รอยเตอร์ - กองกำลังรบภาคพื้นของชาวเคิร์ดในซีเรียสามารถเข้ายึดเมือง “โคบานี” คืนมาจากกลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรง “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ได้สำเร็จ ด้วยความช่วยเหลือจากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ และเหล่าชาติพันธมิตร พล.ท.เจมส์ เทอร์รีแถลงยืนยันวานนี้ (31 ม.ค.)
พล.ท.เทอร์รี ผู้บัญชาการกองกำลังเฉพาะกิจร่วม ซึ่งเป็นหัวเรือใหญ่ในภารกิจโจมตีกลุ่มไอเอส ระบุในคำแถลง ที่กองทัพแดนอินทรีนำออกเผยแพร่ว่า “กองกำลังเคิร์ดภาคพื้น ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของพวกเรา สามารถยึดคืนเมืองโคบานีได้สำเร็จแล้ว” ซึ่งตรงกับสิ่งที่หน่วยป้องกันประชาชนชาวเคิร์ด (YPG) ออกมาเปิดเผยเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ องค์กรเฝ้าระวัง “ซีเรียน ออบเซอร์วาทอรี ฟอร์ ฮิวแมนไรต์ส” ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในอังกฤษ และสื่อของทางการซีเรียรายงานตรงกันว่า หน่วย YPG สามารถยึดคืนเมืองโคบานี ได้อย่างสมบูรณ์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (26) ทว่า เมื่อวันอังคาร (27) เจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ คนหนึ่งชี้ว่า หน่วยรบภาคพื้นของชาวเคิร์ดยังไม่สามารถยึดเมือง ซึ่งตั้งอยู่ติดกับพรมแดนตุรกีแห่งนี้ได้โดยทั้งหมด
คำแถลงเมื่อวันเสาร์ (31) ระบุว่า กองกำลังชาวเคิร์ด ได้โจมตีขับไล่กลุ่มนักรบญิฮาดรัฐอิสลามให้ล่าถอยออกจากเมืองโคบานีไป ตั้งแต่เมื่อวันอังคาร (27)
“กองกำลังเคิร์ดเดินหน้าขยายฐานที่มั่น ให้ครอบคลุมพื้นที่รอบนอกเมืองโคบานี ด้วยการเข้ายึดครองเส้นทางสายหลัก และทางเข้าออกเมือง” คำแถลงระบุว่า
นับตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรได้ดำเนินปฏิบัติการทางอากาศปราบปรามกลุ่มติดอาวุธมุสลิมสุหนี่หัวรุนแรงรัฐอิสลามแล้วกว่า 700 ครั้ง ทั้งในและรอบนอกตัวเมืองโคบานี จนสร้างความเสียหายให้แก่ฐานสู้รบ 280 จุด อาคารเกือบ 100 หลัง ยานพาหนะเทคนิคกว่า 60 คัน และวัสดุอุปกรณ์อื่นๆ คำแถลงชี้แจง
ทั้งนี้ กลุ่มรัฐอิสลาม ซึ่งเข้ายึดครองดินแดนอันกว้างใหญ่ในอิรักและซีเรีย ได้เปิดฉากโจมตีเมืองโคบานี ซึ่งมีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวเคิร์ด เป็นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว ด้วยอาวุธสงครามที่แย่งชิงมาจากอิรัก เป็นเหตุให้ชาวบ้านเรือนหมื่นคนต้องอพยพหนีภัยสู้รบออกจากบ้านเกิดเมืองนอน
