เอเอฟพี - นักรบชาวเคิร์ดที่ได้รับกำลังสนับสนุนจากปฏิบัติการโจมตีกลุ่มนักรบหัวรุนแรง “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ทางอากาศกำลังต่อสู้เพื่อแย่งชิงเมืองชายแดนสำคัญของซีเรียวานนี้ (5 ต.ค.) ในเวลาที่มีนักรบหญิงคนหนึ่งจุดชนวนระเบิดฆ่าตัวตาย ซึ่งเป็นยุทธวิธีเดียวกับที่นักรบญิฮาดไอเอสใช้
องค์การสังเกตการณ์สถานการณ์มนุษยธรรมแห่งหนึ่งระบุว่า เมื่อวันเสาร์ (4) บรรดานักรบญิฮาดของไอเอสได้บุกยึดพื้นที่บางส่วนของเนินเขาในจังหวัดดะรา ที่มีความสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์ เนื่องจากเป็นจุดที่สามารถมองลงไปเห็นเมืองโคบานี ซึ่งตั้งอยู่ติดกับชายแดนซีเรีย - ตุรกี แต่สหรัฐฯ และบรรดาชาติพันธมิตรอาหรับได้เปิดฉากโจมตีระลอกใหม่ จนสามารถชะลอไม่ให้กลุ่มหัวรุนแรงกลุ่มนี้สามารถรุกคืบเข้าสู่พื้นที่ได้โดยเร็ว
อีดริส นาห์เซน เจ้าหน้าที่ในเมืองโคบานีระบุว่า นักรบกลุ่มไอเอสตรึงกำลังอยู่ห่างจากเมืองนี้ไปเพียง 1 กิโลเมตร พร้อมทั้งชี้ว่า การใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเพียงอย่างเดียวจะไม่สามารถหยุดยั้งการรุกรานของนักรบกลุ่มนี้ได้
เขาชี้ว่า กลุ่มชาติพันธมิตรที่ผนึกกำลังกันปราบปรามไอเอสนั้นยังขาดการประสานงานกับกองกำลังชาวเคิร์ดที่ปฏิบัติการภาคพื้น
ระหว่างที่มีสัญญาณว่า กองกำลังเคิร์ดจะไม่สามารถทัดทานกลุ่มไอเอสที่มุ่งบุกตีเมืองโคบานีได้ต่อไป องค์การสังเกตการณ์ด้านมนุษยธรรม “ซีเรียน ออบเซอร์วาทอรี ฟอร์ ฮิวแมนไรตส์” รายงานว่า มีมือระเบิดฆ่าตัวตายหญิงจุดชนวนระเบิดตัวเอง บริเวณฐานที่มั่นของกลุ่มไอเอส ทางภาคตะวันออกของเมืองโคบานี
รามี อับเดล ราห์มาน ผู้อำนวยการศูนย์แห่งนี้กล่าวถึงรายงานที่ว่า พบเห็นนักรบหญิงชาวเคิร์ดใช้ยุทธวิธีการโจมตีด้วยระเบิดฆ่าตัวตายแบบที่ไอเอสใช้บ่อยๆ เป็นครั้งแรกว่า “ปฏิบัติการของเธอได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายคน แต่ยังไม่สามารถยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตได้”
เมืองโคบานี ซึ่งตั้งอยู่บริเวณพรมแดนซีเรีย-ตุรกี ได้กลายเป็นสมรภูมิแห่งสำคัญในการสู้รบระหว่างนานาชาติกับกลุ่มไอเอส โดยเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นักรบญิฮาดกลุ่มนี้ได้จุดประกายให้เกิดความแค้นเคืองอีกครั้ง ด้วยการแพร่คลิปวีดีโอที่ถ่ายทอดการฆ่าตัดคอพลเมืองชาวอังกฤษ อลัน เฮนนิง
