แจ๊ค หม่า ครองแท่น มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของจีน

เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์—แจ๊ค หม่า แห่งอาลีบาบา ครองแท่นมหาเศรษฐีผู้มั่งคั่งที่สุดในประเทศจีน ในทำเนียบมหาเศรษฐีจีนประจำปีนี้จัดทำโดยสำนักจัดอันดับความมั่งคั่งหูรุ่น

จากการจัดอับดับมหาเศรษฐีจีนประจำปี 2014 โดยสำนักจัดอับดับฯหูรุ่น (Hurun China Rich List 2014 ระบุ แจ๊ค หม่า หรือชื่อจีน หม่า อวิ๋น วัย 50 ปี ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัท อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง ครองแท่นผู้มั่งคั่งที่สุด

“หม่า อวิ๋น ได้นั่งแท่น “บุรุษผู้ร่ำรวยที่สุดในประเทศจีน” จากการเปิดขายหุ้นแก่สาธารณชนครั้งแรก หรือไอพีโอ ในตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์(19 ก.ย.) หุ้นอาลีบาบาปิดสูงจากราคาเปิด ถึง 38 เปอร์เซ็นต์ ดันแจ๊ค หม่า ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งของกลุ่มมหาเศรษฐีจีน ด้วยสินทรัพย์ 25,000 ล้านเหรียญสหรัฐ รวยขึ้น 5 เท่าเทียบกับปีที่แล้ว

หม่าครองหุ้นส่วน 6 เปอร์เซ็นต์ในอาลีบาบา กรุ๊ป และถือหุ้นอีก 46 เปอร์เซ็นต์ในอาลิเพย์ (Alipay) บริษัทในเครือของอาลีบาบา” หูรุ่น ระบุ

จากการจัดอันดับมหาเศรษฐีแดนมังกรของหูรุ่น ยังพบว่ากลุ่มมหาเศรษฐีจีนระดับพันล้านเหรียญสรัฐ ขยายใหญ่ขึ้นเป็น 354 คน โดยเพิ่มจำนวนขึ้นมาอีก 39 คน จากปีที่แล้ว ทั้งนี้ เมื่อ 10 ปีที่แล้ว มหาเศรษฐีพันล้านดอลล์ของจีน มีเพียง 3 คน เท่านั้น

ทั้งนี้การเปิดหุ้นไอพีโอในตลาดนิวยอร์กของอาลีบาบา ระดมทุนได้ถึง 25,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ทุบสถิติการระดมทุนก้อนใหญ่ที่สุดในโลกโดยมีมูลค่าตลาดแซงหน้าเฟซบุ๊ค

“ภาคสารสนเทศกำลังมาแรง โดยมหาเศรษฐีที่ครองแท่น 5 อันดับแรก มาจากภาคไอที” หูรุ่นระบุ


จากไชน่า เดลี

สำหรับรายนามมหาเศรษฐีที่อยู่แถวหน้า 10 อันดับแรก ได้แก่ โพนี่ หม่า ฮว่าเถิง วัย 43 ปี แห่งเทนเซนท์ โฮลดิ้งส (Tencent Holdings) ครองอันดับห้า ด้วยมูลค่าสินทรัพย์ 18,100 ล้านเหรียญสหรัฐ, โรบิน หลี่ เยี่ยนหง ประธานร่วมและประธานผู้บริหารแห่งไป่ตู้ (Baidu) และภรรยาคือ เมสลิสา หม่า ตงหมิ่น ครองอันดับหก ด้วยมูลค่าสินทรัพย์ 17,500 ล้านเหรียญสหรัฐ, ริชาร์ด หลิว เฉียงตงแห่ง JD.com ครองอันดับเก้า ด้วยมูลค่าสินทรัพย์ 8,800 ล้านเหรียญสหรัฐ และ เหลย จวิน แห่งเสียวหมี่ เทคโนโลยี (xiaomi Technology) ครองอันดับสิบ ด้วยมูลค่าสินทรัพย์ 7,500 ล้านเหรียญสหรัฐ

โดยมหาเศรษฐี 3 คน ในกลุ่ม 6 คน ที่สามารถพูดภาษาอังกฤษคล่องแคล่ว ได้แก่ แจ๊ค หม่า, หลี่ เหอจวิน, และโรบิน หลี่ สะท้อนถึงกระแสโลกาภิวัฒน์ในภาคเอกชนจีน หูรุ่นระบุ

สมาชิกในทำเนียบมหาเศรษฐีหูรุ่นปีนี้ มี 26 คน อายุต่ำกว่า 40 ปี และสร้างตัวด้วยน้ำพักน้ำแรงตัวเอง สองคนเป็นมหาเศรษฐีระดับพันล้านเหรียญสหรัฐ ได้แก่ เฉิน โอว วัย 31 ปี ผู้ก่อตั้ง จี้ว์เหม่ย (Jumei) กิจการค้าปลีกผลิตภัณฑ์เสริมความงามรายใหญ่ที่สุดของจีน มีสินทรัพย์ 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐ และอีกคนคือ จาง ปังซิน แห่ง TAL Education สินทรัพย์ 1,050 ล้านเหรียญสหรัฐ

นายรูเพิร์ต ฮูจเวิร์ฟ (Rupert Hoogewerf) ประธานและหัวหน้าการวิจัยแห่งหูรุ่นรีพอร์ต (Hurun Report) “จิตวิญญาณใหม่ผู้ประกอบการในจีน มาจากปัจเจกชนที่สร้างตัวด้วยมือตัวเอง 8 ราย ที่เกิดหลังยุคทศวรรษ 1980 นับเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจของประเทศ

“มหาเศรษฐีแห่งทำเนียบหูรุ่น ยังได้รุกสยายปีกการลงทุนในต่างแดนอย่างคึกคักมากขึ้น”

ขณะที่ หวัง เจี้ยนหลิน ประธานแห่งต้าเหลียน วั่นต๋า กรุ๊ป (Dalian Wanda Group) และ กัว กวงฉาง แห่งฟัวซัน อินเตอร์เนชั่นนัล (Fosun International) ทั้งสองยังคงรายชื่ออยู่ในทำเนียบเศรษฐีหูรุ่นปีนี้ ทั้งหวังและกัวก็กำลังลุยลงทุนในต่างแดน ในเดือนส.ค. วั่นต๋าประกาศแผนการลงทุน มูลค่า 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐ ในโครงการอสังหาริมทรัพย์ใน บีเวอร์ลี ฮิลล์ส (Beverly Hills)เพื่อกรุยทางให้จีนเข้าสู่ฮอลลิวู้ด

หวังและครอบครัว มีสินทรัพย์ ราว 24,200 ล้านเหรียญสหรัฐ ตกจากอันดับหนึ่งของทำเนียบหูรุ่นเมื่อปีที่แล้ว มาอยู่ที่อันดับสองในปีนี้

นอกจากนี้ สิ่งที่น่าสนใจของทำเนียบมหาเศรษฐีฯนี้ คือ ปฏิบัติการปราบปรามคอรัปชั่นของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ทำให้มหาเศรษฐีในทำเนียบฯเมื่อปีที่แล้ว 18 คน ตกเป็นเป้าเพ่งเล็งของเจ้าหน้าที่ ในจำนวนนี้ 11 ราย ยังคงอยู่ในทำเนียบฯ.