,000 ล้านดอลลาร์ขึ้นไป (billionaire) มากกว่าสหรัฐอเมริกาแล้ว ทั้งนี้ตามรายงานการจัดทำรายชื่อบุคคลผู้มั่งคั่งร่ำรวยของจีนฉบับล่าสุด ซึ่งนำออกมาเผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี (15 ต.ค.) ที่ผ่านมา
“ถึงแม้เศรษฐกิจเกิดการชะลอตัว แต่บรรดาผู้มั่งคั่งร่ำรวยที่สุดของประเทศจีนก็ยังคงสามารถท้าทายแรงโน้มถ่วง โดยจดบันทึกว่ามันเป็นปีที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา และกำลังสร้างทรัพย์สมบัติได้เป็นปริมาณมากมายยิ่งกว่าที่ประเทศใดๆ ได้เคยทำสำเร็จมาในรอบระยะเวลา 1 ปี” รูเพิร์ต ฮูกเวิร์ฟ (Rupert Hoogwerf) ประธานและประธานนักวิจัยของ “รายงานหูรุ่น” (The Hurun Report) ระบุในคำแถลง
จีนกำลังประสบภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวหรือ? เอเชียอันเฮดจ์แน่ใจอย่างยิ่งว่าเราต้องได้ยินวลี “ฮาร์ด แลนดิ้ง” (hard landing) ที่พูดจาอย่างหนาหูในแวดวงสื่อมวลชนโลกตะวันตก กระนั้นก็ตาม จำนวนของชาวจีนที่เป็นอภิมหาเศรษฐีพันล้านดอลลาร์ขึ้นไป กลับมีจำนวนพุ่งพรวดจาก 242 คนในปีที่แล้ว เป็น 596 คนในปีนี้ ทั้งนี้ตามการจัดอันดับของ “รายงานหูรุ่น” ซึ่งคอยติดตามพวกชนชั้นมั่งคั่งร่ำรวยใหม่ๆ ของประเทศจีน (ดูเพิ่มเติมรายงานข่าวเรืองนี้ได้ที่ http://www.japantoday.com/category/business/view/survey-finds-china-passes-u-s-in-number-of-billionaires )
นี่เท่ากับเพิ่มขึ้นมาถึง 68% และปีนี้ก็ยังไม่ทันหมดปีด้วยซ้ำ ยิ่งถ้าหากรวมเอาฮ่องกง, มาเก๊า, และไต้หวัน เข้ามาด้วยแล้ว ยอดรวมของอภิมหาเศรษฐกิจพันล้านดอลลาร์ในภูมิภาค Greater China ก็จะมีจำนวน 715 คนทีเดียว
สำหรับชาวอเมริกัน สิ่งที่ชวนให้รู้สึกช็อกยิ่งกว่านั้นก็คือ ผู้มีทรัพย์สินพันล้านดอลลาร์ขึ้นไปของจีนเวลานี้ มีจำนวนมากกว่าในสหรัฐฯ 11% แล้ว โดยผู้ที่เป็น billionaire ในแดนลุงแซมเวลานี้มี 537 คน
ตาม “รายงานหูรุ่น” ฉบับล่าสุด การพุ่งพรวดของจำนวนอภิมหาเศรษฐีพันล้านดอลลาร์ในจีน เป็นการสะท้อนถึงทรัพย์สินที่กำลังเพิ่มทวีปรู๊ดปร๊าดของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การค้าปลีกออนไลน์ ตลอดจนธุรกิจนันทนาการ และธุรกิจด้านบริการอื่นๆ
รายงานฉบับนี้ระบุว่า หวัง เจี้ยนหลิน (Wang Jianlin) ประธานของกลุ่มว่านต๋า (Wanda Group) ซึ่งประกอบธุรกิจทั้งด้านโรงแรม, ศูนย์การค้า, และโรงภาพยนตร์ คือผู้มั่งคั่งร่ำรวยเป็นอันดับ 1 ในประเทศจีน โดยทรัพย์สมบัติของเขาเพิ่มพูนขึ้นถึง 52% ในรอบ 1 ปีมาอยู่ที่ 34,400 ล้านดอลลาร์
แจ๊ก หม่า (Jack Ma) ผู้ก่อตั้งและประธานบริหารของ อาลีบาบา กรุ๊ป (Alibaba Group) ยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซ มาเป็นอันดับ 2 ด้วยจำนวนทรัพย์สิน 22,700 ล้านดอลลาร์
สำหรับอันดับ 3 ได้แก่ เจิง ชิ่งโฮ่ว (Zeng Qinghou) ประธานและซีอีโอของ หางโจว วาฮาฮา (Hangzhou Wahaha) อาณาจักรซอฟต์ดริงก์และน้ำแร่ ซึ่งมีความมั่งคั่งร่ำรวยอยู่ในระดับ 21,200 ล้านดอลลาร์
(จากคอลัมน์ Asia Unhedged ในเอเชียไทมส์)