คลิปวีดีโอดังกล่าว นับเป็นการเผยภาพการฆ่าตัดศีรษะตัวประกันชาวตะวันตกระลอกล่าสุด ซ้ำยังขู่ตัดหัวตัวประกันชาวอเมริกันอีกคนหนึ่ง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือ ชื่อ ปีเตอร์ แคสซิก
องค์การ ซีเรียน ออบเซอร์วาทอรี ฟอร์ ฮิวแมนไรตส์ ซึ่งมีที่ตั้งสำนักงานใหญ่ในอังกฤษระบุว่า เกิดการสู้รบปะทุขึ้นรอบเมืองโคบานี ในเวลาที่กลุ่มนักรบญิฮาดเดินหน้าปิดล้อมเมืองนี้มานานเกือบ 3 สัปดาห์แล้ว
แม้ว่าจะยังไม่ทราบจำนวนผู้เสียชีวิตวานนี้ (5) แต่จากการสอบถามเครือข่ายแหล่งข่าวซึ่งอยู่ในพื้นที่ องค์กรเฝ้าระวังแห่งนี้พบว่า เมื่อวันเสาร์ (4) มีนักรบไอเอส สิ้นชีพไปอย่างน้อย 33 คน และมีสมาชิกกองกำลังชาวเคิร์ดเสียชีวิตไป 23 คน
เมื่อวันที่ 16 กันยายน ไอเอสได้รุกคืบเข้าใกล้เมืองโคบานี โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อตรึงกำลังตลอดแนวชายแดนตุรกี - ซีเรีย
การจู่โจมของกลุ่มหัวรุนแรงได้จุดประกายให้ชาวบ้านจำนวนมหาศาลทั้งในและรอบนอกเมืองโคบานี พากันอพยพหนีการรุกราน โดยมีประชาชนเข้าหนีภัยสู้รบเข้าไปขอลี้ภัยในตุรกีถึงราว 186,000 คน
เมื่อเดือนมิถุนายน กลุ่มติดอาวุธมุสลิมสุหนี่หัวรุนแรง ไอเอส ได้ยึดพื้นที่อันกว้างใหญ่ในอิรักและซีเรีย พร้อมทั้งประกาศสถาปนาการปกครองแบบ “กาหลิบอิสลาม” และบังคับใช้กฎหมายอิสลาม ซึ่งผ่านการตีความอย่างแข็งกร้าวโดยกลุ่มรัฐอิสลาม
ภายหลังการเปิดฉากโจมตีกลุ่มไอเอส เป็นครั้งแรก เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา วอชิงตันได้ชักชวนหลายชาติเข้าร่วมเป็นพันธมิตรในการดำเนินปฏิบัติการจู่โจมกลุ่มรัฐอิสลามทางอากาศ
อังกฤษและฝรั่งเศสได้เข้าร่วมปฏิบัติการปราบปรามกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงกลุ่มนี้ที่อิรัก ขณะที่เบลเยียมส่งเครื่องบินเอฟ 16 ออกไปทิ้งระเบิดโจมตีเป็นครั้งแรกเมื่อวันอาทิตย์ (5)
เมื่อวันอาทิตย์ (5) เนเธอร์แลนด์ และออสเตรเลียได้ส่งฝูงบินขับไล่ออกปฏิบัติภารกิจในอิรักเป็นหนแรกแต่ยังไม่ได้ทิ้งระเบิดโจมตีแม้แต่ครั้งเดียว
ในขณะเดียวกัน 5 ชาติอาหรับ ได้แก่ บาห์เรน จอร์แดน กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้เข้าร่วมกับสหรัฐฯ ในปฏิบัติการโจมตีกวาดล้างกลุ่มไอเอสในซีเรีย
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐสภาตุรกีได้มอบอำนาจให้รัฐบาลเข้าร่วมภารกิจปราบปรามภายใต้การนำของสหรัฐฯ ทว่าจนถึงตอนนี้รัฐบาลตุรกีก็ยังไม่ได้ออกมาประกาศแผนการสำหรับปฏิบัติการทหาร