เอเจนซีส์ / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - องค์การระหว่างประเทศเพื่อผู้อพยพ (International Organization for Migration : IOM) ระบุ ยอดผู้อพยพทางเรือซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมที่เสียชีวิตขณะพยายามล่องเรือข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเพื่อมุ่งหน้าสู่ทวีปยุโรปในปี 2015 นี้ พุ่งสูงทะลุ 2,000 รายแล้ว
คำแถลงของไอโอเอ็มซึ่งถูกเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชนโดย อิตายี วีร์รี โฆษกประจำองค์กรที่มีฐานอยู่ในนครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์แห่งนี้ระบุว่า นับถึงช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาจำนวนของผู้อพยพและผู้ลี้ภัยที่ต้องจบชีวิตลงกลางทางในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้เพิ่มขึ้นจนมีมากกว่า 2,000 รายแล้วเฉพาะในปี 2015 นี้ ส่งผลให้เส้นทางอพยพทางเรือผ่านทะเลเมดิเตอร์เรเนียนกลายเป็น “เส้นทางมรณะ” สำหรับบรรดาผู้อพยพที่คาดหวังจะเดินทางมาให้ถึงยุโรปเพื่อชีวิตที่ดีกว่า
ด้านวิลเลียม เลซี สวิง ผู้อำนวยการใหญ่ของไอโอเอ็มซึ่งเคยรับหน้าที่เป็นอดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำไลบีเรีย แอฟริกาใต้ เฮติ และสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกมาก่อน ออกมาแถลงเพิ่มเติมว่า ถือเป็นเรื่องที่มิอาจยอมรับได้ที่ยังคงต้องมีผู้คนมากมายจบชีวิตลงในศตวรรษที่ 21 เพราะการหลบหนีจากความขัดแย้งและชะตากรรมที่เลวร้ายในรูปแบบต่างๆ ในประเทศบ้านเกิดของตัวเอง
รายงานข่าวระบุว่า เกือบครึ่งหนึ่งของผู้อพยพทางเรือที่เดินทางจนข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมาได้นั้น ได้ไปขึ้นฝั่งที่อิตาลี ส่วนอีกราวครึ่งหนึ่งเลือกไปขึ้นฝั่งที่ประเทศกรีซ
ข้อมูลล่าสุดของไอโอเอ็มระบุว่า นับตั้งแต่เริ่มปี 2015 นี้เป็นต้นมา ยอดผู้อพยพทางเรือที่ไหลบ่าเข้าสู่อิตาลีนั้นมีจำนวนประมาณ 97,000 คนแล้ว และในจำนวนนี้มีผู้อพยพเคราะห์ร้ายที่มีอันต้องเสียชีวิตกลางทางด้วยสาเหตุต่างๆ รวมถึงการจมน้ำมากกว่า 1,940 คน
ขณะที่เส้นทางอพยพที่มุ่งหน้าสู่กรีซ มีจำนวนผู้อพยพที่มุ่งหน้ามาไม่น้อยกว่า 90,500 ราย แต่ในเส้นทางนี้ พบว่ามีผู้อพยพที่เสียชีวิตกลางทางราว 60 รายเท่านั้น
ในอีกด้านหนึ่ง ประธานาธิบดีมิลอส เซมัน แห่งสาธารณรัฐเช็ก ออกโรงให้สัมภาษณ์ผ่านหนังสือพิมพ์รายวัน “เบลสก์” ในประเทศบ้านเกิดของตัวเอง โดยตำหนิว่าการแทรกแซงทางการเมืองและการทหารของสหรัฐอเมริกา และบรรดาประเทศลิ่วล้อในโลกตะวันตกต่อภูมิภาคตะวันออกกลางและทวีปแอฟริกา คือต้นตอสำคัญของปัญหาความขัดแย้งที่ผลักดันให้เกิดคลื่นผู้อพยพจำนวนมากที่ไหลบ่ามุ่งหน้าสู่ยุโรป
“ความปรารถนาของรัฐบาลวอชิงตันในการแทรกแซงประเทศในภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะในกรณีของลิเบียและซีเรียนั้น ถือเป็นตัวกระตุ้นที่ช่วยขยายวงจรแห่งความขัดแย้งให้ลุกลามบานปลายออกไป และยังผลักดันให้ประชาชนในดินแดนเหล่านี้ต้องหนีตายออกจากประเทศบ้านเกิดของตน เพื่อมุ่งหน้ามาแสวงหาชีวิตใหม่ที่ดีกว่าในยุโรป” ประธานาธิบดีมิลอส เซมัน แห่งสาธารณรัฐเช็กกล่าว
