เอเอฟพี – กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ฝ่าด่านกองกำลังชาวเคิร์ดที่พยายามต้านทานอย่างเต็มที่เข้าไปในเมืองโคบานี (Kobane) ของซีเรียซึ่งอยู่ติดพรมแดนตุรกีได้สำเร็จ เมื่อวานนี้ (6) โดยยึด 3 เขตทางตะวันออกของเมืองเอาไว้ได้
โคบานี หรือที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า “อัยน์ อัล-อาหรับ” ถือเป็นสมรภูมิยุทธศาสตร์ระหว่างไอเอสกับฝ่ายตรงข้าม ซึ่งรวมถึงสหรัฐฯกับพันธมิตรยุโรปและตะวันออกกลาง การยึดเมืองแห่งนี้ได้ก็เท่ากับว่าไอเอสจะสามารถควบคุมแนวพรมแดนบางส่วนระหว่างซีเรียกับตุรกี
นักรบญิฮาดหัวรุนแรงกลุ่มนี้ได้เปิดฉากถล่มโคบานีครั้งล่าสุด หลังจากนำกำลังมาตรึงไว้รอบๆ เมืองนานถึง 3 สัปดาห์ รวมถึงส่งมือระเบิดฆ่าตัวตายเข้าไปก่อเหตุ มุสตาฟา เอ็บดี นักเคลื่อนไหวชาวเคิร์ดที่อาศัยอยู่ในเมืองดังกล่าวเขียนบนเฟซบุ๊ก
ศูนย์สังเกตการณ์มนุษยชนซีเรีย รายงานว่า หลังจากไอเอสแทรกซึมเข้าไปในเมืองได้ก็เผชิญการต้านทานอย่างเต็มที่จากกองกำลังชาวเคิร์ด ขณะที่พลเรือนหลายร้อยคนต่างหนีตายมุ่งหน้าไปยังพรมแดนตุรกี
“พวกเขายึดเขตอุตสาหกรรม, มักตาลา อัล-ญาดีดา และกานี อารอบาน ทางภาคตะวันออกของเมืองโคบานี หลังจากต่อสู้อย่างดุเดือดกับหน่วยป้องกันพลเรือนชาวเคิร์ด (YPG)” ซึ่งมีกำลังด้อยกว่าทั้งในด้านจำนวนคนและอาวุธ ศูนย์สังเกตการณ์ซึ่งมีฐานในกรุงลอนดอน ระบุ
มุสตาฟา บาลี โฆษกกองกำลังเคิร์ดในเมืองโคบานี เปิดเผยกับเอเอฟพีว่า พวกเขาประกาศให้พลเรือนทุกคนรีบอพยพออกจากเมือง ซึ่งเวลานี้มีผู้คนทิ้งเมืองไปแล้วประมาณ 2,000 คน
ช่าวภาพเอเอฟพีคนหนึ่งรายงานว่า พบเห็นธงสีดำของกลุ่มไอเอสปลิวสะบัดอยู่ในฝั่งตะวันออกของเมืองโคบานี
ศูนย์สังเกตการณ์ฯ แถลงเพิ่มเติมว่า นักรบหญิงชาวเคิร์ดคนหนึ่งตัดสินใจใช้ระเบิดฆ่าตัวตายถล่มฐานที่มั่นไอเอสในภาคตะวันออกของโคบานีเมื่อวันอาทิตย์(5) หลังจากเห็นว่าฝ่ายตนกำลังเพลี่ยงพล้ำเต็มที ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีรายงานว่านักรบหญิงชาวเคิร์ดใช้กลยุทธ์การต่อสู้แบบนักรบญิฮาด
นักรบหญิงวัย 20 เศษๆ ผู้นี้มีชื่อว่า ดิลาร์ เกนเซมิส หรือ อาริน มีร์คาน เป็นชาวเมืองอาฟรินทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของชาวเคิร์ด
“เธอฆ่าพวกมันไปหลายสิบคน และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของหน่วย YPG ที่จะต่อต้านพวกไอเอส” กลุ่มของเธอระบุ
ไอเอสเริ่มรุกคืบสู่เมืองโคบานีตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน โดยหวังจะควบคุมแนวพรมแดนซีเรียฝั่งที่ติดกับตุรกีไว้ให้ได้ การต่อสู้ที่ดุเดือดส่งผลให้พลเรือนต้องอพยพหนีไปยังตุรกีแล้วกว่า 186,000 คน
เมื่อวานนี้ (6) เจ้าหน้าที่ความมั่นคงตุรกีได้ใช้แก๊สน้ำตาผลักดันผู้สื่อข่าวและพลเรือนชาวเคิร์ดหลายสิบคนออกจากเขตชายแดน ซึ่งเป็นพื้นที่อันตรายเนื่องจากมีกระสุนปืนครกยิงมาตกหลายครั้ง
สัปดาห์ที่แล้ว รัฐสภาตุรกีมีมติเห็นชอบให้รัฐบาลเข้าร่วมกับพันธมิตรต่อต้านไอเอสที่มีสหรัฐฯเป็นผู้นำ ทว่าล่าสุดกรุงอังการายังไม่ประกาศแผนทางทหารใดๆ ออกมา
เจนส์ สโตลเตนเบิร์ก ผู้บัญชาการคนใหม่ของกองกำลังสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ยืนยันวานนี้(6)ว่า นาโตพร้อมจะปกป้องตุรกีซึ่งเป็นชาติสมาชิก หากถูกกลุ่มไอเอสโจมตี
“ตุรกีเป็นพันธมิตรของนาโต และความรับผิดชอบหลักของเราคือการปกป้องบูรณภาพและพรมแดนของตุรกี” สโตลเตนเบิร์ก กล่าว