เอเจนซีส์ - รัฐสภาอิหร่านมีมติรับรองข้อตกลงควบคุมนิวเคลียร์ที่รัฐบาลได้ตกลงไว้กับสหรัฐฯและกลุ่มมหาอำนาจอีก 5 ชาติ วันนี้ (13 ต.ค.) ซึ่งนับเป็นการกรุยทางไปสู่การบังคับใช้ข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ และการผ่อนคลายบทลงโทษทางเศรษฐกิจต่อเตหะราน
สำนักข่าว IRNA ของทางการอิหร่านและสื่อสำนักอื่นๆ รายงานว่า แผนปฏิบัติการร่วมฉบับสมบูรณ์ (Joint Comprehensive Plan of Action - JCPOA) ผ่านการรับรองจากรัฐสภาเตหะรานด้วยมติเห็นชอบ 161 เสียง คัดค้าน 59 เสียง และงดออกเสียง 13 เสียง
ผลการนับคะแนนเบื้องต้นพบว่า มี ส.ส.อิหร่านเข้าประชุมเพื่อโหวตข้อตกลงฉบับนี้เพียง 250 จากทั้งหมด 290 คน และมี ส.ส.อยู่ 17 คนที่เข้าประชุม แต่ไม่ได้ออกเสียงเลย
การลงมติในรัฐสภาอิหร่านวันนี้ (13) ไม่มีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ แต่มีรายงานจากสื่อหลายสำนักว่าบรรยากาศเป็นไปด้วยความตึงเครียด โดย ส.ส.บางคนตะโกนว่าสิ่งที่พวกเขากังวลยังไม่ได้รับการแก้ไข
อิหร่านกับกลุ่มมหาอำนาจ P5+1 ซึ่งได้แก่ สหรัฐฯ จีน รัสเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศส บวกเยอรมนี สามารถบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับสมบูรณ์ เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม หลังใช้เวลาเจรจาทางการทูตอยู่นานเกือบ 2 ปีเต็ม แต่ถึงกระนั้นก็ยังเผชิญกระแสต่อต้านอย่างหนักจากสมาชิกรัฐสภาในสหรัฐฯ และอิหร่าน ซึ่งเป็นเพียง 2 ประเทศที่ยืนกรานว่า ข้อตกลงจะต้องผ่านการโหวตรับรองจากรัฐสภาเสียก่อน
ข้อตกลงฉบับนี้ได้รับเสียงชื่นชมว่าเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ที่ช่วยหลีกเลี่ยงสงครามซึ่งอาจจะเกิดขึ้นในตะวันออกกลาง โดยวางเงื่อนไขให้อิหร่านต้องยอมจำกัดกิจกรรมนิวเคลียร์ไว้อย่างน้อย 10 ปี และเปิดทางให้นานาชาติเข้าไปตรวจสอบ ซึ่งเตหะรานจะได้รับการผ่อนคลายคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจเป็นสิ่งตอบแทน
อิหร่านจะต้องเริ่มลดทอนกิจกรรมนิวเคลียร์ลงตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค. เป็นต้นไป ซึ่งรวมไปถึงการถอดเครื่องหมุนเหวี่ยงวัสดุนิวเคลียร์หลายพันตัวออกจากโรงงานเสริมสมรรถนะ และเทคอนกรีตใส่เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์น้ำมวลหนักเพื่อยุติการใช้งาน
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป จะประกาศยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านบางส่วน ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับก็ต่อเมื่อทบวงการปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) แถลงยืนยันว่าอิหร่านได้ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้
สหรัฐฯและชาติพันธมิตรระแวงสงสัยว่าอิหร่านอาจมุ่งพัฒนาอาวุธทำลายล้างสูง ขณะที่เตหะรานยืนยันมาโดยตลอดว่ากิจกรรมนิวเคลียร์ทั้งหมดมีเป้าหมายเพื่อใช้ประโยชน์ด้านพลเรือนเท่านั้น
สภาคองเกรสสหรัฐฯ ล้มเหลวในความพยายามคว่ำข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับนี้เมื่อเดือนกันยายน
ส.ส.อนุรักษ์นิยมสุดโต่งในอิหร่านวิจารณ์ อาลี อักบาร์ ซาเลฮี ผู้อำนวยการสำนักงานปรมาณูและคณะผู้เจรจาว่ายอมโอนอ่อนให้ตะวันตกมากเกินไป พร้อมเตือนว่าเนื้อหาของข้อตกลงนี้ยังมีช่องโหว่ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลประธานาธิบดี ฮัสซัน รอฮานี ยืนยันว่า สิ่งที่ผู้แทนเจรจาได้ทำไปเป็นการปกป้องอนาคตของโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน ขณะเดียวกันก็สามารถบรรเทามาตรการคว่ำบาตรที่กำลังบีบคั้นเศรษฐกิจของประเทศอยู่ในเวลานี้
