รอยเตอร์/ASTV ผู้จัดการ - จอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เมื่อวันพุธ (22 ก.ค.) ประกาศว่าเขาและสมาชิกคนอื่นๆ ในคองเกรส จะทำทุกอย่างเพื่อหยุดยั้งข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ที่ทางประธานาธิบดีบารัค โอบามา ยกย่องว่าเป็นการก้าวเดินสู่ “โลกที่มีความหวังเพิ่มมากขึ้น”
อิหร่านและมหาอำนาจ 6 ชาติ บรรลุความตกลงด้านนิวเคลียร์ฉบับสมบูรณ์เมื่อวันอังคารที่แล้ว (14 ก.ค.) เป็นการปิดฉากการเจรจามาราธอนยาวนานกว่าทศวรรษ ด้วยข้อตกลงซึ่งน่าจะพลิกโฉมภูมิภาคตะวันออกกลาง
ภายใต้ข้อตกลงที่บรรลุกัน มาตรการลงโทษคว่ำบาตรอิหร่านทั้งของอเมริกา สหภาพยุโรป (อียู) และสหประชาชาติ จะถูกยกเลิก แลกกับการที่เตหะรานตกลงตัดทอนโครงการนิวเคลียร์ของตนลงเป็นระยะเวลายาวนาน ซึ่งฝ่ายตะวันตกระแวงสงสัยว่าโครงการของอิหร่านนี้มีเป้าหมายในการสร้างระเบิดนิวเคลียร์ ข้อกล่าวหาที่เตหะรานปฏิเสธมาตลอด
การบรรลุข้อตกลงครั้งนี้ถือเป็นชัยชนะสำคัญของทั้งโอบามาและเหล่าผู้นำอิหร่าน ทว่าทั้งสองฝ่ายต่างเผชิญการต่อต้านจากนักการเมืองสายเหยี่ยวภายในประเทศ หลังจากสองชาติเป็นศัตรูคู่อาฆาตช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา
“เหล่าสมาชิกสภาคองเกรสจะสอบถามด้วยคำถามที่หนักหน่วงที่สุดในบ่ายวันนี้ ที่เราจะได้พบกับคณะทำงานของประธานาธิบดี และด้วยข้อตกลงที่เลวร้ายนี้คุกคามความมั่นคงของประชาชนอเมริกา เราจะทำทุกทางเพื่อหยุดยั้งมัน” นายโบห์เนอร์บอกกับผู้สื่อข่าว
ทั้งนี้ คองเกรสมีเวลา 60 วันในการพิจารณาข้อตกลง โดยหากโหวตคัดค้าน โอบามาสามารถใช้อำนาจยับยั้งการลงมติดังกล่าว และหากคองเกรสต้องการล้มล้างอำนาจของโอบามา ก็ต้องรวบรวมเสียงให้ได้ 2 ใน 3 นั่นหมายความว่าสมาชิกพรรคเดโมแครตต้องแปรพักตร์มาร่วมคัดค้านข้อตกลงนี้ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นโบแดงด้านนโยบายต่างประเทศของโอบามา
คาดหมายกันว่าสมาชิกเดโมแครตและรีพับลิกันทั้งในสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา จะซักถามอย่างเจ้าหน้าที่รัฐบาลของนายโอบามาอย่างเข้มข้นเกี่ยวกับรายละเอียดของข้อตกลงนี้ ซึ่งมีเป้าหมายผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจแก่อิหร่าน แลกกับเครื่องรับประกันว่าเตหะรานจะไม่แสวงหาทางพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
ด้านรัฐบาลอิสราเอล คู่อริตัวฉกาจของอิหร่าน ในวันพุธ (22 ก.ค.) ก็ยังเดินหน้ากดดันเหล่าสมาชิกสภาคองเกรสให้ขัดขวางข้อตกลงดังกล่าว โดย รอน เดอร์เมอร์ เอกอัครราชทูตยิวประจำวอชิงตัน เข้าพบกลุ่มสมาชิกสภาคองเกรสราว 40 คนเป็นการส่วนตัว
วุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรเต็มคณะ คาดหมายว่าจะเปิดอภิปรายลงมติเห็นชอบหรือปฏิเสธข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านในเดือนกันยายน หลังจากเหล่าสมาชิกคองเกรสกลับมาจากช่วงพักผ่อนในเดือนสิงหาคมแล้ว