รอยเตอร์ – ผู้นำทางศาสนาสูงสุดอันดับ 3 ของศาสนาพุทธแบบทิเบต ระบุว่า มันขึ้นอยู่กับองค์ทะไลลามะที่จะตัดสินพระทัยว่า พระองค์จะกลับมาประสูติใหม่อีกครั้งหรือใหม่ หลังจากที่เจ้าหน้าที่จีน กล่าวย้ำหลายครั้งว่า องค์ทะไลลามะทรงไม่มีสิทธิที่จะละทิ้งการกลับชาติมาประสูติใหม่
ออเกียน ทรินเลย์ ดอร์จี ซึ่งดำรงตำแหน่งกรรมาปะลามะ (Karmapa Lama) และอาศัยลี้ภัยอยู่ในอินเดีย บอกกับสถานีวิทยุเอเชียเสรีในการให้สัมภาษณ์ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ว่า ท่าน “เชื่ออย่างเต็มเปี่ยม” ในความสามารถขององค์ดาไลลามะที่จะตัดสินชะตากรรมของพระองค์ภายหลังการสิ้นพระชนม์
“ในธรรมเนียมของทิเบต เราไม่สนทนากันถึงเรื่องการกลับชาติมาเกิดของผู้นำที่ยังมีชีวิตอยู่กันมากนัก” ท่านกล่าวเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (15)
“อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้มีคำถามผุดขึ้นมามากมาย ในมุมมองของอาตมา มีเพียงองค์ทะไลลามะเองเท่านั้นที่ควรตัดสินใจเกี่ยวกับการกลับชาติมาประสูติใหม่ของพระองค์ในอนาคต ดังนั้นอาตมาจึงมั่นใจและมีความเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมในการตัดสินพระทัยของพระองค์ มีข้อความที่เป็นข้อสันนิษฐานและการคาดเดาออกมามากมาย แต่อาตมาหาเป็นกังวลไม่” ท่านกล่าว
แม้ว่าองค์กรรมาปะจะหลบหนีข้ามหิมาลัยในปี 2000 แต่ท่านก็ยังคงได้รับการยอมรับโดยปักกิ่งในฐานะผู้ลงมาเกิดใหม่คนที่ 17 ของเชื้อสายทางจิตวิญญาณของท่าน
ศาสนาพุทธแบบทิเบตเชื่อว่า วิญญาณของลามะอาวุโสจะกลับมาเกิดใหม่ในร่างของเด็กคนใดคนหนึ่งเมื่อลามะองค์นั้นมรณภาพ จีน ระบุว่า ธรรมเนียมนี้จะต้องดำเนินต่อไป และทะไลลามะองค์ต่อไปต้องผ่านการรับรองจากพวกเขา
อย่างไรก็ตาม องค์ทะไลลามะ ซึ่งได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ และหนีออกมาจากบ้านเกิดของพระองค์ในปี 1959 หลังลุกฮือต่อต้านการปกครองของจีนไม่เป็นผลสำเร็จ เคยตรัสไว้ว่า พระองค์คิดว่าตำแหน่งนี้อาจสิ้นสุดเมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์
ชาวทิเบตกลัวว่า จีนจะใช้ประเด็นเรื่องการสืบทอดตำแหน่งทางศาสนาขององค์ทะไลลามะเพื่อแบ่งแยกศาสนาพุทธแบบทิเบตออกเป็นสองส่วน โดยมีทะไลลามะองค์ใหม่ที่แต่งตั้งโดยคณะผู้ถูกเนรเทศ และอีกองค์ที่แต่งตั้งโดยจีน หลังจากที่พระองค์สิ้นพระชนม์
