รอยเตอร์ - วอลล์สตรีทปิดบวกเมื่อวันอังคาร (30 มิ.ย.) ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง ด้วยนักลงทุนมีหวังต่อข้อตกลงคงสถานะกรีซในยูโร แม้ขยับเข้าใกล้ผิดนัดชำระหนี้ เนื่องจากระหว่างวันมีข่าวคราวเกี่ยวกับความพยายามแก้วิกฤตนาทีสุดท้าย อย่างไรก็ตาม แนวโน้มที่เอเธนส์จะไม่สามารถจ่ายหนี้ไอเอ็มเอฟทันเส้นตายก็ฉุดยูโรอ่อนค่าและทำให้ทองคำปรับลด ขณะที่น้ำมันขยับขึ้นจับตาการเจรจานิวเคลียร์อิหร่าน
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 23.16 จุด (0.13 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,619.51 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 5.47 จุด (0.27 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,063.11 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 28.40 จุด (0.57 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,986.87 จุด
ในช่วงไม่กี่ชั่วโมงก่อนครบกำหนดที่ต้องชำระหนี้จำนวน 1,600 ล้านยูโรแก่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) รัฐบาลกรีซได้ยื่นข้อเสนอขอความช่วยเหลือใหม่ไปยังเหล่าเจ้าหนี้นานาชาติ เรียกร้องขอปรับโครงสร้างหนี้ ที่ดูเหมือนว่าเป็นความพยายามครั้งสุดท้ายของเอเธนส์ที่จะฝ่าทางตันกับบรรดาเจ้าหนี้ระหว่างประเทศ
ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวยูโรโซนบอกกับรอยเตอร์ว่า รัฐบาลกรีซบ่งชี้ว่าอาจเปลี่ยนท่าทีต่อประชามติที่กำหนดไว้ในวันอาทิตย์หนี้ (5 ก.ค.) หากคำร้องขอเงินกู้ใหม่ได้รับการเห็นพ้อง
หลังจากเปิดตลาดในแดนบวก ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็แกว่งตัวสู่แดนลบตามตลาดทุนอื่นๆของยุโรป แต่วอลล์สตรีทก็ผันสู่แดนบวกอีกครั้งในช่วงบ่าย ท่ามกลางความหวังต่อวิกฤตหนี้กรีซ หลังนายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซีปราส ส่งสัญญาณแสดงถึงความตั้งใจที่จะเจรจา
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มที่กรีซคงต้องผิดนัดชำระหนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ฉุดให้ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ และส่งผลให้ราคาทองคำเมื่อวันอังคาร (30 มิ.ย.) ปิดลบพอสมควร ท่ามกลางความกังวลต่อแนวโน้มระยะยาวของโลหะมีค่าชนิดนี้ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 7.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,171.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ส่วนราคาน้ำมันในวันอังคาร (30 มิ.ย.) ฟื้นตัวพอสมควร หลังอิหร่านและ 6 ชาติมหาอำนาจขยายเส้นตายบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ ที่อาจเพิ่มเชื้อเพลิงเข้าสู่ตลาดโลก
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 1.14 ดอลลาร์ ปิดที่ 59.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.58 ดอลลาร์ ปิดที่ 63.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นักลงทุนเพ่งเล็งไปที่โต๊ะเจรจานิวเคลียร์อิหร่านในกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เพื่อบรรลุุข้อตกลงฉบับสมบูรณ์ ยุติการเผชิญหน้าระหว่างเตหะรานกับ 6 ชาติมหาอำนาจ เกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ที่ยืดเยื้อมานานกว่า 13 ปี
อิหร่านและมหาอำนาจ P5+1 ได้แก่ 5 ชาติสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่ประกอบด้วย อังกฤษ จีน ฝรั่งเศส รัสเซีย และสหรัฐฯ และบวกหนึ่งคือเยอรมนี เห็นพ้องขยายข้อตกลงชั่วคราวไป 1 สัปดาห์ จนถึงวันที่ 7 กรกฎาคม เพื่อจะได้มีเวลาเพิ่มเติมในการเจรจาให้ได้ข้อตกลงที่ครอบคลุม หลังชัดเจนแล้วว่าคงพลาดเส้นตายในวันอังคาร (30 มิ.ย.)
ภายใต้ข้อตกลงชั่วคราวที่เห็นพ้องกันเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2013 และเป็นที่รู้จักกันในชื่อแผนปฏิบัติการร่วม (Joint Plan of Action) อิหร่านยินยอมที่จะใช้มาตรการบางอย่างเพื่อจำกัดโครงการนิวเคลียร์ของพวกเขาแลกกับการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ ก่อนเดินหน้าเจรจาหาข้อตกลงสุดท้าย
ข้อตกลงยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อเตหะราน จะเปิดทางให้น้ำมันดิบของอิหร่านเข้าสู่ตลาดนานาชาติเพิ่มเติม ในขณะที่อุปทานนั้นก็ล้นตลาดอยู่ก่อนแล้ว