เอเอฟพี - วันนี้ (12 ก.พ.) รัฐบาลแดนอาทิตย์อุทัยถูกผู้สื่อข่าวชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งกล่าวหาว่าลิดรอนเสรีภาพสื่อ ภายหลังทางการยึดหนังสือเดินทางของชายคนนี้เพื่อสกัดกั้นไม่ให้เขาเดินทางไปยังซีเรีย ดินแดนที่บอบช้ำจากสงคราม
ยูอิจิ ซูกิโมโตะ ช่างภาพอิสระวัย 58 ปี ประกาศจะฟ้องร้องรัฐบาลญี่ปุ่นต่อศาล และเตรียมดำเนินการทางกฎหมายเพื่อนำพาสปอร์ตกลับคืนแล้ว
“การสูญเสียหนังสือเดินทางไป เท่ากับว่าผมได้สูญเสียอาชีพช่างภาพอิสระไปด้วย” ซูกิโมโตะกล่าวกับผู้สื่อข่าวในการแถลงข่าว ณ กรุงโตเกียว
เมื่อวันเสาร์ (7) คือครั้งแรกที่ทางการญี่ปุ่นยึดพาสปอร์ตของผู้สื่อข่าว นับตั้งแต่มีการประกาศใช้กฎหมายรัฐธรรมนูญสมัยใหม่เป็นครั้งแรกเมื่อ 7 ทศวรรษก่อน ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วกระทรวงการต่างประเทศแดนอาทิตย์อุทัยตัดสินใจยึดหนังสือเดินทางของซูกิโมโตะ เพื่อขัดขวางไม่ให้เขาเดินทางไปต่างประเทศ ภายหลังรับทราบว่า เขามีแผนจะเดินทางไปเยี่ยมค่ายผู้ลี้ภัยในซีเรีย ประเทศที่กำลังเกิดสงครามกลางเมือง
รัฐบาลญี่ปุ่นดำเนินการเช่นนี้ ในยามที่โตเกียวพยายามทำใจให้คลายเศร้าจากเหตุกลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรงอิสลามิสต์ในซีเรีย ก่อเหตุสังหารโหดพลเมืองชาวญี่ปุ่น ได้แก่ เคนจิ โกโตะ ผู้สื่อข่าวต่างประเทศ และเพื่อนของเขาชื่อ ฮารูนะ ยูกาวะ
ซูกิโมโตะ ซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองนีงะตะ ทางตอนเหนือของกรุงโตเกียวกล่าวว่า เขามีประสบการณ์ทำงานในเขตสู้รบหลักๆ มานานถึง 2 ทศวรรษ ทั้งในยูโกสลาเวีย อัฟกานิสถาน อิรัก และซีเรีย
เขาเล่าว่า ตนวางแผนจะเดินทางไปเมืองโคบานีของซีเรีย ที่ตั้งอยู่ติดกับพรมแดนตุรกี และเป็นจุดที่กองกำลังชาวเคิร์ดเพิ่งโจมตีขับไล่กลุ่มหัวรุนแรง “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ออกไปได้สำเร็จเมื่อไม่นานมานี้
เขายืนกรานว่าเขาผ่านประสบการณ์ทำงานอย่างโชกโชนมานาน 20 ปี ย่อมรู้ดีว่าจะรักษาชีวิตรอดได้อย่างไร
“นอกจากผมจะอยากได้พาสปอร์ตคืนแล้ว ผมยังเป็นห่วงด้วยว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีแก่ผู้สื่อข่าวคนอื่นๆ แล้วก็หมายความว่าพวกเขาจะต้องโดนยึดหนังสือเดินทางซึ่งถือเป็นการลิดรอนเสรีภาพสื่อ”