เอเอฟพี - สตรีชาวทิเบตรายหนึ่งเสียชีวิตในวันนี้ (23 ธ.ค.) หลังจากจุดไฟเผาตัวเองเพื่อประท้วงการปกครองภูมิภาคหิมาลัยแห่งนี้ของจีน กลุ่มสิทธิและสื่อระบุ
เตเป กี จุดไฟเผาตัวเองในย่านกลางเมืองแห่งหนึ่งในเทศมณฑลอาป้า หรือที่รู้จักกันในทิเบตว่า เทศมณฑลหงาป้า ทางตะวันตกเฉียงใต้ของมณฑลเสฉวน กลุ่มทิเบตเสรี (Free Tibet) และกลุ่มวิทยุเอเชียเสรี (Radio Free Asia หรืออาร์เอฟเอ) ซึ่งมีสหรัฐฯ ให้ทุน ระบุ
หญิงสาววัย 20 ปีรายนี้จุดไฟเผาตัวเองเพื่อ “ประท้วงนโยบายกดขี่ข่มเหงของจีน” RFA ระบุในรายงานวันนี้ (23) โดยอ้างจากแห่งข่าวไม่เผยนามในท้องถิ่น
ในช่วงที่ทำการประท้วงดังกล่าว เตเป ใช้ชีวิตอยู่กับพ่อแม่ของเธอในฐานะชนเร่ร่อน และพี่ชายของเธอถูกตำรวจจับแยกตัวออกไปหลังจากเธอเสียชีวิต อาร์เอฟเอ ระบุ โดยอ้างจากแหล่งข่าวท้องถิ่น
การประท้วงดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ในเดือนนี้ในเมืองเดียวกัน ที่คุณพ่อลูกสองรายหนึ่งจุดไฟเผาตัวเองและเสียชีวิตลง ข้อมูลจากโครงการรณรงค์ระหว่างประเทศเพื่อชนชาติทิเบต (ไอซีที) ระบุ
เอเอฟพีได้ติดต่อไปยังตำรวจและฝ่ายปกครองเทศมณฑลอาป้าแล้ว แต่ยังไม่ได้รับคำตอบใดๆ
นับตั้งแต่ปี 2008 มีกรณีจุดไฟเผาตัวแล้วมากกว่า 130 กรณี โดยผู้กระทำมักเสียชีวิตเป็นส่วนใหญ่ ไอซีทีและอาร์เอฟเอระบุ
ไอซีทีและอาร์เอฟเอระบุเมื่อช่วงต้นเดือนว่า ชายชาวทิเบตรายหนึ่งเสียชีวิตหลังจากจุดไฟเผาตัวเองในมณฑลกานซูทางภาคตะวันตกของแดนมังกร
การเผาตัวตายประท้วงเคยเกิดขึ้นมากที่สุดในช่วงก่อนการประชุมใหญ่ที่มีปีละ 5 ครั้งของพรรครัฐบาลคอมมิวนิสต์ในเดือนพฤศจิกายน 2012 และได้ลดน้อยลงมาในช่วงไม่กี่เดือนมานี้
ชาวทิเบตจำนวนมากในแดนมังกรกล่าวหารัฐบาลว่า กดขี่ข่มเหงทางศาสนาและทำให้วัฒนธรรมของพวกเขาเสื่อมโทรม ขณะที่ชาวฮั่นซึ่งเป็นชนหมู่มากของประเทศนี้ย้ายถิ่นฐานเข้ามายังพื้นที่ต่างของทิเบตมากขึ้นเรื่อยๆ
ปักกิ่งประณามการกระทำดังกล่าวและโทษว่าเป็นความผิดขององค์ทะไล ลามะ ผู้นำทางจิตวิญญาณของทิเบตที่ถูกเนรเทศ โดยระบุว่า ท่านใช้พวกเขาเพื่อกระพือประเด็นเรื่องการแบ่งแยกดินแดน
องค์ทะไลลามะ เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพซึ่งอาศัยในอินเดียมาตั้งแต่ปี 1959 ภายหลังการลุกฮือที่ไม่เป็นผลสำเร็จในทิเบต ได้ทรงอธิบายว่าการเผาตัวตายเช่นนี้เป็นการกระทำเพราะความสิ้นหวังซึ่งพระองค์ไม่มีอำนาจพอที่จะหยุดยั้งได้